นับเป็นก้าวสำคัญของการลงทุน กลุ่ม “เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์” หรือ NVD บริษัทที่เน้นการพัฒนาโครงการแนวราบระดับกลางบนจนถึงลักชัวรีมาตลอด รวมถึงโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ที่ปีนี้ได้ขยายพอร์ตเข้ามาสู่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางล่าง เพื่อมองหาตลาดใหม่ๆ โดยส่งโครงการ “The MOST รัตนาธิเบศร์” ลุยในทำเลรถไฟฟ้า “สายสีม่วง”
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (NVD) กล่าวว่า การพัฒนาโครงการ “The MOST รัตนาธิเบศร์” ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่เนอวานาต้องการสร้างการเติบโตในธุรกิจอสังหาฯ อย่างก้าวกระโดด และเปิดตัวโครงการใหม่ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ จากก่อนหน้านี้ ได้เปิดไปแล้วคือ The MOST อิสรภาพ เป็นคอนโด สูง 8 ชั้น ใกล้รพ.ศิริราช จำนวน 193 ยูนิต ราคาเริ่ม 3.07 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแรกที่ขยายตลาดลงมาในเซ็กเมนต์ระดับกลางของบริษัท ปัจจุบันปิดการขายเรียบร้อยแล้ว อีกทั้ง มองว่า ย่านรัตนาธิเบศร์ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากมีการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
สำหรับโครงการ The MOST รัตนาธิเบศร์” เป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น ความสูง 214.5 เมตร เมื่อสร้างเสร็จจะเป็นตึกที่สูงที่สุดใน จ.นนทบุรี จำนวนทั้งหมด 1,832 ยูนิต บนเนื้อที่ 5 ไร่ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการ 5,400 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน 24 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร, 1 ห้องนอนพลัส 35 ตารางเมตร, 1 ห้องนอนดับเบิลสเปซ 24 ตารางเมตร, 1 ห้องนอนดับเบิลสเปซ 28 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอนพลัส ดับเบิลสเปซ 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
“ การเข้าสู่ตลาดคอนโดระดับแมสมากขึ้น นับเป็นการท้าทายตัวเองที่จะต้องเริ่มมองหาตลาดใหม่ๆ และยังเป็นแก้ปัญหาเรื่องแบ็กล็อก เพราะที่ผ่านมาเน้นพัฒนาแนวราบเป็นหลัก สำหรับ The MOST รัตนาธิเบศร์ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดที่เนอวานาเคยพัฒนา และทำราคาเริ่มต้นต่ำที่สุดที่เคยมีคือเริ่มที่ 1.79 ล้านบาท”นายศรศักดิ์ กล่าว
นายรณชัย ไตรยสุนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ไม่ใช่ทุกทำเลบนถนนรัตนาธิเบศร์ จะเหมาะกับการพัฒนาคอนโดมิเนียม เพราะก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นทำเลปราบเซียน เคยมีภาวะซัพพลายห้องชุดล้นตลาดมาแล้ว แต่ทั้งนี้ตลาดเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว โครงการเก่าเริ่มทำยอดขายได้ดีขึ้น ส่วนโครงการใหม่เริ่มมีการเปิดตัวอีกครั้ง ทั้งนี้โครงการที่จะขายได้ จะต้องมีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งของคอนโด จะต้องอยู่ในจุดใกล้ศูนย์การค้า แหล่งช้อปปิ้ง เช่นเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ,เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย, โลตัส รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ หรือใกล้กับแหล่งงานในระยะเดินถึงโดยย่านนี้จะมีแหล่งงานสำคัญ เช่น ศูนย์ราชการ จ.นนทบุรี, สำนักงาน กสทช.(ใหม่)
นอกจากทำเลแล้ว ตัวโครงการและแปลนห้องต้องมีความแตกต่าง และเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด ก็จะยิ่งทำให้การขายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะดีมานด์ห้องแบบดับเบิลสเปซมีความต้องการสูงมากในตลาด แต่ซัพพลายในย่านนี้ไม่ค่อยมี ทำให้บริษัทน้นเลย์เอาต์ห้องชุดแบบ “ดับเบิลสเปซ” (Double Space) ที่มีฝ้าเพดานสูงถึง 4.3 เมตรเกือบทั้งโครงการสัดส่วน เกิน 90% โดยห้องชุด 24 ตารางเมตรแบบดับเบิลสเปซ ราคาเริ่ม 2.19 ล้านบาท หรือถ้าเฉลี่ยทั้งโครงการราคาจะตก 75,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร
และอีกจุดเด่น “พื้นที่ส่วนกลาง” รวม 5,000 ตารางเมตร มีส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ให้ใช้ เช่น สนามแบดมินตัน, สนามบาสเก็ตบอล, จอกกิ้งแทรค (Jogging track) ห้องเกมรูม, ห้องคาราโอเกะ, พื้นที่กลางแจ้งสำหรับทานหมูกระทะ, ออนเซน, กีฬาปีนเขา, โยคะ ฯลฯ
The MOST รัตนาธิเบศร์ จะเปิดจองวันที่ 5 สิงหาคมนี้ โดยจะนำห้องชุดแบ่งขายก่อน 300-400 ยูนิต ขณะนี้พร้อมให้เข้าชมเซสล์แกลลอรี โดยโดยโครงการผ่านรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว มีแผนจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงปลายปี 2566 และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปลายปี 2569

