Kave Playground (copy)

หน้าฝนต้องระวังโรคอะไรในสัตว์เลี้ยงบ้าง?

หน้าฝนในประเทศไทยมาพร้อมกับความชื้นสูง น้ำท่วมขัง และอากาศแปรปรวน สภาพแวดล้อมเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของเรามีโอกาสป่วยได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับโรคที่พบบ่อยในหน้าฝน วิธีสังเกตอาการผิดปกติ การป้องกัน และการดูแลรักษาเบื้องต้น เพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของทุกท่านผ่านหน้าฝนไปได้อย่างแข็งแรงและปลอดภัย

โรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยงช่วงหน้าฝน

โรคผิวหนังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในช่วงหน้าฝน เนื่องจากความชื้นสูงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย และปรสิตภายนอกหลายชนิด

1. โรคเชื้อราผิวหนัง (Ringworm)

เชื้อราเป็นสาเหตุหลักของโรคผิวหนังในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะเมื่อขนของสัตว์เลี้ยงเปียกชื้นเป็นเวลานาน โรคเชื้อรานี้สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ด้วย

อาการที่พบ:

  • มีวงกลมแดงหรือตุ่มนูนบนผิวหนัง
  • ขนร่วงเป็นหย่อมๆ
  • ผิวหนังเป็นขุย หรือมีสะเก็ด
  • สัตว์เลี้ยงมักจะเกาหรือถูบริเวณที่เป็น

การป้องกัน:

  1. เช็ดตัวสัตว์เลี้ยงให้แห้งทุกครั้งหลังเปียกฝนหรืออาบน้ำ
  2. ทำความสะอาดที่นอนและของใช้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
  3. หลีกเลี่ยงการให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน

การรักษาเบื้องต้น:

  • ใช้แชมพูหรือสเปรย์ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อรา
  • พบสัตวแพทย์เพื่อรับยาทาเฉพาะที่หรือยารับประทาน
  • แยกสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคออกจากตัวอื่นเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย

2. โรคผิวหนังอักเสบจากความชื้น (Hot Spot)

โรคนี้พบบ่อยในสุนัขพันธุ์ขนยาวหรือขนหนา เมื่อผิวหนังชื้นแฉะเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการอักเสบอย่างรวดเร็ว

อาการที่พบ:

  • มีรอยแดง บวม และมีน้ำเหลืองซึม
  • บริเวณที่เป็นมักชื้นและมีกลิ่นเหม็น
  • สัตว์เลี้ยงจะแสดงอาการเจ็บปวด เกา หรือเลียบริเวณที่เป็นบ่อยๆ
  • อาการมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและลุกลามได้เร็ว

การป้องกัน:

  1. หมั่นแปรงขนสัตว์เลี้ยงให้โปร่ง ไม่ให้ขนพันกัน
  2. เช็ดตัวสัตว์เลี้ยงให้แห้งสนิททุกครั้งหลังเปียกน้ำ
  3. ตัดแต่งขนให้สั้นลงในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะบริเวณที่เสี่ยงต่อความชื้นสูง

การรักษาเบื้องต้น:

  • โกนขนบริเวณที่เป็นและรอบๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี
  • ทำความสะอาดบริเวณที่เป็นด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ
  • ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ
  • ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว เพราะอาการอาจลุกลามได้เร็วมาก

3. เห็บ หมัด และไร

ปรสิตภายนอกเหล่านี้ระบาดหนักในช่วงหน้าฝน เพราะสภาพอากาศชื้นเหมาะแก่การวางไข่และเจริญเติบโต

อาการที่พบ:

  • สัตว์เลี้ยงเกาตัวบ่อย
  • ผิวหนังแดง มีผื่นคัน
  • พบตัวเห็บหรือหมัดตามขนและผิวหนัง
  • อาจพบขี้เห็บ ขี้หมัด ซึ่งมีลักษณะเป็นจุดดำเล็กๆ
  • ในกรณีรุนแรง อาจมีอาการซีด เพราะปรสิตดูดเลือด

การป้องกัน:

  1. ใช้ยาป้องกันเห็บหมัดเป็นประจำ ทั้งชนิดหยอดคอ ชนิดรับประทาน หรือปลอกคอ
  2. ทำความสะอาดบ้านและที่นอนสัตว์เลี้ยงสม่ำเสมอ
  3. จำกัดการออกไปเล่นในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นหญ้าชื้นแฉะ

การรักษา:

  • ใช้ยาฆ่าเห็บหมัดตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
  • อาบน้ำด้วยแชมพูกำจัดเห็บหมัด
  • กำจัดไข่และตัวอ่อนตามสิ่งแวดล้อม เช่น ซักที่นอน ดูดฝุ่นพรม
  • กรณีรุนแรง ควรพบสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

โรคระบบทางเดินหายใจในสัตว์เลี้ยงช่วงหน้าฝน

อากาศเย็นชื้นและความแปรปรวนของสภาพอากาศในช่วงหน้าฝนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้สัตว์เลี้ยงป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะลูกสัตว์ สัตว์สูงอายุ หรือสัตว์ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

1. โรคหวัดแมว (Feline Upper Respiratory Infection)

โรคหวัดแมวมักระบาดในช่วงหน้าฝน เกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย สามารถติดต่อระหว่างแมวได้ง่ายผ่านการสัมผัส การใช้ภาชนะร่วมกัน หรือการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อ

อาการที่พบ:

  • จาม น้ำมูกไหล น้ำตาไหล
  • ตาแดง อักเสบ หรือมีขี้ตามาก
  • อาจมีแผลในปาก ทำให้กินอาหารลำบาก
  • ไอ หายใจลำบาก
  • ซึม เบื่ออาหาร

การป้องกัน:

  1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหวัดแมวตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำ
  2. หลีกเลี่ยงการให้แมวสัมผัสกับแมวจรหรือแมวป่วย
  3. รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ของแมว
  4. ป้องกันไม่ให้แมวเปียกฝนหรืออยู่ในที่เย็นชื้นเป็นเวลานาน

การรักษาเบื้องต้น:

  • เช็ดน้ำมูกและน้ำตาให้แมวด้วยสำลีชุบน้ำอุ่น
  • ประคบจมูกและตาด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นเพื่อช่วยละลายเสมหะ
  • ให้อาหารที่มีกลิ่นหอมและอุ่นเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นการกิน
  • พบสัตวแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสตามความเหมาะสม

2. โรคไข้หวัดสุนัข (Canine Infectious Respiratory Disease Complex)

หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “โรคไอคอก” เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในสุนัข โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

อาการที่พบ:

  • ไอแห้งๆ คล้ายมีอะไรติดคอ
  • บางตัวอาจมีน้ำมูกใสหรือข้น
  • อาจมีไข้ ซึม เบื่ออาหาร
  • ในรายที่รุนแรง อาจมีอาการหายใจลำบาก

การป้องกัน:

  1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอคอกตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์กำหนด
  2. หลีกเลี่ยงการพาสุนัขไปในที่แออัดหรือมีสุนัขจำนวนมากในช่วงที่มีการระบาด
  3. ไม่ให้สุนัขใช้ภาชนะร่วมกับสุนัขตัวอื่นที่ไม่คุ้นเคย
  4. หลีกเลี่ยงการให้สุนัขเปียกฝนแล้วไม่เช็ดตัวให้แห้ง

การรักษาเบื้องต้น:

  • ให้สุนัขพักในที่แห้ง สะอาด และอบอุ่น
  • ให้น้ำสะอาดอย่างเพียงพอ
  • อาจใช้น้ำผึ้งผสมมะนาวเล็กน้อยช่วยบรรเทาอาการไอ
  • พบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

3. โรคปอดอักเสบ (Pneumonia)

เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หากโรคระบบทางเดินหายใจเบื้องต้นไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

อาการที่พบ:

  • หายใจเร็วและลำบาก
  • ไอรุนแรง อาจมีเสมหะหรือน้ำลายฟูมปาก
  • ซึมมาก ไม่มีแรง
  • มีไข้สูง
  • ปฏิเสธอาหารและน้ำ

การป้องกัน:

  1. รักษาโรคระบบทางเดินหายใจเบื้องต้นอย่างเหมาะสมและทันท่วงที
  2. ไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเปียกฝนนานๆ โดยไม่เช็ดตัวให้แห้ง
  3. รักษาร่างกายสัตว์เลี้ยงให้อบอุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเย็น

การรักษา:

  • โรคปอดอักเสบเป็นภาวะฉุกเฉิน ต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • สัตวแพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ ให้ออกซิเจน และการรักษาประคับประคองอื่นๆ

โรคติดเชื้อจากน้ำในช่วงหน้าฝน

น้ำท่วมขังในช่วงหน้าฝนมักปนเปื้อนเชื้อโรคหลายชนิด เมื่อสัตว์เลี้ยงสัมผัสหรือดื่มน้ำเหล่านี้ อาจติดเชื้อและป่วยได้

1. โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)

เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ที่เป็นพาหะ โดยเฉพาะหนู เชื้อนี้มักปนเปื้อนในน้ำท่วมขัง และสามารถติดต่อสู่คนได้

อาการที่พบ:

  • มีไข้สูง
  • ซึม เบื่ออาหาร
  • อาเจียน ท้องเสีย
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน) เนื่องจากตับถูกทำลาย
  • ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะเป็นเลือดในกรณีรุนแรง
  • อาจเกิดไตวายเฉียบพลัน

การป้องกัน:

  1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิสตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
  2. หลีกเลี่ยงการให้สัตว์เลี้ยงเดินลุยน้ำท่วมขัง
  3. ไม่ให้สัตว์เลี้ยงดื่มน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น แอ่งน้ำ บ่อน้ำ
  4. กำจัดหนูและสัตว์พาหะอื่นๆ ในบริเวณบ้าน

การรักษา:

  • โรคนี้ต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
  • สัตวแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะและการรักษาประคับประคองต่างๆ เช่น สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
  • ในรายที่รุนแรง อาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสัตว์

2. โรคลำไส้อักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

เชื้อแบคทีเรียหลายชนิด เช่น E. coli, Salmonella สามารถปนเปื้อนในน้ำท่วมขังและทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบได้เมื่อสัตว์เลี้ยงกินหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อน

อาการที่พบ:

  • ท้องเสียรุนแรง อาจมีมูกหรือเลือดปน
  • อาเจียน
  • ปวดท้อง (สังเกตจากการเดินงอตัว หรือร้องเมื่อถูกจับบริเวณท้อง)
  • เบื่ออาหาร
  • ซึม มีไข้

การป้องกัน:

  1. ให้น้ำสะอาดแก่สัตว์เลี้ยงเสมอ
  2. ไม่ให้สัตว์เลี้ยงกินหรือดื่มจากแหล่งน้ำที่สกปรกหรือน้ำท่วมขัง
  3. ทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารและน้ำเป็นประจำ

การรักษาเบื้องต้น:

  • งดอาหารประมาณ 12-24 ชั่วโมง แต่ให้น้ำสะอาดเพียงพอ
  • เมื่อเริ่มให้อาหารอีกครั้ง ควรให้อาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มกับไก่ต้มฝอย
  • พบสัตวแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะและยาแก้ท้องเสียที่เหมาะสม

3. โรคเชื้อราในระบบทางเดินอาหาร

ความชื้นสูงในหน้าฝนทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี หากสัตว์เลี้ยงกินอาหารที่มีเชื้อรา อาจเกิดอาการเป็นพิษจากสารพิษที่เชื้อราสร้างขึ้น

อาการที่พบ:

  • อาเจียน ท้องเสีย
  • ชัก กล้ามเนื้อสั่น
  • ตับถูกทำลาย ทำให้มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
  • ซึมมาก ไม่มีแรง

การป้องกัน:

  1. เก็บอาหารสัตว์เลี้ยงในที่แห้ง ไม่ชื้น และปิดมิดชิด
  2. สังเกตลักษณะอาหาร หากพบว่ามีเชื้อรา มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีลักษณะผิดไปจากเดิม ห้ามนำมาให้สัตว์เลี้ยงกิน
  3. ไม่ซื้ออาหารสัตว์เก็บไว้มากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ความชื้นสูง

