- SC Asset กวาดรายได้ Q2/2568 กว่า 5,220 ล้านบาท เติบโต 95% เทียบไตรมาสก่อนหน้า หลังกลุ่มโครงการบ้านพรีเมียม 20 ล้านบาทขึ้นไป อาทิ คอนนาเซอร์ พัฒนาการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์ พระราม 3 ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ สร้างรายได้ต่อเนื่อง
- โชว์แบ็คล็อกแกร่ง 19,600 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง เดินหน้าเสริมทัพครึ่งปีหลัง เปิดโครงการ
บ้าน-คอนโดใหม่อีก 8 โครงการ 16,400 ล้านบาท
- ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.05 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 27 ส.ค.นี้ และจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 9 ก.ย.นี้

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2568 (เม.ย.-มิ.ย.2568) ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,220 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) 95% และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) 13% โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย หรือกลุ่ม Engine 1 ประมาณ 4,837 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 117% ขณะเดียวกัน มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) หรือกลุ่ม Engine 2 และรายได้ค่าที่ปรึกษาและการจัดการรวมประมาณ 383 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากความแข็งแกร่งของตลาดบ้านระดับพรีเมียม ที่ผู้บริโภคยังคงมีกำลังซื้อเหนือกว่าเซ็กเมนท์อื่นๆ ประกอบกับการครองส่วนแบ่งตลาดบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปของบริษัทมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่ได้รับการตอบรับมากที่สุด ในช่วงไตรมาส 2/2568 ประกอบด้วย 1.คอนนาเซอร์ พัฒนาการ (CONNOISSEUR Phatthanakan) 2.แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์-พระราม 3 (Grand Bangkok Boulevard Suksawat – Rama 3) และ 3.แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง แจ้งวัฒนะ (Grand Bangkok Boulevard Donmueang-Chaengwatthana)
นายอรรถพล กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการติดตามสถานการณ์ เศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับแผนการดำเนินงานได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสม กับสถานการณ์

อย่างไรก็ดี ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) อยู่ราว 19,600 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 36% และคอนโดมิเนียม 64% โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มเติมอีก 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 16,400 ล้านบาท เพื่อเสริมแกร่งพอร์ตฟอลิโอฝั่ง Engine 1 เพิ่มเติม ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่า 8,400 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ยังคงรักษาระดับไว้ได้อย่างมั่นคง
ขณะเดียวกัน กลุ่ม Engine 2 จะเริ่มเปิดให้บริการโรงแรมอีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมครอโม แบงคอก, คูริโอ คอลเลกชัน บาย ฮิลตัน (Kromo Bangkok, Curio Collection by Hilton) และโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด พัทยา นาจอมเทียน (The Standard, Pattaya Na Jomtien) ภายในปลายไตรมาส 3/2568 นี้ และมีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 ตร.ม. และมีอัตราการเช่า 100% ภายในสิ้นปี สร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง
จากผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 7,891 ล้านบาท กำไรสุทธิ 531 ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้จ่ายปันผลระหว่างกาล จากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการและผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2568 เป็นเงินสดในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 ส.ค. 2568 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 ส.ค. 2568 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 9 ก.ย. 2568
#SCAsset #SCisQuality #SCแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ1 #SCการเงินแข็งแกร่ง #SCผู้นำที่อยู่อาศัยพรีเมียม

