“สัมมากร” ผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยมาเป็นระยะเวลา 53 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่หลับสบาย” ประกาศความสำเร็จโครงการ “Providence Lane Ekkamai–Ramintra” บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีสุดเอ็กซ์คูลซีฟ Sold Out! ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ “สร้างบ้านจากความเข้าใจ” พร้อมประกาศเดินหน้าลุยตลาดลักชัวรีต่อเนื่อง เผยเตรียมส่ง Providence Lane 2 โครงการใหม่ลงชิงแชร์ตลาดกำลังซื้อสูงย่านไพร์มโลเคชั่น “เกษตร–นวมินทร์และลาซาล” รวมมูลค่าโครงการกว่า 640 ล้านบาท

นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO กล่าวว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีราคามากกว่า 30 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย โดยปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการเลือกที่อยู่อาศัยคือ “ทำเล” เพราะทำเลที่อยู่ในพื้นที่ศักยภาพแวดล้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางและใช้ชีวิต รองลงมาเป็นเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอย และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบ้าน ที่สะท้อนออกมาให้เห็นจากความสำเร็จในการ Sold Out ของโครงการ “Providence Lane Ekkamai–Ramintra” (โพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย–รามอินทรา) ระดับราคา 39 – 65 ล้านบาท

“สิ่งที่ทำให้โครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดีเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นระยะเวลา  53 ปีของบริษัทฯ ทำให้มีความเข้าใจในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยในทุกมิติ นำมาสู่การพัฒนาและออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงวัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Defining Me’ ตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเอง สนุกสนานกับทุกสิ่งที่ทำ เปรียบเหมือนจิตรกรที่กำลังแต่งแต้มผลงาน มาสเตอร์พีซบนผืนผ้าใบ ด้วยรูปแบบดีไซน์ Bauhaus (บาวเฮ้าส์) ผสมผสานระหว่างฟังก์ชันที่ทันสมัยกับความสวยงามของศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของผู้พักอาศัยที่ต้องการความต่างอย่างลงตัว บนทำเลศักยภาพในสังคมคุณภาพ เน้นเจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ตคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ  ไม่ว่าจะเป็นคนโสดหรือกำลังเริ่มสร้างครอบครัว และบริษัทฯ ขอยึดมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาบ้านที่เข้าใจคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็น Top of mind ในใจของผู้บริโภค” นายณพน กล่าว

สำหรับโครงการ Providence Lane Ekkamai–Ramintra เป็นบ้านเดี่ยวสุดหรู 3 ชั้น ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง บนไพร์มโลเคชั่นโซนเอกมัย–รามอินทรา ศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตในทุกมิติ จากความสำเร็จดังกล่าวบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ Providence Lane ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ ‘Defining Me’ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่บนทำเลศักยภาพ ได้แก่ ทำเลเกษตร–นวมินทร์และ ทำเลลาซาล รวมมูลค่าโครงการกว่า 640 ล้านบาท

โดยโครงการ Providence Lane ในทำเลเกษตร–นวมินทร์ ซึ่งย่านนี้นับเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้มากมาย ถือเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อถนนได้ถึง 3 สาย คือ ถนนรามอินทรา, ถนนเกษตร – นวมินทร์ และถนนพหลโยธิน ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำมากมาย สถานศึกษา เช่น โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ (Keerapat International School), โรงเรียนนานาชาติออสเตรเลีย (Australian international school Bangkok), โรงเรียนนานาชาติโอ๊คบิวรี่ (Oakbury International School), โรงเรียนนานาชาตินีวาอเมริกัน (NIVA American International School), โรงเรียนนานาชาติเซนต์ สตีเฟ่นส์ (St. Stephen’s International School), หน่วยงานราชการ รวมทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้ง เซ็นทรัล รามอินทรา (Central Ramindra), เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ (Central Eastville), คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (Crystal Design Center หรือ CDC), เดอะแจ๊ส รามอินทรา (The Jas Ramintra)  รวมถึงร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตช่วงกลางคืน เรียกได้ว่ามีครบทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เนื่องจากกรุงเทพฯ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และอนาคตอันใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพให้ Providence Lane เกษตร–นวมินทร์ น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการ Providence Lane ในทำเลลาซาลนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งย่านที่อยู่อาศัยที่มีทั้งความสมบูรณ์ ความหลากหลาย เดินทางได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง หรือจะขับรถส่วนตัวก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิทเพื่อเดินทางไปยังอโศก หรือเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์ เพื่อเดินทางไปยังถนนบางนา–ตราด รวมไปถึงรามคำแหง และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังชลบุรีได้อีกด้วย ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย อย่างเช่น แบง ค็อก มอลล์ (Bangkok Mall), เซ็นทรัล บางนา ตลอดจนสถานศึกษาและศูนย์การแพทย์ระดับอินเตอร์จำนวนมาก อาทิ โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ สุขุมวิท 107 (St Andrews International School Sukhumvit 107 Campus), โรงเรียนบางกอกพัฒนา (Bangkok Patana School), โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ (Berkeley International School), โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเวลล์ส บางนา (Wells International School Bangna Campus), โรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ (Anglo Singapore International School), โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ฯลฯ รวมถึงปอดขนาดใหญ่ของของคนเมืองอย่าง สวนหลวง ร.๙

นายณพน กล่าวเพิ่มว่า “ปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่พร้อมพัฒนาแล้วทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างและเปิดขายภายในปี 2567 และเชื่อมั่นว่าจากความโดดเด่นของโครงการฯ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความเข้าใจในการใช้ชีวิตของคนไทยบวกกับศักยภาพของทำเล จะทำให้ Providence Lane ทั้ง 2 โครงการใหม่จะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนดังเช่น Providence Lane Ekkamai–Ramintra”