บมจ. สแกน อินเตอร์ หรือ SCN เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 หุ้นกู้ระยะยาว ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด โดยกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.00% ต่อปี วงเงิน 50 ล้านบาท และชุดที่ 2 หุ้นกู้ระยะยาว ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อายุ 11 เดือน อัตราดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี วงเงิน 100 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 150 ล้านบาท เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 26-27 ก.พ. นี้

นายธัญชาติ กิจพิพิธ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2568 จำนวน 2 ชุด วงเงินรวมกันไม่เกิน 150 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ระยะยาว ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด อายุ 1 ปี 6 เดือน กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 11 เดือน กำหนดอัตราดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 ซึ่งกำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยบริษัทฯ จะนำเงินไปใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาธุรกิจของ SCN และต่อยอดขยายธุรกิจเดิม อีกทั้งชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ (roll-over) ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคม 2568 ด้วย
ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และสามารถเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ซึ่งผู้ที่สนใจลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด ได้ในระหว่างวันที่ 26-27 ก.พ. นี้
สำหรับแผนงานของ SCN จะมุ่งศึกษา พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนประเทศไทยมุ่งสู่การใช้และการผลิตพลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยบริษัทฯ สามารถต่อยอดการออกแบบทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีพลังงานต่างๆ ให้ภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรมกว่า 20 ปี เพื่อสร้างความหลากหลาย เพิ่มช่องทางการเลือกใช้พลังงาน/ เชื้อเพลิงสะอาดให้แก่ประเทศ อาทิเช่น 1. ก๊าซชีวภาพ (Biogas) สามารถออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ระบบก๊าซชีวภาพครบวงจร (Turnkey) เพื่อนำไปใช้ในภาคขนส่ง และอุตสาหกรรม ทั้งการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียด้วยบ่อหมัก (Biogas Digester) การปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพ (Upgrading Plant) การแปรรูปก๊าซชีวภาพเพื่อขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบก๊าซชีวภาพอัด (CBG) หรือ ก๊าซชีวภาพเหลว (Bio-LNG)
- ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับภาคขนส่ง ซึ่ง SCN เตรียมเปิดตัวรถขนส่งใช้เชื้อเพลิง LNG ทั้ง 2 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น ระบบฉีดร่วมดีเซล-LNG (Diesel Dual Fuel หรือ DDF) และ ระบบ LNG เดี่ยว (Dedicated Engine หรือ DDE) ซึ่ง LNG นอกจากเป็นพลังงานสะอาด มีต้นทุนราคาที่ถูกว่าน้ำมันดีเซลอย่างมีนัยยะสำคัญ 3. สถานีบริการ (LNG) บริษัทฯ มีแผนลงทุนก่อสร้างสถานีบริการ LNG สำหรับภาคขนส่ง อย่างน้อย 2 แห่งภายในปี 2568 บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ (Strategic Location) ของเส้นทางขนส่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวของรถบรรทุกใช้เชื้อเพลิง LNG
- การผลิตไฮโดรเจน บริษัทฯ ศึกษากระบวนการผลิตไฮโดรเจนซึ่งถูกมองว่าเป็นแกนหลักในการลดคาร์บอนในทศวรรษต่อจากนี้ ได้แก่ การผลิตด้วยวิถีคาร์บอนต่ำเกิดจากกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) แยกน้ำโดยอาศัยไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน และกระบวนการ Steam Methane Reforming (SMR) โดยใช้ความร้อนจากไอน้ำเพื่อแยกก๊าซธรรมชาติ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี Carbon Capture and Utilization System (CCUS) เพื่อดักจับการปล่อย CO2 และ 5. พลังงานทดแทนอื่นๆ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพื่อสร้าง Portfolio พลังงานหมุนเวียน/ พลังงานทดแทน เพิ่มจากที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อยู่แล้วกว่า 227 เมกะวัตต์ โดย SCN เดินหน้าสร้างความหลากหลายด้านพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน
