นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) (PIMO-ไพโม่) ผู้ประกอบธุรกิจหลักผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีกำไรสุทธิ 113.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.98 ล้านบาท หรือ 54.34% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 73.58 ล้านบาท ส่วนรายได้ของบริษัทฯ ในงวดปีดังกล่าวอยู่ที่ 1,199.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.88 ล้านบาท หรือ 21.46% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 958.88 ล้านบาท

เนื่องจากทุกผลิตภัณฑ์ ได้แก่มอเตอร์แอร์ มอเตอร์สระและสปา มอเตอร์ปั๊มบ้าน มอเตอร์กำลังและมอเตอร์ปั๊มน้ำ มียอดขายที่เพิ่มขึ้น ท้้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับราคาวัตถุดิบที่ลดลง นอกจากนี้เพื่อให้การปรับราคาขึ้นลงของวัตถุดิบมีผลกระทบน้อยที่สุด บริษัทฯ จึงได้ติดตามสถานการณ์ของการปรับราคาวัตถุดิบอยู่ตลอดเวลาและพยายามบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีเสถียรภาพ เพื่อลดภาระในเรื่องของราคาวัตถุดิบที่ผันผวนตามช่วงเวลา
นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่าด้วยเศรษฐกิจที่ซบเซาและคู่แข่งที่มากขึ้นในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงต้องวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการหาวิธีลดต้นทุน ปรับราคาให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงการผลิตที่มีคุณภาพ ทันสมัยและมีการส่งสินค้าตรงต่อเวลารวมทั้งมีการส่งเสริมการขายต่างๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 โดยจ่ายจากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ในอัตรา 0.055 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท รวมเป็นเงิน 15,152,705 บาท โดยจ่ายจากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567
นอกจากนี้ยังอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 24,793,388 หุ้น วงเงิน 30 ล้านบาท โดยจะซื้อคืนในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 27 สิงหาคม 2568