The Palm (copy)

V-ZUG ผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติสวิส เดินหน้าขับเคลื่อนการออกแบบเพื่อความยั่งยืน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, วันที่ 25 มิถุนายน 2568 – V-ZUG (เฟา-ซูก) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สานต่อความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในงานเสวนา V-ZUG Thailand Sustainability Talk 2025 ภายใต้แนวคิด “Form, Function & Flavour: มุมมองข้ามวงการว่าด้วยความยั่งยืนในเชิงสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน ไลฟ์สไตล์ และศาสตร์การปรุงอาหาร” ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน และวงการอาหาร มาร่วมแบ่งปันมุมมองในการผสมผสานมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลกเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างกลมกลืน เวทีนี้จัดขึ้นที่ V-ZUG Studio Bangkok ได้จุดประกายบทสนทนาอันทรงคุณค่า เพื่อร่วมกำหนดอนาคตอย่างรับผิดชอบและตระหนักรู้ของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แบรนด์ V-ZUG ก่อตั้งขึ้นที่เมืองซูก (ZUG) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลาถึง 112 ปี พร้อมความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นและนวัตกรรมระดับ Swiss-made รวมถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อพันธกิจด้านความยั่งยืน โดย V-ZUG ดำเนินงานตามกรอบ 3Ps ได้แก่ Planet (โลก), People (ผู้คน) และ Profit (ผลกำไร) สร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทนทานและสามารถบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรต่าง ๆ เช่น น้ำ สารทำความสาอาด และพลังงาน นอกจากนี้ V-ZUG ยังชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านโครงการ V-Forest ที่ช่วยฟื้นฟูผืนป่า จนถึงตอนนี้มีการปลูกต้นไม้ไปแล้วประมาณหนึ่งล้านต้น ทั้งยังส่งเสริมการบริโภคอย่างรับผิดชอบโดยการให้ความรู้แก่ลูกค้าในเรื่องการลดปริมาณขยะจากอาหารอีกด้วย

V-ZUG ผสมผสานความแม่นยำแบบสวิสเข้ากับความยั่งยืน โดยลงทุนกว่า 300 ล้านฟรังก์สวิสในกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% มีการออกแบบโรงงาน Zephyr East เป็นแนวตั้งเพื่อลดการใช้พื้นที่ดิน มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเลือกวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนประกอบ อาทิ ไม้จากท้องถิ่นในสวิตเซอร์แลนด์ และเหล็กรีไซเคิล โดย 80% ของขยะทั้งหมดจะนำมารีไซเคิล และดำเนินกิจการบนแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ถือได้ว่า V-ZUG สามารถกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการผลิตที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ยังออกแบบภายใต้หลักการ “Design to Circularity” ที่เน้นย้ำเรื่องความทนทานและสามารถรีไซเคิลได้ ขณะที่นโยบายภาษีคาร์บอนยังมีส่วนช่วยผลักดันการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม สิ่งของต่าง ๆ หมุนเวียนมาใช้ใหม่ได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น โต๊ะ “Adora Table” ที่ผลิตจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ V-ZUG ในการพัฒนานวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ

แองเจลีน ยับ กรรมการผู้จัดการ V-ZUG ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงแนวทางความยั่งยืนแบบองค์รวมของแบรนด์ว่า “ที่ V-ZUG เราเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนควรเริ่มต้นจากการปลูกฝังแนวคิดให้แก่คนรุ่นใหม่เพื่อสร้างจิตสำนึกต่อโลก อย่างการหลีกเลี่ยงการบริโภคอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งหลักคิดนี้ได้แทรกอยู่ในกระบวนการการออกแบบของเราทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน มุ่งลดสิ่งที่เกินจำเป็น แต่ยังคงรักษาความหรูหราอันยั่งยืนไว้ได้อย่างลงตัว V-ZUG ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุจากแหล่งท้องถิ่น การใช้แสงธรรมชาติ และการชดเชยการปล่อยคาร์บอนผ่านโครงการปลูกต้นไม้เพื่อชดเชยผลกระทบจากการนำเข้าสินค้า ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าหมายด้วยตัวชี้วัด (KPIs) จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคภายในองค์กร ให้เน้นการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าแต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สอดรับกับแนวทางการดำเนินกิจการที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญของ V-ZUG”

