The Palm (copy)

ปลูกผักสวนครัวริมรั้วแบบไหนที่ปลูกง่าย ดูแลสะดวก เก็บกินได้นานตลอดปี?

การปลูกผักสวนครัวริมรั้วเป็นวิธีใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากจะได้ผักปลอดสารพิษไว้รับประทานแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบริเวณบ้าน โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด บทความนี้จะแนะนำผักสวนครัว 10 ชนิดที่เหมาะสำหรับปลูกริมรั้ว ดูแลง่าย และสามารถเก็บเกี่ยวได้ยาวนานตลอดปี

กระเจี๊ยบเขียวปลูกในเข่งได้ผลดีจริงหรือไม่?

กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่เหมาะกับการปลูกริมรั้วหรือในภาชนะ เช่น เข่งหรือกระถาง เพราะมีความสูงที่เหมาะสมประมาณ 40 เซนติเมตร – 2 เมตร ทำให้จัดการพื้นที่ได้ง่าย สำหรับการปลูกในเข่ง สามารถใช้เข่งขนาด 15 นิ้วหรือเบอร์ 6 เริ่มด้วยการรองก้นเข่งด้วยกาบมะพร้าวสับเพื่อช่วยในการระบายน้ำ ตามด้วยดินปลูกที่ผสมปุ๋ยอินทรีย์

ต้นกล้าควรมีอายุประมาณ 25 วันก่อนย้ายลงปลูกในเข่ง โดยใน 1 เข่งสามารถปลูกได้ 2 ต้น หลังจากปลูกเสร็จ ควรกลบหน้าดินด้วยกาบมะพร้าวสับเพื่อรักษาความชุ่มชื้น และใช้น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำรดให้ชุ่ม ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อราและกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก

การดูแลในช่วงแรกควรรดน้ำเช้า-เย็นทุกวัน หลังปลูกไป 3 วัน ควรตัดยอดเพื่อให้แตกกิ่งข้าง และใช้ฮอร์โมนไข่นมสดผสมน้ำพ่นในตอนเช้าทุก 3 วัน ประมาณวันที่ 10 ควรใส่ปุ๋ยมูลไก่อัดเม็ดโดยโรยรอบขอบเข่ง และวันที่ 20 ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 กระเจี๊ยบเขียวจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุประมาณ 40 วัน และเก็บเกี่ยวได้เมื่อฝักยาว 4-9 เซนติเมตร

กระถินในกระถางอยู่ได้นานแค่ไหนและเก็บกินอย่างไรให้มีตลอด?

กระถินเป็นไม้ยืนต้นที่เหมาะสำหรับปลูกเป็นรั้วและสามารถปลูกในกระถางได้อย่างง่ายดาย การปลูกในกระถางควรใช้กระถางขนาดประมาณ 1 ฟุต ใส่ใบไม้หรือกิ่งไม้อ่อนรองก้นกระถางเพื่อป้องกันดินไหลออก และเติมดินผสมที่ประกอบด้วยดินเก่า ปุ๋ยคอก แกลบดำ และขุยมะพร้าว อย่างละ 1 ส่วน

การเพาะกระถินทำได้ง่าย โดยหยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดลงในกระถาง กลบด้วยดินบางๆ และรดน้ำ เมล็ดจะงอกภายใน 1 เดือน เมื่อต้นโตขึ้น สามารถเติมดินเพิ่มและปลูกไว้ข้างรั้วเพื่อป้องกันกระถางล้ม

กระถินสามารถอยู่ได้หลายปี และให้ผลผลิตตลอดทั้งปี การดูแลไม่ยุ่งยาก เพียงรดน้ำทุก 3 วัน เนื่องจากเป็นพืชทนแล้ง และตัดแต่งกิ่งให้มีขนาดเหมาะสม โดยเฉพาะหากปลูกชิดรั้วของเพื่อนบ้าน นอกจากจะเก็บยอดอ่อนและใบมารับประทานแล้ว ยังสามารถตัดยอดที่เก็บไม่ทันไปทำปุ๋ยหมักหรือใช้เป็นอาหารสัตว์ได้อีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก : Sanook

ผักหวานป่าออกยอดน้อย มีเทคนิคอะไรช่วยได้บ้าง?

ผักหวานป่าเป็นผักที่มีรสชาติหวานมัน ไม่มีกลิ่น แต่มักโตช้าและปลูกยากกว่าผักหวานบ้าน หากต้องการให้ผักหวานป่าออกยอดดีและสามารถเก็บตัดขายได้ทั้งปี มีเทคนิคดังนี้

เริ่มต้นด้วยการรองก้นหลุมด้วยขี้วัว ปลูกหลังจากเพาะกล้าได้ประมาณ 1 เดือน โดยขุดหลุมปลูกไม่ลึกมาก ระยะปลูกควรเป็น 1×1 เมตร (ได้ 400 ต้นต่อไร่) หรือ 2×2 เมตร (ได้ 200 ต้นต่อไร่) ในช่วงแรกควรครอบต้นอ่อนด้วยกระถางหรือเข่งไม้ไผ่เพื่อลดปริมาณแสงแดดที่ได้รับเป็นเวลา 1 ปี

หลังปลูกเสร็จ ต้องให้น้ำสม่ำเสมอประมาณ 1 เดือนก่อนฤดูฝนจะมาถึง ฤดูกาลแตกยอดของผักหวานป่าเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกปี ในช่วงนี้ควรตัดแต่งกิ่งเพื่อกระตุ้นการแตกยอด และใส่ปุ๋ยคอกประเภทขี้วัว ขี้หมู หรือขี้ไก่ ปีละ 2-3 ครั้ง

เทคนิคพิเศษสำหรับการเพิ่มผลผลิตคือการพ่นน้ำหมักชีวภาพจากหัวปลีฉีดพ่นบริเวณยอดผักหวาน ซึ่งจะช่วยให้ยอดยืดยาวและมีน้ำหนักดีขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ปลูกกะเพราต้นเดียวจะดกได้อย่างไร เคล็ดลับไหนที่คนปลูกต้องรู้?

กะเพราเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมายและเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร การปลูกกะเพราให้ได้ผลผลิตดกมีเทคนิคสำคัญดังนี้

การขยายพันธุ์ที่ได้ผลดีที่สุดคือการปักชำกิ่ง เพราะกะเพราจะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าการเพาะเมล็ด เริ่มจากเลือกกิ่งกะเพราที่สมบูรณ์ ไม่มีโรคแมลง เป็นกิ่งกลางแก่กลางอ่อนที่ยังไม่ออกดอก ตัดกิ่งให้ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว แล้วนำมาปักในกระถางที่มีดินร่วนซุย ปักให้เอียงทำมุม 45 องศา กลบดินให้แน่น และรดน้ำให้ชุ่ม

การปลูกควรเลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน เพราะกะเพราชอบแสงแดดจัด รดน้ำให้ดินชุ่มอยู่เสมอแต่ไม่แฉะ และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง

เคล็ดลับสำคัญในการเก็บเกี่ยวกะเพราให้มีผลผลิตตลอดปีคือ แทนที่จะเด็ดใบทีละใบ ควรตัดทั้งยอด วิธีนี้จะกระตุ้นให้ต้นแตกยอดใหม่และใบที่งอกออกมาจะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม หากเก็บไม่ทัน ควรตัดยอดทิ้งทุกสัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้แก่และออกดอก

นอกจากนี้ ต้องตัดดอกทิ้งทันทีเมื่อเห็นดอกตูม เพราะดอกจะดึงสารอาหารไปเลี้ยง ทำให้ต้นโทรมและมีอายุสั้นลง ด้วยการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการรดน้ำและใส่ปุ๋ย ต้นกะเพราจะแข็งแรงและให้ผลผลิตได้ตลอดปี

พริกปลูกในกระถางได้ผลผลิตดีจริงหรือ? เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?

การปลูกพริกในกระถางเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดและต้องการมีพริกสดไว้ใช้ในครัวเรือน พริกเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 1-2.5 เมตร สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับกระถางได้

เริ่มต้นด้วยการเตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ เมล็ดพริก ดินร่วนปนทราย น้ำอุ่น ภาชนะสำหรับเพาะต้นกล้า กระถางสำหรับปลูก และปุ๋ย นำเมล็ดพริกแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 1 วัน นำออกมาผึ่งแดดก่อนนำไปเพาะในภาชนะที่มีดินร่วนผสมปุ๋ย โดยเจาะดินเป็นหลุมแล้วหยอดเมล็ด กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่มีแสงแดด

เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบ ให้คัดเลือกต้นที่แข็งแรงที่สุดมาปลูกในกระถางที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ ในช่วงแรกควรรดน้ำทุกวัน แต่เมื่อพริกเริ่มติดดอกและผล สามารถลดความถี่ลงได้

การดูแลที่ดีคือรดน้ำให้เหมาะสม พรวนดินสม่ำเสมอ กำจัดวัชพืช และไม่ให้ดินแฉะ พริกต้องการแสงแดดจัด จึงควรวางกระถางในที่ที่แดดส่องถึง หากดูแลดี พริกจะให้ผลผลิตหลังปลูกประมาณ 2-3 เดือน และสามารถเก็บผลผลิตได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ตำลึงปลูกอย่างไรให้แน่ใจว่าได้ตำลึงเพศเมียที่รสชาติดี?

ตำลึงเป็นผักสวนครัวที่ปลูกง่ายและเจริญเติบโตได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ตำลึงมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งตำลึงเพศเมียจะมีรสชาติอร่อยกว่า โดยมีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ ตำลึงเพศเมียจะมีขอบใบหยักเว้าตื้นๆ ใบป้อมเกือบกลม ส่วนตำลึงเพศผู้จะมีขอบใบหยักเว้าลึกเกือบถึงโคนใบ

การปลูกตำลึงให้ได้ต้นเพศเมียที่มีรสชาติดี ควรเริ่มด้วยการเลือกกิ่งพันธุ์จากตำลึงเพศเมียที่รู้จัก โดยเลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่เป็นสีน้ำตาล มีขนาดเท่าดินสอ ตัดเป็นท่อนให้มี 3 ข้อ ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตัดโคนกิ่งให้อยู่ใต้ข้อ และริดใบออก

นำกิ่งพันธุ์มาปักชำในกระถางหรือพื้นที่ที่มีดินร่วนผสมอินทรียวัตถุ รดน้ำให้ชุ่มเช้า-เย็น และวางในที่แสงแดดรำไร หากปลูกริมรั้ว ควรเตรียมโครงสำหรับให้ตำลึงเลื้อยพัน ประมาณ 1 สัปดาห์ ตำลึงจะเริ่มแตกใบ เมื่อต้นแข็งแรง จึงย้ายไปปลูกในตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดมากขึ้น

เทคนิคในการดูแลตำลึงให้ได้ผลผลิตดี คือ หมั่นให้น้ำสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้ต้นเหี่ยว หมั่นเด็ดยอดบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้แตกยอดใหม่มากขึ้น และใส่ปุ๋ยอินทรีย์เดือนละ 1-2 ครั้ง เมื่อตำลึงเริ่มแตกยอดดก สามารถเก็บมาประกอบอาหารได้ตามต้องการ

ฟักเขียวโตเร็วจริงหรือไม่? ปลูกอย่างไรให้ได้ผลในเวลาไม่นาน?

