KAVE playground

อะไรคือความลับที่ทำให้การตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียนได้รับความนิยมตลอดกาล?

การตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียนเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในวงการออกแบบตกแต่งภายใน ด้วยความเรียบง่ายที่ลงตัว ความรู้สึกอบอุ่น และการใช้งานที่ครบถ้วนเหมาะสม ทำให้สไตล์นี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริงภายในบ้าน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเสน่ห์ของการตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน พร้อมเคล็ดลับและไอเดียที่จะช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่ให้กับบ้านของคุณ

ปรัชญาฮุกกะ: จิตวิญญาณแห่งความสุขที่ซ่อนอยู่ในการตกแต่งบ้านสแกนดิเนเวียน

สไตล์สแกนดิเนเวียนมีรากฐานมาจากประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ได้แก่ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีช่วงฤดูหนาวยาวนานและแสงธรรมชาติน้อย จุดเริ่มต้นของสไตล์นี้มีความเชื่อมโยงกับปรัชญา “ฮุกกะ” (Hygge) ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับความสุขที่เรียบง่ายของชาวเดนมาร์ก

ฮุกกะ เป็นศิลปะในการสร้างความใกล้ชิดผูกพัน ความรู้สึกผ่อนคลายในจิตวิญญาณ และการหาความสุขจากสิ่งรอบตัวในปัจจุบัน คำนี้มีรากศัพท์มาจากภาษานอร์เวย์โบราณที่แปลว่า “ความเป็นอยู่ที่ดี” หรือจาก “hugr” ในภาษานอร์สเก่าซึ่งหมายถึง “จิตวิญญาณ” หรือ “ความคิด”

พจนานุกรม Oxford ได้นิยามคำว่า “ฮุกกะ” ไว้ว่าเป็น “คุณภาพของความน่าสบายและความสุขสบายที่มักมาพร้อมกับความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ” ซึ่งแนวคิดนี้ได้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เดนมาร์กถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง

การตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียนได้นำเอาแนวคิดฮุกกะนี้มาประยุกต์ใช้ ด้วยการสร้างพื้นที่ที่เรียบง่าย อบอุ่น และเอื้อต่อการใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัวและเพื่อนฝูง การตกแต่งจึงมุ่งเน้นที่ความสบายและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความหรูหราหรือความซับซ้อน

โทนสีสไตล์สแกนดิเนเวียน: ความลับของห้องที่สว่างและสงบ

โทนสีเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวียมีช่วงฤดูหนาวยาวนานและมีแสงธรรมชาติน้อย การเลือกใช้โทนสีที่สว่างและสะท้อนแสงจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โทนสีหลักในสไตล์สแกนดิเนเวียนประกอบด้วย:

  1. สีขาว – เป็นโทนสีพื้นฐานที่พบได้มากที่สุด ช่วยให้พื้นที่ดูกว้าง สว่าง และสะอาดตา เป็นพื้นหลังที่ดีสำหรับรองรับวัสดุธรรมชาติและสีอื่นๆ
  2. สีเทาอ่อน – ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเป็นกลาง เข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลากหลายรูปแบบ
  3. สีเบจและครีม – เพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง ทำให้พื้นที่ดูไม่แข็งกระด้างจนเกินไป
  4. สีพาสเทลอ่อนๆ – เช่น สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน หรือสีเขียวอ่อน ใช้เป็นสีเสริมเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา
  5. โทนสีไม้ธรรมชาติ – ไม่ว่าจะเป็นสีไม้อ่อนอย่างไม้เบิร์ช ไม้แอช หรือไม้โอ๊ค ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความเป็นธรรมชาติให้กับพื้นที่

ข้อสำคัญในการเลือกโทนสีสำหรับการตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียนคือ การสร้างความสมดุลระหว่างความสว่างและความอบอุ่น โดยอาจใช้สีเข้มเป็นจุดเน้นเพื่อสร้างความน่าสนใจและมิติให้กับห้อง เช่น เฟอร์นิเจอร์สีดำหรือสีเทาเข้มในห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและเทาอ่อน

แสงสว่าง: หัวใจของบรรยากาศอบอุ่นในบ้านสไตล์นอร์ดิก

แสงสว่างเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียน เนื่องจากในประเทศแถบนอร์ดิก ช่วงฤดูหนาวมีเวลากลางวันสั้นมาก บางพื้นที่มีแสงแดดเพียง 4-6 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น การออกแบบให้ได้รับแสงธรรมชาติมากที่สุดและเสริมด้วยแสงไฟที่อบอุ่นจึงเป็นสิ่งจำเป็น