การรักษา:

  • กรณีสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงได้รับพิษจากเชื้อรา ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
  • การรักษาจะเป็นการประคับประคองตามอาการ

สัตว์เลี้ยงพิเศษกับโรคในหน้าฝน

นอกจากสุนัขและแมวแล้ว สัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ก็มีความเสี่ยงต่อโรคในช่วงหน้าฝนเช่นกัน

กระต่าย

กระต่ายเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวต่อความชื้นและอากาศเย็น อาจเกิดโรคได้ง่ายในช่วงหน้าฝน

โรคที่พบบ่อย:

  • โรคหวัด ไซนัสอักเสบ จากเชื้อแบคทีเรีย Pasteurella
  • โรคท้องอืด จากการกินอาหารที่ชื้นหรือมีเชื้อรา
  • โรคผิวหนังจากเชื้อรา โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเท้า

การดูแลป้องกัน:

  1. เก็บกระต่ายไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก
  2. เปลี่ยนวัสดุรองพื้นบ่อยๆ ไม่ให้ชื้นแฉะ
  3. ตรวจสอบคุณภาพอาหาร โดยเฉพาะหญ้าแห้งและอาหารเม็ด ต้องไม่มีเชื้อรา
  4. สังเกตอุ้งเท้าของกระต่ายเป็นประจำ หากพบว่าเปียกชื้นให้เช็ดให้แห้ง

นก

นกเป็นสัตว์ที่มีระบบทางเดินหายใจบอบบาง อากาศเย็นชื้นในหน้าฝนอาจทำให้ป่วยได้ง่าย

โรคที่พบบ่อย:

  • โรคระบบทางเดินหายใจจากเชื้อรา Aspergillosis
  • โรคลำไส้อักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
  • โรคพยาธิที่เพิ่มจำนวนในสภาพแวดล้อมที่ชื้น

การดูแลป้องกัน:

  1. เก็บกรงนกในที่แห้ง ไม่ให้โดนละอองฝน
  2. ทำความสะอาดกรงและอุปกรณ์บ่อยๆ
  3. เปลี่ยนอาหารและน้ำทุกวัน
  4. ใช้ไฟให้ความอบอุ่นในช่วงที่อากาศเย็นมากๆ

เต่าและสัตว์เลื้อยคลาน

ความชื้นสูงในช่วงหน้าฝนเสี่ยงต่อการเกิดโรคเชื้อราในสัตว์เลื้อยคลาน

โรคที่พบบ่อย:

  • โรคเชื้อราที่กระดอง (Shell Rot) ในเต่า
  • โรคปอดอักเสบในสัตว์เลื้อยคลาน
  • โรคปากเปื่อยในงูและเต่า

การดูแลป้องกัน:

  1. ควบคุมความชื้นในที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับชนิดของสัตว์
  2. ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยและเปลี่ยนวัสดุรองพื้นบ่อยๆ
  3. หากเป็นเต่าน้ำ ควรเปลี่ยนน้ำในตู้บ่อยๆ และใช้เครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพ
  4. ตรวจสอบกระดองเต่าหรือผิวหนังของสัตว์เลื้อยคลานเป็นประจำ

การเตรียมบ้านให้ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงในหน้าฝน

นอกจากการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงโดยตรงแล้ว การจัดการสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูงและฝนตกชุก

การจัดการพื้นที่ภายในบ้าน

  1. ลดความชื้นในบ้าน
  • ใช้เครื่องดูดความชื้นในห้องที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่
  • เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นครั้งคราวเพื่อลดความชื้น
  • ตรวจสอบและซ่อมแซมจุดที่มีน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน
  • ใช้สารดูดความชื้นในตู้เสื้อผ้าหรือพื้นที่ปิดที่อาจมีความชื้นสะสม
  1. จัดเตรียมพื้นที่แห้งสำหรับสัตว์เลี้ยง
  • เตรียมที่นอนที่แห้งและสะอาด ยกสูงจากพื้น
  • เปลี่ยนผ้ารองนอนบ่อยๆ หรือใช้วัสดุที่ซับความชื้นได้ดี
  • จัดพื้นที่เฉพาะสำหรับเช็ดตัวและทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงหลังจากเปียกฝน
  • หลีกเลี่ยงการวางที่นอนสัตว์เลี้ยงใกล้ประตูหรือหน้าต่างที่อาจมีฝนสาดเข้ามา
  1. การทำความสะอาดบ้าน
  • ทำความสะอาดพื้นบ้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ
  • ซักที่นอนและอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยงสัปดาห์ละครั้ง
  • ตากเครื่องนอนและของเล่นให้แห้งสนิทภายใต้แสงแดด
  • กำจัดเชื้อราตามผนังหรือจุดที่มีความชื้นสูง