ฟักเขียวเป็นพืชผักเศรษฐกิจที่ลงทุนน้อยแต่เก็บเกี่ยวได้เร็ว เป็นไม้เลื้อยอายุสั้นที่เหมาะสำหรับปลูกริมรั้วหรือทำค้างให้เลื้อย วิธีการปลูกฟักเขียวให้ได้ผลดีมีดังนี้

เริ่มจากการเตรียมดิน โดยไถดินตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคประมาณ 7-10 วัน จากนั้นพรวนดินให้ร่วนซุย และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าให้เข้ากันเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน

การเพาะเมล็ดฟักเขียวทำได้โดยนำเมล็ดแช่น้ำ 2-3 ชั่วโมง แล้วห่อด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ ใส่ในกระติกน้ำแข็ง (ไม่ต้องมีน้ำแข็ง) ปิดฝา รอประมาณ 3 วันเมล็ดจะเริ่มงอก นำไปใส่ถาดเพาะกล้า ทิ้งไว้ 15 วัน จนต้นอ่อนยาวประมาณ 3 เซนติเมตร จึงย้ายลงแปลงหรือริมรั้ว

การขุดหลุมปลูกให้ลึกเพียง 3-5 เซนติเมตรก็เพียงพอ เมื่อต้นอายุประมาณ 15-20 วัน ควรทำค้างหรือปล่อยให้เลื้อยตามรั้ว ฟักเขียวเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี ควรหมั่นรดน้ำสม่ำเสมอ แต่ระวังอย่าให้น้ำท่วมขัง และไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแดดจัดเกินไป

ด้วยการดูแลที่เหมาะสม ฟักเขียวจะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและให้ผลผลิตภายในเวลาไม่นาน ทำให้เป็นพืชที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะเวลาอันสั้น

มะเขือเทศปลูกริมรั้วได้หรือไม่? ควรดูแลอย่างไรให้ออกผลดก?

มะเขือเทศเป็นพืชที่สามารถปลูกริมรั้วได้ เพราะมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ยกึ่งเลื้อย มีความสูงประมาณ 50-150 เซนติเมตร ทำให้จัดการพื้นที่ได้ง่าย โดยอาจทำค้างหรือเชือกให้เลื้อยไปตามรั้ว

การปลูกมะเขือเทศให้ออกผลดกควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะในหน้าหนาว เพราะอุณหภูมิและความชื้นในช่วงนี้เหมาะกับการติดผล อย่างไรก็ตาม หากต้องการปลูกในช่วงอื่น สามารถทำได้โดยมีการดูแลที่เหมาะสม

เริ่มปลูกด้วยการเตรียมดินให้ร่วนซุย ผสมปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มธาตุอาหาร ในช่วง 50 วันแรกหรือช่วงที่ยังเป็นต้นกล้า ควรรดน้ำสม่ำเสมอและให้ได้รับแสงแดดที่เพียงพอ หลังจากต้นโตเต็มที่ สามารถลดปริมาณน้ำลงได้

การตัดแต่งกิ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับมะเขือเทศ โดยควรตัดกิ่งที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีและลดโอกาสเกิดโรค รวมถึงช่วยให้แสงแดดส่องถึงผลมะเขือเทศได้ทั่วถึง ควรเด็ดยอดเมื่อต้นสูงประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อให้แตกกิ่งข้างและออกผลมากขึ้น

นอกจากนี้ การใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง จะช่วยส่งเสริมการออกดอกและติดผล ทำให้มะเขือเทศมีผลผลิตดกและมีคุณภาพดี

โหระพาปลูกง่ายแต่แตกกิ่งไม่ดี ทำไมและแก้ไขอย่างไร?

โหระพาเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กที่มีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับปลูกริมรั้วหรือในกระถาง หากประสบปัญหาโหระพาไม่แตกกิ่ง มีเทคนิคการแก้ไขดังนี้

การปลูกโหระพาสามารถทำได้ทั้งการปักชำและเพาะเมล็ด แต่การปักชำจะให้ผลเร็วกว่าและควบคุมลักษณะพันธุ์ได้ดีกว่า โดยเลือกกิ่งโหระพาที่แข็งแรง ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ตัดใบล่างออกให้เหลือใบบนไว้ 2-3 คู่ แล้วนำไปปักในดินร่วนผสมขุยมะพร้าว รดน้ำให้ชุ่ม

สาเหตุหลักที่โหระพาไม่แตกกิ่งอาจเกิดจากการได้รับแสงไม่เพียงพอ การใส่ปุ๋ยไม่เหมาะสม หรือการปล่อยให้ออกดอกเร็วเกินไป ปกติโหระพาชอบแสงแดดจัด แต่ไม่ควรให้แดดจัดเกินไปจนใบไหม้ ควรได้รับแสงประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

เทคนิคสำคัญในการกระตุ้นให้โหระพาแตกกิ่งคือ การตัดยอดหรือเด็ดยอดเมื่อต้นสูงประมาณ 15 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้แตกกิ่งข้าง และการตัดช่อดอกออกทันทีที่เห็น เพราะการออกดอกจะทำให้การเจริญเติบโตชะงัก ใบเล็กลง และกลิ่นหอมลดลง

นอกจากนี้ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง และการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่ให้แฉะ จะช่วยให้โหระพาเจริญเติบโตได้ดี มีใบดกและหอม การเก็บเกี่ยวควรใช้มีดตัดยอดหรือกิ่ง ไม่ควรเด็ดเฉพาะใบ เพราะจะทำให้ต้นไม่แตกยอดใหม่และทำให้ผลผลิตลดลง

สรุป

การปลูกผักสวนครัวริมรั้วเป็นวิธีดีที่ช่วยประหยัดพื้นที่และได้ผักปลอดสารพิษไว้รับประทานเอง ทั้งกระเจี๊ยบเขียว กระถิน ผักหวาน เล็บครุฑ กะเพรา พริก ตำลึง ฟักเขียว มะเขือเทศ และโหระพา ล้วนเป็นพืชผักที่ปลูกง่าย ดูแลสะดวก เหมาะกับการปลูกริมรั้วบ้าน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อย ก็สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมได้ ทั้งการปลูกลงดินหรือในภาชนะ เช่น กระถาง เข่ง หรือถุงปลูก โดยหลักการดูแลทั่วไปคือให้น้ำ แสงแดด และปุ๋ยอย่างเหมาะสม หมั่นตัดแต่งกิ่งและเก็บเกี่ยวอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้มีผักสดสะอาดไว้รับประทานได้ตลอดทั้งปี

#สาระ #ผักสวนครัว #ปลูกริมรั้ว #กระเจี๊ยบเขียว #กระถิน #ผักหวาน #เล็บครุฑ #กะเพรา #พริก #ตำลึง #ฟักเขียว #มะเขือเทศ #โหระพา

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
“ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ส่งมอบรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีให้กับลูกค้า มั่นใจ แม้ดูรถไม่เป็น ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองคุณภาพดีได้
อสังหาฯ เดือด BAM ลดหนักจัดเต็ม FLASH SALE 7.7
ข่าวสาร
พรีโม ผนึก 3 พันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ มอบสิทธิพิเศษซ่อมห้องชุด ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน* ตอกย้ำ Primo Care เคียงข้างคุณด้วยความใส่ใจ
ข่าวสาร
BAM ร่วมกับ ปันกัน สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ในกิจกรรม “BAM x ปันกัน ปันของรัก ส่งน้องเรียน”
ข่าวสาร
SAM “ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ร่วมออกบูท “มันนี่ เอ็กซ์โป หาดใหญ่” จัดโปรฯเด่นทรัพย์มือสองฟรี! ค่าโอน และ“คลินิกแก้หนี้ by SAM”ช่วยแก้หนี้สารพัดบัตร
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..