การจัดการแสงในสไตล์สแกนดิเนเวียนมีลักษณะดังนี้:

  1. แสงธรรมชาติ – มีการออกแบบให้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ และใช้ผ้าม่านบางเบาหรือไม่ใช้ผ้าม่านเลย เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้มากที่สุด ผนังสีอ่อนช่วยสะท้อนแสงให้กระจายทั่วห้อง
  2. โคมไฟหลายจุด – แทนที่จะใช้ไฟดวงเดียวที่สว่างจ้า นิยมใช้โคมไฟหลายจุดในระดับความสูงต่างกัน เช่น ไฟเพดาน ไฟตั้งพื้น และไฟตั้งโต๊ะ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย
  3. แสงไฟโทนอบอุ่น – เลือกใช้หลอดไฟที่ให้แสงโทนอบอุ่น (Warm Light) ประมาณ 2700-3000K แทนแสงขาวจัด เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง
  4. เทียนและไฟ – การจุดเทียนเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิตแบบฮุกกะ ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวหรือยามค่ำคืน

โคมไฟในสไตล์สแกนดิเนเวียนมักมีรูปทรงเรียบง่าย ทำจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ โลหะ หรือแก้ว มีดีไซน์เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ เน้นฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงามควบคู่กันไป การจัดวางโคมไฟอย่างพิถีพิถันไม่เพียงแค่ให้แสงสว่างเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศและรูปแบบเฉพาะตัวให้กับพื้นที่อีกด้วย

เฟอร์นิเจอร์ลายเส้นเรียบง่าย: น้อยแต่มาก

เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์สแกนดิเนเวียนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยความเรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน และการใช้วัสดุธรรมชาติ หลักการสำคัญในการเลือกเฟอร์นิเจอร์คือ “น้อยแต่มาก” (Less is More) คือใช้เฟอร์นิเจอร์เพียงเท่าที่จำเป็น แต่ต้องมีคุณภาพดีและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลักษณะเด่นของเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียน ได้แก่:

  1. รูปทรงเรียบง่าย สะอาดตา มีเส้นสายที่บริสุทธิ์ ไม่มีลวดลายหรือการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย
  2. ทำจากไม้คุณภาพดี โดยเฉพาะไม้โทนสีอ่อน มักเก็บลวดลายและสีธรรมชาติของไม้ไว้ ไม่ทาสีทับจนเกินไป
  3. มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน บางชิ้นอาจมีฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น โซฟาที่ปรับเป็นเตียงได้ หรือโต๊ะที่มีช่องเก็บของในตัว
  4. มีรูปทรงที่เป็นมิตรกับร่างกายมนุษย์ เน้นความสบายในการใช้งาน ชิ้นส่วนขนาดเล็กมักมีรูปทรงโค้มมนเพื่อความปลอดภัย
  5. ใช้วัสดุหุ้มจากธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือหนัง ในโทนสีเรียบง่าย

นักออกแบบชาวสแกนดิเนเวียนหลายคนได้สร้างผลงานเฟอร์นิเจอร์ที่กลายเป็นไอคอนของการออกแบบระดับโลก เช่น เก้าอี้ Wishbone ของ Hans Wegner หรือเก้าอี้ Egg ของ Arne Jacobsen ซึ่งแม้จะออกแบบมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 แต่ยังคงมีความร่วมสมัยและเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน

ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ควรเว้นพื้นที่ว่างให้เพียงพอ ไม่วางเฟอร์นิเจอร์แน่นจนเกินไป เพื่อให้พื้นที่ดูโปร่ง สบายตา และเคลื่อนไหวได้สะดวก การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอเหมาะกับพื้นที่จะช่วยให้ห้องดูสมดุลและน่าอยู่มากขึ้น

วัสดุธรรมชาติ: ความใกล้ชิดธรรมชาติในทุกองค์ประกอบ

ความใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นหัวใจสำคัญของการตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน ชาวนอร์ดิกมีความผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ดังจะเห็นได้จากปรัชญา “ฟรีลูฟต์ลีฟ” (Friluftsliv) ของชาวนอร์เวย์ ซึ่งหมายถึงการใช้ชีวิตในอากาศบริสุทธิ์และการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ

วัสดุธรรมชาติที่นิยมใช้ในการตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียน ได้แก่:

  1. ไม้ – เป็นวัสดุหลักที่ใช้ในเฟอร์นิเจอร์และพื้น นิยมใช้ไม้โทนสีอ่อนอย่างไม้เบิร์ช ไม้สน หรือไม้แอช ในรูปแบบที่เรียบง่าย เน้นความงามตามธรรมชาติของไม้
  2. ผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ – เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าขนสัตว์ นำมาใช้ในผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าปูเตียง หรือผ้าคลุมโซฟา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวล
  3. หนัง – ใช้ในเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่ง มักใช้หนังในโทนสีเรียบ เช่น สีน้ำตาล สีดำ หรือสีธรรมชาติ
  4. หิน – เช่น หินอ่อน หินแกรนิต ใช้ในพื้นผิวเคาน์เตอร์หรือโต๊ะ ให้ความรู้สึกแข็งแรงและเป็นธรรมชาติ
  5. โลหะ – เช่น ทองเหลือง ทองแดง หรือเหล็ก ใช้ในโคมไฟหรืออุปกรณ์ตกแต่งเล็กๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่

การนำต้นไม้มาไว้ในบ้านเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบเขียวขนาดเล็ก พืชอวบน้ำ หรือแม้แต่ดอกไม้สด นอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันและชีวิตชีวาให้กับพื้นที่แล้ว ยังช่วยฟอกอากาศและสร้างความรู้สึกสดชื่นอีกด้วย

การใช้วัสดุธรรมชาติไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนที่ชาวสแกนดิเนเวียนให้ความสำคัญ

เพิ่มเสน่ห์ด้วยความคอนทราสต์: เทคนิคสร้างบ้านมินิมอลให้น่าสนใจ

แม้การตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียนจะเน้นความเรียบง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าบ้านจะต้องดูจืดหรือขาดความน่าสนใจ มีเทคนิคหลายอย่างที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มมิติและเสน่ห์ให้กับพื้นที่ โดยไม่ทำให้สูญเสียความเรียบง่ายที่เป็นแก่นของสไตล์นี้

เทคนิคการสร้างความน่าสนใจให้กับบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน:

  1. การใช้พื้นผิวที่หลากหลาย – แม้จะใช้โทนสีที่ใกล้เคียงกัน แต่สามารถสร้างความน่าสนใจได้ด้วยการใช้วัสดุที่มีพื้นผิวแตกต่างกัน เช่น ไม้ที่มีลายเสี้ยน ผ้าทอหยาบ กระเบื้องเซรามิก หรือโลหะมันวาว
  2. การใช้ความคอนทราสต์ – ใช้สีเข้มตัดกับพื้นหลังสีอ่อนเพื่อสร้างจุดสนใจ เช่น เก้าอี้สีดำในห้องสีขาว โคมไฟสีเข้มบนผนังสีอ่อน หรือหมอนอิงสีเข้มบนโซฟาสีอ่อน
  3. การใช้งานศิลปะและของตกแต่ง – เลือกชิ้นงานศิลปะหรือของตกแต่งที่มีความหมายหรือมีเรื่องราว และวางในจุดที่เป็นโฟกัส เช่น ภาพวาดขนาดใหญ่บนผนัง งานปั้นบนโต๊ะ หรือพรมทอมือบนพื้น
  4. การสร้างมุมที่มีเอกลักษณ์ – แทนที่จะตกแต่งทั้งห้องในลักษณะเดียวกัน อาจสร้างมุมพิเศษที่มีเอกลักษณ์ เช่น มุมอ่านหนังสือที่อบอุ่น มุมทำงานที่มีประสิทธิภาพ หรือมุมนั่งเล่นที่สบาย
  5. การใช้ลวดลายอย่างพอดี – แม้ว่าสไตล์สแกนดิเนเวียนจะเน้นความเรียบง่าย แต่ก็สามารถใช้ลวดลายได้บ้าง โดยเฉพาะลายเรขาคณิตเรียบๆ หรือลายที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

การเพิ่มความน่าสนใจเหล่านี้ควรทำอย่างพอดี ไม่มากเกินไปจนรกตา เพื่อให้ยังคงความเรียบง่ายและความสงบซึ่งเป็นหัวใจของสไตล์สแกนดิเนเวียน ความสมดุลระหว่างความเรียบง่ายและความน่าสนใจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างพื้นที่ที่ทั้งสวยงามและน่าอยู่

