“บมจ.ทีฆาก่อสร้าง หรือ TEKA” หุ้นรับเหมาสุดแกร่ง!! ประกาศผลงานปี 2567 บุ๊คกำไรนิวไฮ 112.61 ลบ. โต 47.08% มีรายได้ 1,939.15 ลบ. ตุน Backlog แข็งแกร่ง อยู่ที่ 2,800 ลบ. ด้านบอร์ดชงจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.155บ./หุ้น กำหนด Record date วันที่ 5 มี.ค. 2568 และจ่ายเงินปันผล วันที่ 20 พ.ค. 2568

ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดปี 2567 กำไรสุทธิจำนวน 112.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.08% เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 76.56 ล้านบาท และคิดเป็นผลกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.38 บาทต่อหุ้น โดยสัดส่วนกำไรสุทธิเทียบรายได้รวมในปี 2567 เทียบกับปี 2566 อยู่ที่ 5.81% และ 3.72% ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าถึงแม้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะมีแนวโน้มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเพิ่มราคาของวัสดุหลักและการปรับเพิ่มของค่าแรงงาน แต่ทางบริษัทฯได้มีการบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี แม้ในปี 2567 รายได้รวมอยู่ที่ 1,939.15 ล้านบาท ลดลง 5.70% จากปี 2566 มีรายได้อยู่ที่ 2,056.37 ล้านบาท สาเหตุการลดลงของรายได้เนื่องจากมีงานโครงการใหม่ที่เริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2567 ซึ่งยังมีมูลค่าไม่มาก ประกอบกับงานโครงการเดิมอยู่ในช่วงส่งมอบงานระยะสุดท้ายของโครงการเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 4/2567 มีรายได้จากการก่อสร้างอยู่ที่ 446.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.42 ล้านบาท ปรับลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 50.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.92% และมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/2567 และไตรมาส 4/2566 เทียบกับรายได้จากการก่อสร้าง คิดเป็นร้อยละ 11.40 และ 8.14 ตามลำดับ อีกทั้ง บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นสะสมของปี 2567 เท่ากับ 261.27 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.77% ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 33.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.49% เนื่องจากบริษัทฯมีการวางแผนบริหารปรับลดต้นทุนตามนโยบายของบริษัทฯ เป็นประจำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

โดย ณ สิ้นปี 2567 (31 ธันวาคม 2567) บริษัทมี Backlog แข็งแกร่งอยู่ที่ 2,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2568 – 2570 และบริษัทมุ่งหวังที่จะเพิ่ม Backlog อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 10% จากปีก่อน

นอกจากนี้ ดร.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.155 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 46.50 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลที่ 41.29% ของกำไรสุทธิ กำหนดให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2568 และจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ การจ่ายปันผลดังกล่าวของบริษัท ยังมีความไม่แน่นอนเพราะต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นก่อน โดยบริษัทฯ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในวันที่ 23 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ผ่านระบบการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์