เมื่อพูดถึงการดูแลสัตว์เลี้ยง หลายคนอาจนึกถึงการอาบน้ำ แปรงขน หรือพาไปฉีดวัคซีน แต่มีอีกหนึ่งเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม นั่นคือ การตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยง ซึ่งแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับมีความสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยงของเรา บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าทำไมการตัดขนบริเวณนี้จึงสำคัญ พร้อมทั้งวิธีการดูแลที่ถูกต้องเหมาะสม
ความสำคัญของการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยง
การตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยง หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า “Sanitary Trim” ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือความสะอาดเท่านั้น แต่เป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในสัตว์ที่มีขนยาวหรือขนหนา เช่น สุนัขพันธุ์ชิสุ พูเดิ้ล โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ หรือแมวเปอร์เซีย เมนคูน เป็นต้น
สัตว์เลี้ยงที่มีขนยาวรอบบริเวณทวารมักประสบปัญหาสุขอนามัยได้ง่าย เพราะขนที่ยาวเกินไปจะเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรก เช่น อุจจาระที่ติดขน ปัสสาวะที่เปียกขน หรือแม้แต่การสะสมของแบคทีเรียที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ การปล่อยให้ขนรอบทวารยาวเกินไปยังอาจเป็นสาเหตุของการอุดตันของต่อมสกังค์ (anal glands) ในสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นต่อมที่ผลิตสารคัดหลั่งที่มีกลิ่นเฉพาะตัว ใช้ในการบ่งบอกอาณาเขตและส่งสัญญาณทางสังคมระหว่างสัตว์ด้วยกัน ต่อมเหล่านี้จะระบายออกตามธรรมชาติเมื่อสัตว์ขับถ่าย แต่หากมีขนปกคลุมมากเกินไป อาจทำให้ต่อมเหล่านี้ไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ ทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งฝีได้

ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ตัดขนรอบทวาร
การละเลยการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายประการ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสะอาดเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยมีดังนี้:
- ปัญหาเรื่องกลิ่นตัว: ขนที่ปนเปื้อนด้วยปัสสาวะและอุจจาระจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้จะอาบน้ำแล้วแต่หากไม่ได้ทำความสะอาดบริเวณนี้อย่างทั่วถึง กลิ่นจะยังคงอยู่และอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
- การติดเชื้อบริเวณผิวหนังรอบทวาร: ขนที่เปียกชื้นและมีสิ่งสกปรกติดอยู่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังรอบทวาร เกิดอาการคัน แดง และอาจมีหนองได้
- ปัญหาขนพันกัน (Matting): ในสัตว์ที่มีขนยาวหรือขนหนา ขนรอบทวารที่ไม่ได้รับการตัดแต่งมักจะพันกันเป็นก้อน ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่สวยงามเท่านั้น แต่ยังอาจดึงรั้งผิวหนังจนเกิดความเจ็บปวดและการอักเสบได้
- การอุดตันของต่อมสกังค์: เมื่อต่อมสกังค์ไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติเนื่องจากมีขนปกคลุมมากเกินไป จะทำให้สารคัดหลั่งสะสมอยู่ภายใน เกิดการอักเสบ และอาจลุกลามเป็นฝีได้ในที่สุด
- ปัญหาเรื่องพยาธิ: ขนรอบทวารที่สกปรกเป็นที่อยู่อาศัยที่ดีของพยาธิบางชนิด เช่น เห็บ หมัด หรือไร ซึ่งสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้
- ปัญหาระบบทางเดินอาหาร: ในบางกรณี สัตว์เลี้ยงอาจกินขนที่ติดอุจจาระเข้าไปในระหว่างการเลียตัวทำความสะอาด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น การอุดตันในลำไส้ ท้องผูก หรือการอาเจียนได้
- ความเครียดในสัตว์เลี้ยง: เมื่อสัตว์เลี้ยงรู้สึกไม่สบายตัวจากขนที่สกปรกหรือขนพันกัน อาจก่อให้เกิดความเครียดและพฤติกรรมผิดปกติ เช่น การเลียหรือกัดบริเวณทวารมากเกินไป การถูกับพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์เพื่อบรรเทาอาการคันx

สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยง
การสังเกตสัญญาณต่างๆ จะช่วยให้คุณทราบว่าถึงเวลาที่ต้องตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงแล้วหรือไม่ สัญญาณที่ควรสังเกตมีดังนี้:
- มีคราบอุจจาระติดที่ขน: หากคุณสังเกตเห็นว่ามีคราบอุจจาระติดที่ขนรอบทวารของสัตว์เลี้ยง นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่าขนบริเวณนั้นยาวเกินไปและต้องได้รับการตัดแต่ง
- กลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์: แม้จะอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงแล้ว แต่หากยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะจากบริเวณท้ายตัว อาจเป็นเพราะมีสิ่งสกปรกตกค้างในขนรอบทวาร
- พฤติกรรมการเลียหรือกัดบริเวณทวารบ่อยครั้ง: หากสัตว์เลี้ยงของคุณแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ อาจเป็นเพราะรู้สึกไม่สบายตัวจากขนที่สกปรกหรือขนพันกัน
- การถูก้นกับพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์: พฤติกรรมนี้อาจบ่งบอกถึงความไม่สบายตัวหรืออาการคัน ซึ่งอาจเกิดจากขนรอบทวารที่สกปรกหรือการอักเสบของต่อมสกังค์
- ขนพันกันเป็นก้อน: หากสังเกตเห็นว่าขนรอบทวารของสัตว์เลี้ยงพันกันเป็นก้อน ควรตัดออกโดยเร็ว เพราะนอกจากจะไม่สวยงามแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บปวดและการติดเชื้อได้
- ความยากในการขับถ่าย: หากสัตว์เลี้ยงของคุณมีท่าทางลำบากหรือไม่สบายตัวในระหว่างการขับถ่าย อาจเป็นเพราะขนรอบทวารยาวเกินไปจนรบกวนการขับถ่ายตามปกติ
- ปัสสาวะเปียกขนที่ท้อง: โดยเฉพาะในสุนัขตัวผู้หรือแมวตัวผู้ ขนที่ยาวบริเวณท้องอาจเปียกจากปัสสาวะและนำไปสู่ปัญหาผิวหนังได้

วิธีการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง
การตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่หากทำอย่างระมัดระวังและถูกวิธี จะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ได้ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนและเทคนิคในการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง:
อุปกรณ์ที่จำเป็น
- กรรไกรปลายมน: ควรใช้กรรไกรปลายมนเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดขนใกล้ผิวหนังบริเวณที่บอบบาง
- ปัตตาเลี่ยนหรือเครื่องตัดขนไฟฟ้า: ใช้เครื่องตัดขนที่มีปลอกหวีระดับความสูงที่เหมาะสม หากคุณมีความชำนาญและสัตว์เลี้ยงของคุณยอมรับเสียงและการสั่นของเครื่อง
- หวีโลหะ: สำหรับแปรงขนให้เรียบร้อยและสามารถมองเห็นบริเวณที่ต้องตัดได้ชัดเจน
- ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนู: สำหรับทำความสะอาดบริเวณที่จะตัดก่อนเริ่มต้น
- ขนมรางวัลหรือของเล่น: เพื่อให้รางวัลและทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลายระหว่างการตัดขน
- ผู้ช่วย: หากเป็นไปได้ ควรมีผู้ช่วยในการจับยึดสัตว์เลี้ยงให้อยู่นิ่งๆ ขณะตัดขน
ขั้นตอนการตัดขน
- เตรียมสัตว์เลี้ยงให้พร้อม: อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิทก่อนเริ่มตัดขน เพื่อให้ขนเรียบและง่ายต่อการตัด
- จัดท่าให้เหมาะสม: วางสัตว์เลี้ยงในท่าที่สบายและมั่นคง ควรมีผู้ช่วยจับยึดเพื่อให้สัตว์อยู่นิ่ง หรืออาจใช้อุปกรณ์ช่วยยึด เช่น สายจูงนิรภัยสำหรับโต๊ะตัดขน
- สำรวจบริเวณที่จะตัด: ใช้หวีแปรงขนรอบทวารให้เรียบ สำรวจดูว่ามีขนพันกันเป็นก้อนหรือสิ่งสกปรกติดอยู่หรือไม่ พยายามกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกก่อนเริ่มตัด
- เริ่มตัดจากด้านนอกเข้าสู่ด้านใน: เริ่มตัดขนจากบริเวณรอบนอกเข้าสู่ตรงกลาง ใช้มือข้างหนึ่งดึงผิวหนังให้ตึงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากกรรไกรหรือปัตตาเลี่ยน
- ตัดขนให้สั้นพอดี: ตัดขนให้สั้นพอที่จะไม่มีสิ่งสกปรกติดค้าง แต่ไม่ควรตัดจนชิดผิวหนังเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังบอบบางระคายเคืองได้ ความยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตรจากผิวหนังถือว่าเหมาะสม
- ระวังไม่ให้บาดเจ็บ: ระมัดระวังเป็นพิเศษในการตัดขนบริเวณใกล้ทวารและอวัยวะเพศ หลีกเลี่ยงการกดกรรไกรหรือปัตตาเลี่ยนแรงเกินไป
- ตรวจสอบผลลัพธ์: หลังจากตัดเสร็จ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัดขนเรียบร้อยดี ไม่มีขนพันกันหรือสิ่งสกปรกตกค้าง และไม่มีบาดแผลจากการตัด
- ทำความสะอาดบริเวณที่ตัด: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่ตัดขน เพื่อกำจัดเศษขนและทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกสบายตัว
- ให้รางวัล: ให้ขนมรางวัลหรือคำชม เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีประสบการณ์ที่ดีและยอมรับการตัดขนครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น
เทคนิคเพิ่มเติม
- ฝึกสัตว์เลี้ยงให้คุ้นเคย: เริ่มฝึกให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับการตัดขนตั้งแต่ยังเล็ก โดยเริ่มจากการสัมผัสบริเวณที่จะตัด แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาและความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
- แบ่งการตัดเป็นช่วงสั้นๆ: หากสัตว์เลี้ยงของคุณไม่ชอบการตัดขน อาจแบ่งการตัดเป็นช่วงสั้นๆ หลายๆ ครั้ง แทนที่จะทำทั้งหมดในครั้งเดียว
- ใช้น้ำยาระงับกลิ่น: หลังจากตัดขนและทำความสะอาดแล้ว อาจใช้น้ำยาระงับกลิ่นสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือน้ำมันที่มีกลิ่นฉุน: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุนหรือสารเคมีรุนแรงบริเวณทวารของสัตว์เลี้ยง เพราะอาจทำให้ระคายเคืองผิวหนังหรือสัตว์เลียกินเข้าไปได้
ความถี่ในการตัดขนรอบทวาร
ความถี่ในการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พันธุ์สัตว์ ความยาวและความหนาของขน ฤดูกาล และพฤติกรรมการขับถ่าย โดยทั่วไปแล้ว มีคำแนะนำดังนี้:
- สัตว์ที่มีขนยาวหรือขนหนา: ควรตัดขนรอบทวารทุก 3-4 สัปดาห์ เช่น สุนัขพันธุ์ชิสุ พูเดิ้ล หรือแมวเปอร์เซีย
- สัตว์ที่มีขนปานกลาง: ควรตัดขนรอบทวารทุก 4-6 สัปดาห์ เช่น สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ หรือแมวเมนคูน
- สัตว์ที่มีขนสั้น: อาจไม่จำเป็นต้องตัดขนรอบทวารบ่อยนัก อาจตัดทุก 6-8 สัปดาห์หรือเมื่อสังเกตเห็นว่าขนเริ่มยาวเกินไป
- ช่วงที่มีอาหารเปลี่ยนแปลง: หากสัตว์เลี้ยงของคุณมีการเปลี่ยนแปลงอาหารหรือมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร อาจต้องตัดขนรอบทวารบ่อยขึ้นในช่วงนั้น
- ช่วงที่มีปัญหาสุขภาพ: หากสัตว์เลี้ยงมีปัญหาสุขภาพที่ทำให้ท้องเสียหรือมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ควรดูแลความสะอาดบริเวณทวารอย่างใกล้ชิดและอาจต้องตัดขนบ่อยกว่าปกติ
- ช่วงฤดูร้อนหรือฤดูที่อากาศร้อนชื้น: ในช่วงนี้ สัตว์เลี้ยงมักมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวและการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ง่าย จึงควรตัดขนรอบทวารให้สั้นกว่าปกติและอาจต้องตัดบ่อยขึ้น

เมื่อไหร่ควรปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตัดขน
แม้ว่าการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่เจ้าของสามารถทำได้เอง แต่ในบางกรณี ควรปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ ดังนี้:
- สัตว์เลี้ยงที่ไม่ยอมอยู่นิ่ง: หากสัตว์เลี้ยงของคุณดิ้นรนหรือพยายามกัดในระหว่างการตัดขน ควรปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตัด เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณและสัตว์เลี้ยง
- มีปัญหาขนพันกันรุนแรง: หากขนรอบทวารพันกันเป็นก้อนใหญ่และแน่น อาจต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์พิเศษในการตัด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมีความชำนาญมากกว่า
- สัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาสุขภาพ: หากสัตว์เลี้ยงของคุณมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคผิวหนัง โรคข้อต่ออักเสบ หรือมีบาดแผลบริเวณทวาร ควรให้ผู้เชี่ยวชาญหรือสัตวแพทย์เป็นผู้ตัดขน
- สัตว์เลี้ยงสูงอายุหรือตัวอ่อน: สัตว์เลี้ยงที่สูงอายุหรือยังเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กๆ อาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมีประสบการณ์และเทคนิคในการจัดการที่ดีกว่า
- เมื่อต้องการบริการเสริมอื่นๆ: ร้านตัดขนสัตว์มักให้บริการเสริมอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การระบายต่อมสกังค์ การตัดเล็บ หรือการทำความสะอาดหู ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร
- ไม่มั่นใจในทักษะของตนเอง: หากคุณไม่มั่นใจในทักษะการตัดขนของตนเอง หรือกลัวว่าจะทำให้สัตว์เลี้ยงได้รับบาดเจ็บ ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ เพราะความผิดพลาดในการตัดขนบริเวณทวารอาจนำไปสู่การบาดเจ็บที่รุนแรงได้

การดูแลบริเวณทวารสัตว์เลี้ยงนอกเหนือจากการตัดขน
นอกจากการตัดขนรอบทวารแล้ว ยังมีวิธีการดูแลบริเวณนี้เพิ่มเติมเพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีและสะอาดอยู่เสมอ:
- การทำความสะอาดประจำวัน: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือกระดาษทิชชู่เปียกสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เช็ดทำความสะอาดบริเวณทวารหลังจากที่สัตว์เลี้ยงขับถ่าย โดยเฉพาะในสัตว์ที่มีขนยาว
- การใช้โลชั่นหรือครีมป้องกันผิวแห้ง: หากบริเวณรอบทวารของสัตว์เลี้ยงมีอาการแห้งหรือแตก อาจใช้โลชั่นหรือครีมที่ออกแบบมาสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ (ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับมนุษย์)
- การระบายต่อมสกังค์: สัตว์เลี้ยงบางตัว โดยเฉพาะสุนัข อาจมีปัญหาต่อมสกังค์ไม่ระบายตามธรรมชาติ ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น สัตว์ลากก้นไปกับพื้น หรือเลียบริเวณทวารบ่อยๆ และพาไปพบสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยระบายต่อมสกังค์
- การอาบน้ำด้วยแชมพูอ่อนๆ: ใช้แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิวหนัง ในการทำความสะอาดบริเวณทวารระหว่างการอาบน้ำ
- การตรวจสอบเห็บหมัด: ตรวจสอบบริเวณทวารและโคนหางเป็นประจำว่ามีเห็บหมัดหรือไม่ เพราะบริเวณนี้เป็นจุดที่เห็บหมัดชอบเกาะ
- การเสริมอาหารเพื่อระบบทางเดินอาหาร: อาหารที่มีกากใยสูงหรือการเสริมโพรไบโอติกอาจช่วยให้การขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงเป็นไปอย่างปกติ ลดโอกาสการเกิดท้องเสียหรือท้องผูก
- การดูแลน้ำหนัก: สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักเกินมักมีปัญหาในการทำความสะอาดตัวเอง โดยเฉพาะบริเวณทวาร ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
สรุป
การตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในการดูแลสัตว์เลี้ยง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีความสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง การละเลยการดูแลบริเวณนี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ตั้งแต่ปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ไปจนถึงการติดเชื้อที่รุนแรง
การตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพองค์รวม ร่วมกับการอาบน้ำ การแปรงขน การตัดเล็บ และการพาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ เมื่อทำเป็นประจำและสม่ำเสมอ จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี ไม่มีกลิ่นตัว และมีความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น
การตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงเป็นการดูแลที่อาจต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าเมื่อเห็นสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีและมีความสุข การลงทุนเวลาและความพยายามในการดูแลบริเวณนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและความทุกข์ทรมานของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว
เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรเรียนรู้วิธีการตัดขนรอบทวารอย่างถูกต้อง หรือหากไม่มั่นใจ ควรพาสัตว์เลี้ยงไปให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ การดูแลเรื่องเล็กๆ นี้จะส่งผลใหญ่ต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก
การให้ความสำคัญกับการตัดขนรอบทวารสัตว์เลี้ยงแสดงถึงความรับผิดชอบและความใส่ใจของคุณในฐานะเจ้าของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของคุณสมควรได้รับ
#สัตว์เลี้ยง #สาระ #การตัดขนสัตว์เลี้ยง #สุขภาพสัตว์เลี้ยง #การดูแลสุนัข #การดูแลแมว #ปัญหาต่อมสกังค์ #สุขอนามัยสัตว์เลี้ยง #SanitaryTrim #การกรูมมิ่ง #สัตว์เลี้ยงขนยาว #การตัดแต่งขนสัตว์