การคัดสรรวัตถุดิบและรังสรรค์อาหารอย่างสร้างสรรค์

เชฟตาม – ชุดารี เทพาคำ เชฟและเจ้าของร้านอาหารบ้านเทพา ระดับ 2 ดาวมิชลิน และเชฟแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ V-ZUG ที่ได้ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์เบื้องหลังความสำเร็จของ บ้านเทพา ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ตั้งอยู่ในบ้านเก่าที่ได้รับการบูรณะใหม่ โดยยึดมั่นแนวคิดความยั่งยืนมาโดยตลอด บ้านเทพามีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเกษตรกรท้องถิ่น และยึดมั่นในหลักการเลือกใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย ปลอดสารเคมี และมีคุณภาพสูง โดยกว่า 85% ของผักที่ใช้ในร้านมาจากสวนเกษตรอินทรีย์ของทางร้าน ซึ่งได้รับการบำรุงด้วยปุ๋ยหมักจากเศษอาหารในครัว พนักงานทุกคนได้รับการอบรมเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ การถนอมอาหาร และการหมักดองอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณขยะจากอาหารให้เหลือเพียง 8 – 10 กิโลกรัมต่อวันภายในปี 2026 นอกจากนี้ บ้านเทพายังได้ร่วมมือกับกลุ่มดีไซเนอร์ไทย Waste Matter ในการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้จากอาหารให้กลายเป็นของตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ เช่น เชิงเทียนจากเปลือกไข่และเปลือกอาหารทะเล

เชฟตาม เชื่อมโยงความหลงใหลของเธอในเรื่องความยั่งยืนเข้ากับค่านิยมของแบรนด์ V-ZUG โดยมองบทบาทแบรนด์แอมบาสเดอร์ว่าเป็นโอกาสเพื่อรวมแนวคิดนี้ไว้ในผลงานของเธอ โดยกล่าวว่า “การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเป็นทั้งไลฟ์สไตล์และทางเลือก เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านการคิดอย่างรอบคอบเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน ล้วนทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น การออกแบบที่สวยงามและใช้งานง่ายไม่เพียงช่วยให้เพลิดเพลินกับการทำอาหาร แต่ยังทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงวัสดุที่ใช้ก็ช่วยถนอมอาหารได้นานขึ้น ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกันหมด ความสะดวกสบายเป็นหัวใจสำคัญ เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่เอื้อให้ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้ง่ายขึ้น ก็ทำให้คนเปิดใจและทำได้จริงในชีวิตประจำวัน”

การใช้ชีวิตใต้ร่มวัฒนธรรมเชิงสถาปัตยกรรม

ขณะที่วิถีชีวิตเป็นตัวกำหนดรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คน สถาปัตยกรรมก็ช่วยจัดสรรพื้นที่เพื่อรองรับวิถีนั้นได้อย่างกลมกลืน กุลธิดา ทรงกิตติภักดี สถาปนิกและผู้ร่วมก่อตั้ง Jenchieh Hung + Kulthida Songkittipakdee/ HAS Design and Research และผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ASA) ผู้ก่อตั้ง HAS ขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงภาควิชาการและภาคปฏิบัติด้านสถาปัตยกรรมของจีนและไทย ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสถาปัตยกรรมเพื่อความยั่งยืนที่หยั่งรากลึกในวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น มีผลงานสำคัญ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Simple Art Museum) ประเทศจีน ที่ถ่ายทอดการตีความเมืองสมัยใหม่ผ่านการจัดผังพื้นที่ริมน้ำ โรงแรม InJoy Snow Hotel ประเทศไทย อาคารยุคกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ และพลิกโฉมใหม่ด้วยแรงบันดาลใจจากบรรยากาศหิมะบนภูเขา โครงการ Forest Villa ประเทศจีน ที่นำองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมไทยเดิมมาดัดแปลงใหม่ให้หลอมรวมไปกับธรรมชาติรอบด้าน และ Museum of Modern Aluminium (MoMA) ประเทศไทย ที่ใช้องค์ประกอบอะลูมิเนียมแบบแยกส่วน ร่วมกับการจัดแสงที่มีมิติ เปลี่ยนอาคารให้แปรเปลี่ยนเสมือนประติมากรรมมีชีวิต

กุลธิดา ยังเผยให้ทราบถึงความเกี่ยวโยงที่เพิ่มขึ้นเรี่อย ๆ ของความยั่งยืนและสถาปัตยกรรมไว้อย่างน่าสนใจว่า “ ความยั่งยืน กลายมาเป็นที่นิยมมาร่วม 15 ปี แล้ว และทุกวันนี้ก็ได้เปลี่ยนจากความคิดในภาคใหญ่ไปสู่เรื่องเล็ก ๆ ใกล้ตัว เมื่อกล่าวถึงความยั่งยืนในบริบทที่กว้างเกินไปจนคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสิ่งใกล้ตัวทั้งยังเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น ความยั่งยืนที่แท้จริงจึงเกิดจากการสร้างพื้นที่ที่สามารถสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งเชื่อมโยงผู้คนกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างกลมกลืน โดยการออกแบบที่คำนึงถึงอัตลักษณ์และบริบท คือหัวใจของงานสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน และเป็นแนวทางที่จะขับเคลื่อนอนาคตของวงการออกแบบต่อไป”