ปรัชญาความสุขสแกนดิเนเวียน: นำแนวคิดมาประยุกต์ใช้ในบ้านของคุณ

นอกจากฮุกกะแล้ว ชาวสแกนดิเนเวียนยังมีปรัชญาความสุขอื่นๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งบ้านและการใช้ชีวิตประจำวันได้ ปรัชญาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น แต่ยังสะท้อนออกมาในรูปแบบของการจัดพื้นที่และการใช้ชีวิตในบ้านอีกด้วย

ปรัชญาความสุขของชาวสแกนดิเนเวียนที่น่าสนใจ:

  1. ลาก้อม (Lagom) – แนวคิดของชาวสวีเดนที่หมายถึง “ความพอดี” ไม่มากไปไม่น้อยไป ในการตกแต่งบ้าน ลาก้อมสะท้อนผ่านการเลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและมีคุณค่า ไม่สะสมสิ่งของเกินความจำเป็น และเลือกคุณภาพมากกว่าปริมาณ
  2. ฟรีลูฟต์ลีฟ (Friluftsliv) – แนวคิดของชาวนอร์เวย์ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตกลางแจ้งและการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ สามารถนำมาประยุกต์ใช้โดยการเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสม่ำเสมอ ปลูกต้นไม้ในบ้าน หรือจัดพื้นที่นั่งเล่นให้มองเห็นวิวธรรมชาติ
  3. ฟิกา (Fika) – ประเพณีการพักดื่มกาแฟของชาวสวีเดน ที่ไม่ใช่แค่การดื่มกาแฟ แต่เป็นการพักผ่อนและสังสรรค์ การจัดมุมกาแฟเล็กๆ ในบ้าน ที่มีที่นั่งสบายและพื้นที่วางถ้วยกาแฟ จะช่วยสร้างพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อน
  4. ซิสุ (Sisu) – แนวคิดของชาวฟินแลนด์ที่หมายถึงความอดทน ความเข้มแข็ง และความมุ่งมั่น แนวคิดนี้สะท้อนผ่านการเลือกใช้วัสดุที่คงทนและยั่งยืน และการจัดพื้นที่ที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมสร้างสรรค์

การนำปรัชญาเหล่านี้มาปรับใช้ในบ้านไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดในคราวเดียว คุณสามารถเริ่มจากแนวคิดที่คุณชื่นชอบและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปทีละน้อย สิ่งสำคัญคือการสร้างพื้นที่ที่สะท้อนความเป็นตัวคุณและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี

สรุป

การตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียนไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์การตกแต่งที่กำลังได้รับความนิยม แต่เป็นปรัชญาการใช้ชีวิตที่เน้นความเรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งาน และการสร้างความสุขจากสิ่งรอบตัว คุณสามารถนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศร้อนหรือหนาว

หัวใจสำคัญของการตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน ได้แก่:

  • การใช้โทนสีเรียบง่าย สว่าง และเป็นธรรมชาติ
  • การให้ความสำคัญกับแสงทั้งแสงธรรมชาติและแสงไฟที่อบอุ่น
  • การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย ฟังก์ชันครบถ้วน และมีคุณภาพดี
  • การใช้วัสดุธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • การสร้างพื้นที่ที่เอื้อต่อการพักผ่อนและการใช้เวลาคุณภาพกับคนที่คุณรัก

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างบ้านที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ คุณสามารถปรับแต่งและผสมผสานสไตล์ต่างๆ เพื่อให้บ้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตราบใดที่ยังยึดหลักความเรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งาน และการสร้างความสุขจากสิ่งรอบตัว ก็ถือว่าคุณได้นำแก่นของสไตล์สแกนดิเนเวียนมาใช้แล้ว

สุดท้ายนี้ บ้านที่ดีไม่ใช่เพียงที่ที่สวยงามเท่านั้น แต่เป็นที่ที่คุณรู้สึกเป็นตัวเอง ผ่อนคลาย และมีความสุขที่ได้กลับมา เป็นพื้นที่ที่ช่วยฟื้นฟูพลังงานหลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย และเป็นที่ที่คุณสามารถสร้างความทรงจำดีๆ กับคนที่คุณรัก ซึ่งนี่คือแก่นแท้ของปรัชญาสแกนดิเนเวียนที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..