แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยซ่อนความเจ็บป่วยได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยสัญชาตญาณการอยู่รอดตามธรรมชาติ พวกมันจะพยายามปกปิดอาการป่วยเพื่อไม่ให้ดูอ่อนแอต่อผู้ล่า การเรียนรู้และสังเกตสัญญาณเตือนต่างๆ จึงเป็นทักษะสำคัญที่เจ้าของแมวทุกคนควรมี เพื่อให้สามารถดูแลและช่วยเหลือเพื่อนขนฟูได้อย่างทันท่วงที

การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
ความผิดปกติในการนอน: สัญญาณเงียบแห่งความทุกข์
แมวโดยปกติจะนอนวันละ 12-16 ชั่วโมง แต่หากสังเกตเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ ให้ระวัง:
- นอนมากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะแมวที่เคยซุกซน
- การนอนในท่าที่ผิดธรรมดา เช่น นอนหดตัวแน่นิ่ง หรือนอนในมุมอับ
- หลีกเลี่ยงการนอนในที่เคยชอบนอน
- การนอนในพื้นที่เย็นหรือแข็ง
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และปฏิสัมพันธ์
- ถอยห่างจากเจ้าของและสมาชิกในบ้าน
- ไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชอบ เช่น การเล่น การตะคริว
- แสดงอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว หรือตื่นตระหนก
- ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกหรือการสัมผัสเหมือนเดิม

สัญญาณทางร่างกาย
ระบบย่อยอาหาร: เครื่องชี้วัดสุขภาพ
- อาเจียนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอาเจียนสีเขียว เหลือง หรือมีเลือด
- ท้องเสียเรื้อรัง หรือมูลมีสีผิดปกติ
- เบื่ออาหารอย่างฉับพลัน
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
- กินอาหารน้อยลง หรือไม่ยอมกินเลย
- อาการท้องผูก ถ่ายยาก
ผิวหนังและขน: กระจกสะท้อนสุขภาพ
- ขนหงิก แห้ง หรือร่วงผิดปกติ
- ผิวหนังแห้ง คัน มีผื่น หรือแผลพุพอง
- สีขนเปลี่ยนแปลง ดูหมองคล้ำ
- มีตุ่ม ก้อน หรือจุดผิดปกติตามตัว
- เห็นเห็บ หมัด หรือปรสิตบนตัว
ระบบหายใจ: สัญญาณอันตราย
- ไอเรื้อรัง หรือไอติดต่อกันนาน
- หายใจมีเสียงวี๊ด หอบถี่
- หายใจลำบาก หรือใช้ปากหายใจ
- มีน้ำมูกผิดปกติ สีขุ่น หรือมีเลือด
- เสียงแหบหรือเปลี่ยนแปลง

สัญญาณทางสรีระ
ดวงตา: หน้าต่างแห่งความผิดปกติ
- ตาแดง อักเสบ หรือบวม
- น้ำตาไหลมาก
- เยื่อบุตาอักเสบ
- แสดงอาการปิดตา หรือถูกตาบ่อย
- มีของเหลวสีขุ่นรอบดวงตา
- กระจกตามัวหรือขุ่น
การเคลื่อนไหว: สัญญาณเตือนทางกายภาพ
- เดินโซ หรือขาก้าว
- การทรงตัวไม่ปกติ
- ไม่สามารถกระโดดหรือปีนป่ายเหมือนเดิม
- มีอาการกระตุก หรือเคลื่อนไหวลำบาก
- การทรงตัวเสีย หรือเดินวนซ้ำๆ
ระบบขับถ่าย: เส้นทางแห่งความผิดปกติ
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
- ปวดหรือมีเลือดปนในปัสสาวะ
- ถ่ายลำบาก หรือปวดเบ่ง
- ปัสสาวะหรือถ่ายนอกกระบะทราย
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบสัตวแพทย์ทันที
อาการฉุกเฉิน
- ไข้สูงเกิน 39.5 องศาเซลเซียส
- อาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง
- ถ่ายเป็นเลือดสด หรือมูลดำ
- ไม่รับประทานอาหารนานเกิน 24 ชั่วโมง
- มีอาการช็อก หรือหมดสติ
- หายใจลำบากอย่างรุนแรง
- มีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง
สาเหตุการเจ็บป่วยบ่อยในแมว
- อายุ (ลูกแมวและแมวสูงอายุมีความเสี่ยงสูง)
- พันธุกรรม
- การได้รับวัคซีนไม่ครบ
- สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
- โภชนาการที่ไม่สมดุล
- ความเครียด
สรุป
การสังเกตอย่างใกล้ชิดและรู้จักแมวของตนเองเป็นอย่างดีจะช่วยให้คุณสามารถตรวจจับความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ควรจัดทำบันทึกสุขภาพประจำวัน และไม่ลังเลที่จะพาไปพบสัตวแพทย์เมื่อสงสัยว่ามีอาการผิดปกติ การดูแลด้วยความรัก ความเอาใจใส่ และความเข้าใจจะช่วยให้แมวของคุณมีชีวิตที่มีความสุขและยืนยาว
#แมว #สุขภาพแมว #การดูแลแมว #อาการป่วยของแมว #สัตวแพทย์ #สุขภาพสัตว์เลี้ยง #แมวน่ารัก #สาระ #สัตว์เลี้ยง