การออกแบบภายในเพื่อสุนทรียะแห่งการอยู่อาศัย

การออกแบบภายในมีบทบาทสำคัญต่อการยกระดับที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและความเป็นอยู่ที่ดี สายวิภา พัฒนพงศ์พิบูล มัณฑนากรและผู้ก่อตั้งบริษัท P49 Deesign & Associate และสมาชิกคณะกรรมการสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA) เน้นย้ำว่า ความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบที่แยกไม่ออกจากความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) และควรถูกบูรณาการตั้งแต่เริ่มวางแผนงานออกแบบไม่ใช่เพียงแค่การเลือกใช้วัสดุเท่านั้น ผลงานที่สะท้อนแนวคิด เช่น Sukhumvit 28 Residence การรีโนเวตบ้านยุค 1950 โดยยังคงเก็บรักษารายละเอียดงานไม้แกะสลักดั้งเดิม และนำพื้นไม้เก่ามาใช้ใหม่อย่างประณีต เป็นการผสมผสานความงามแบบร่วมสมัยเข้ากับความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีรสนิยม ในปัจจุบัน ลูกค้าหลายรายหันมาให้ความสำคัญกับการระบายอากาศและแสงตามธรรมชาติ เช่นที่ 7-27 Residence ซึ่งออกแบบให้พื้นที่รับประทานอาหารเปิดรับวิวสวนกลางบ้านและแสงธรรมชาติอย่างลงตัว ขณะที่ Sky Ground Residence เลือกใช้สีทาภายในที่ปราศจากสาร VOC และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered wood) ที่ช่วยลดการปล่อยสารพิษและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สำหรับการออกแบบในกลุ่มลักซ์ชัวรี่ เทคโนโลยีควรกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่ใช้งานอย่างกลมกลืน ทั้งวัสดุและโทนสีที่ช่วยเสริมเสน่ห์ของพื้นที่ เช่นในโครงการ Dusit Central Park Residence ที่ใช้แสงธรรมชาติและไม้วีเนียร์ (Wood Veneer) มาเติมเต็มความหรูหราให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียมได้อย่างงดงาม ท้ายที่สุดแล้ว ความหรูหราที่แท้จริง คือ การออกแบบพื้นที่ที่สวยงาม และเกื้อหนุนทั้งความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนและความยั่งยืนของโลกด้วย

จากประสบการณ์มากมาย สายวิภา เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบตกแต่งภายใน และนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ว่า “ความหรูหราในวันนี้คือ ความยืดหยุ่น (Flexibility) ที่พื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ เช่น การเปลี่ยนห้องหนึ่งให้กลายเป็นห้องเลี้ยงเด็กโดยไม่ต้องรื้อโครงสร้างใหญ่ทั้งหมด สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คนในแต่ละยุคสมัย ความหรูหราที่แท้จริง คือ การออกแบบที่ใส่ใจทั้งด้านการใช้งาน ความงาม และความสุขในการอยู่อาศัย องค์ประกอบต่าง ๆ เครื่องใช้ที่ประหยัดพื้นที่ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ล้วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน การได้ร่วมงานกับ V-ZUG คือการเปิดมิติใหม่ของการใช้ชีวิตที่นิยามความหรูหราให้เป็นทั้งการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและสร้างความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน”

งานเสวนา V-ZUG Sustainability Talk 2025 ที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ได้กลายเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนแนวคิดและตอกย้ำพันธกิจของแบรนด์ในการขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยเน้นย้ำถึงการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับการออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดโอกาสให้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ รวมถึงค่านิยมของผู้คนในแต่ละพื้นที่ วิสัยทัศน์แห่งการอยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่นี้ สะท้อนถึงการหลอมรวมประสิทธิภาพ ความสง่างาม และความยั่งยืนเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันอย่างมีความรับผิดชอบ นอกจากนี้ แขกรับเชิญและผู้เข้าร่วมงานยังได้ลิ้มรสอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟจาก V-ZUG ตามแนวคิด Zero Waste ส่งมอบความยั่งยืนที่อร่อยและมีความหมายได้ในเวลาเดียวกัน

 

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
มาแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว! “แมทเทอร์ งามวงศ์วาน” พรีเมียมทาวน์โฮม 3 ชั้น แบรนด์ใหม่จาก SC Asset ยอดจองพุ่งกว่า 40% ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ Gen Z ด้วยดีไซน์ Modern Contemporary เรียบง่ายแต่มีสไตล์ บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วนศรีรัชเพียง 5 นาที* เพียง 44 ครอบครัวเท่านั้น
ข่าวสาร
SCG ผนึก Serendix รุกตลาดก่อสร้างญี่ปุ่น ผลักดัน “SCG 3D Printing Mortar” เชิงพาณิชย์ ยกระดับงานก่อสร้างยุคใหม่สู่เวทีโลก
ข่าวสาร
แม่มาแล้ว! Mariah Carey คอนเฟิร์มบินตรงไทย ร่วมทัวร์สุดท้ายในเอเชีย!
ข่าวสาร
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รุกกลยุทธ์ใหม่ ส่ง “Plus Consultancy” บริการที่ปรึกษาอสังหาฯ รูปแบบ Customize เลือกใช้เฉพาะส่วนได้!
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา อัดโปรชวนช้อปฉลองเงินเดือนออกกับ “Flash Deal Payday” ช้อปแฟชั่นและเครื่องสำอางสุดคุ้ม พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มหลายต่อ
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..