การจัดการพื้นที่ภายนอกบ้าน

  1. ป้องกันน้ำท่วมขัง
  • ตรวจสอบและทำความสะอาดท่อระบายน้ำรอบบ้าน
  • ยกระดับพื้นที่สำหรับให้สัตว์เลี้ยงออกกำลังกาย
  • กำจัดแอ่งน้ำที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและแมลงพาหะโรค
  • สร้างหลังคาเล็กๆ สำหรับพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงใช้เป็นประจำ
  1. การป้องกันสัตว์พาหะโรค
  • กำจัดหนูและแมลงที่อาจเป็นพาหะนำโรค
  • ติดมุ้งลวดหรือตาข่ายป้องกันแมลงเข้าบ้าน
  • เก็บอาหารสัตว์เลี้ยงในภาชนะที่มิดชิด
  • กำจัดขยะในบ้านอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ

อาหารและโภชนาการสำหรับสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าฝน

การดูแลเรื่องอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์เลี้ยง ทำให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดีขึ้น

การเลือกอาหารในช่วงหน้าฝน

  1. อาหารที่มีคุณภาพสูง
  • เลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี
  • มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารกันบูดหรือสารปรุงแต่งมากเกินไป
  • พิจารณาให้อาหารเสริมที่มีโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยในเรื่องผิวหนังและขน
  1. การจัดเก็บอาหาร
  • เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท กันความชื้น
  • ไม่ซื้ออาหารเม็ดปริมาณมากเกินไปในช่วงหน้าฝน
  • ตรวจสอบอาหารก่อนให้สัตว์เลี้ยงทุกครั้ง ระวังอาหารขึ้นรา
  • อาหารเปียกหรืออาหารสด ควรให้แล้วเก็บทันที ไม่ทิ้งไว้นาน
  1. เสริมวิตามินและอาหารเสริม
  • วิตามิน C ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
  • วิตามิน E ช่วยบำรุงผิวหนังและขน
  • โพรไบโอติกช่วยเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
  • น้ำมันปลาช่วยบำรุงผิวหนังและลดการอักเสบ

การสังเกตอาการผิดปกติในหน้าฝน

การสังเกตอาการผิดปกติและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

สัญญาณอันตรายที่ต้องพบสัตวแพทย์ด่วน

  1. ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
  • หายใจลำบาก หอบ หายใจเสียงดัง
  • ไอรุนแรงต่อเนื่อง
  • มีน้ำมูกข้น สีเขียวหรือสีเหลือง
  • จาม และมีน้ำตาไหลมาก
  • ปากหรือเหงือกเขียวคล้ำ (ขาดออกซิเจน)
  1. ปัญหาระบบทางเดินอาหาร
  • อาเจียนติดต่อกันมากกว่า 24 ชั่วโมง
  • ท้องเสียรุนแรง มีเลือดปน
  • ปฏิเสธอาหารและน้ำเกิน 24 ชั่วโมง
  • ท้องบวม แข็ง หรือกดแล้วเจ็บ
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน)
  1. ปัญหาผิวหนัง
  • มีแผลที่ผิวหนังลุกลามอย่างรวดเร็ว
  • มีรอยแดง บวม ร้อน มีหนองหรือน้ำเหลือง
  • ขนร่วงเป็นบริเวณกว้าง
  • เกาตัวรุนแรงจนเป็นแผล
  • ผิวหนังมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ

การเตรียมพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน

  1. ชุดปฐมพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยง
  • น้ำเกลือล้างแผล
  • ยาฆ่าเชื้อชนิดอ่อน
  • ผ้าพันแผล และกรรไกรตัดผ้า
  • ปรอทวัดไข้
  • แอลกอฮอล์และสำลี
  • ยาสามัญประจำบ้านตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
  1. การเตรียมตัวสำหรับกรณีน้ำท่วม
  • เตรียมกรงหรือที่ขนย้ายสัตว์เลี้ยง
  • จดบันทึกเบอร์โรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉิน
  • เตรียมยาประจำตัวของสัตว์เลี้ยงให้พร้อม
  • สำรองอาหารและน้ำดื่มสะอาด
  • วางแผนเส้นทางอพยพกรณีน้ำท่วมรุนแรง

สรุป

หน้าฝนนำมาทั้งความชุ่มฉ่ำและความเสี่ยงต่อโรคภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก การเข้าใจถึงโรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าฝน การสังเกตอาการผิดปกติ และการป้องกันที่เหมาะสม จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงของเราผ่านพ้นช่วงเวลานี้ได้อย่างแข็งแรงและมีความสุข

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ การดูแลเอาใจใส่เป็นประจำ การสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป และการพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเมื่อสงสัยว่ามีอาการผิดปกติ จะช่วยป้องกันไม่ให้โรคลุกลามจนรักษายาก

นอกจากนี้ การจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้แห้ง สะอาด และปลอดภัย การจัดเก็บอาหารอย่างถูกวิธี และการเสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหารที่มีคุณภาพ จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคได้มาก

การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา แต่หากสัตว์เลี้ยงเกิดป่วยขึ้นมา การตัดสินใจที่รวดเร็วในการพาไปพบสัตวแพทย์จะทำให้โอกาสหายจากโรคมีมากขึ้น

ด้วยความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เราสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยและมีความสุขตลอดหน้าฝนนี้และทุกฤดูกาลได้อย่างดีที่สุด

#สัตว์เลี้ยง #สาระ #โรคสัตว์เลี้ยงหน้าฝน #สุนัขเป็นโรคหน้าฝน #แมวเป็นโรคหน้าฝน #เห็บหมัดในสัตว์เลี้ยง #โรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง #เลปโตสไปโรซิส #ไอคอกในสุนัข #ดูแลสัตว์เลี้ยงหน้าฝน #ป้องกันโรคสัตว์เลี้ยง #กระต่ายเป็นโรคในหน้าฝน #นกเป็นโรคหน้าฝน #เต่าเป็นโรคหน้าฝน #อาหารสัตว์เลี้ยงหน้าฝน #ปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยง

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
Element72 ชวนสัมผัส “ENT.” คอนเซ็ปต์สโตร์มัลติแบรนด์แห่งใหม่ เสิร์ฟไอเทมลิมิเต็ดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่แรก ที่เดียว กับ Always First Launch ช้อปก่อนใครได้แล้ววันนี้!
ข่าวสาร
BAM ร่วมกับ เฮช ฟรี และชาวบ้านห้วยตอง จ.เชียงใหม่ ร่วมปลูกป่าเพื่อสร้างอาชีพไร้ควันที่ยั่งยืน
ข่าวสาร
“ELECTRIC NEON LAMP” เปิดคอนเสิร์ตใหญ่ จัดเต็มเพลย์ลิสสุดมันส์!! ชาวณีอรไม่มีหวั่น..ฝ่าฝนแห่เชียร์แน่นฮอลล์!!
ข่าวสาร
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลอง 39 ปีอย่างยิ่งใหญ่ 2-3 ส.ค. นี้ เตรียมส่งมอบประสบการณ์ “เหนือคำว่าคุ้ม” มอบส่วนลดสูงสุดกว่าครึ่งล้าน ในแคมเปญ “ฉลอง 39 ปี ซื้อตอนนี้ มีแต่คุ้ม
ข่าวสาร
Spacely AI ระดมทุน Seed ที่ 1 ล้านดอลลาร์ หวังเร่งเครื่อง Generative AI ปฏิวัติวงการสถาปัตย์
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..