กรุงเทพฯ 4 กันยายน 2568 — ในโลกของวัสดุก่อสร้าง มีแบรนด์สัญชาติไทยแบรนด์หนึ่งที่สร้างปรากฏการณ์จากการ “ก่อสร้างความสุข” ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพและการดูแลพนักงานทุกคนให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร จากบริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานหลักสิบคน มาสู่การเป็นผู้นำตลาดที่คนไทยไว้วางใจมาตลอด 33 ปี นี่คือเรื่องราวของ “จระเข้
คอร์ปอเรชั่น” ตัวจริงนวัตกรรมก่อสร้างครบวงจรที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อองค์กรยึดมั่นในหลัก Growth Mindset หรือการเชื่อมั่นและส่งเสริมศักยภาพและความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานตั้งแต่วันแรก ความสำเร็จที่มุ่งหวังก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
จุดเริ่มต้นจากกาวซีเมนต์ถุงแรกที่เปลี่ยนวงการก่อสร้าง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2535 บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท เซอรา ซี-เคียว จำกัด) เริ่มต้นขึ้นจากความตั้งใจของกลุ่มผู้ก่อตั้งที่อยากสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างคุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของช่างไทย จุดเริ่มต้นนี้ได้กลายมาเป็นดีเอ็นเอของจระเข้จนถึงทุกวันนี้

นายพรชัย จันทราช พนักงานฝ่ายโรงงานที่อยู่กับจระเข้มาตั้งแต่วันแรก เล่าว่า “ตอนมาทำงานวันแรก จำได้ว่าบรรยากาศโรงงานเป็นโกดังโล่ง ๆ มีกล่องเครื่องจักรตั้งอยู่ กำลังรอผู้รับเหมามาติดตั้งเครื่อง เราก็ช่วยกันประกอบเครื่องจักรอยู่หลายเดือน มีคนงานอยู่ไม่เกิน 5 คน พอเสร็จเรียบร้อย เราก็ผลิตกาวซีเมนต์ถุงแรกจากโรงงานนี้ในปี 2535” ภาพที่คุณพรชัยเล่านั้นสะท้อนการเริ่มต้นจากศูนย์ของบริษัท ผลิตภัณฑ์แรกของจระเข้อย่าง “กาวซีเมนต์จระเข้เขียว” กลายเป็นจุดพลิกโฉมวงการปูกระเบื้อง ด้วยเป็นกาวซีเมนต์คุณภาพสูงเหมาะสำหรับการปูกระเบื้องโดยเฉพาะและตอบโจทย์การใช้งานจริงของช่างมืออาชีพ กาวซีเมนต์จระเข้ จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้ใช้งาน แต่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าการผลิตสินค้าคุณภาพ คือการสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นจากตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เมื่อช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมามีแบรนด์อื่นที่คุ้นเคยอยู่แล้ว
นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานขายในประเทศ ที่ร่วมทีมจระเข้มาตั้งแต่ปี 2539 เล่าถึงช่วงบุกตลาดที่เต็มไปด้วยอุปสรรคว่า “ช่วงแรก ๆ แบรนด์จระเข้ยังไม่เป็นที่รู้จัก การขายของเราคือการวิ่งเข้าหาร้านผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ สมัยนั้นเวลาเราไปหารายใหญ่ ๆ ก็ต้องเข้าไปนั่งรอ รอนานมากและไปหลายครั้งมาก กว่าจะได้พบ ลูกค้ารายใหญ่ ๆ บางเจ้าเราใช้เวลาถึง 3 – 4 ปี จนได้พิสูจน์ตัวเองจากชื่อเสียงของคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่สั่งสมขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่เรามีคือความสม่ำเสมอในการเข้าหา เราไม่ท้อ เราสู้จนผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง”
ทุกความพยายามในยุคเริ่มต้นสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่แกร่งกล้า ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จในวันนี้ ตลอดเส้นทางกว่า 33 ปีที่ผ่านมา จระเข้ก้าวผ่านทุกความท้าทายมาได้ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ยุคสมัยและรักษาคุณภาพที่คนไทยไว้วางใจ จากแบรนด์เล็ก ๆ ในวันนั้น ทุกวันนี้ “จระเข้” กลายเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพและความจริงใจ ที่เติบโตเคียงข้างคนไทยมากว่า 3 ทศวรรษ

ด้าน นายสมคิด ไพรบึง พนักงานฝ่ายการตลาด ที่อยู่กับจระเข้มาถึง 29 ปี เล่าถึงบรรยากาศการทำงานว่า “เวลาเจอสถานการณ์ที่ท้าทาย ผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานก็คอยให้กำลังใจกันเสมอ คอยแนะนำและช่วยเหลือ ทำให้เราไม่ย่อท้อ ทุกวันนี้ความรู้สึกเวลามาทำงานยังคงเป็นเหมือนวันแรก รู้สึกอบอุ่น อยากเติบโตกับองค์กรไปนาน ๆ”
เชิดชู “พนักงาน” อยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จ
หนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรที่จระเข้ให้ความสำคัญสูงสุดคือการให้คุณค่าพนักงานทุกคน ด้วยความตระหนักดีว่าความทุ่มเทและความเชี่ยวชาญของทีมงานทุกฝ่าย คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตมาได้ทุกยุคทุกสมัย พนักงานมากมายอยู่กับองค์กรมาเกิน 10 ปี บางคนอยู่มาถึง 20-30 ปี และที่สำนักงานใหญ่บนถนนกรุงเทพกรีฑามีการสร้างรูปปั้น “พี่ภานุ” อดีตผู้จัดการฝ่ายขายผู้ล่วงลับซึ่งเป็นซูเปอร์เซลล์ในตำนานของจระเข้ ผู้เป็นต้นแบบของพนักงานจระเข้ยุคแรกที่ร่วมฝ่าฝันอุปสรรคจนแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อเชิดชู ระลึกถึง และขอบคุณความทุ่มเทที่มีให้บริษัท ปัจจุบันรูปปั้นพี่ภานุนับเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของสำนักงานใหญ่ ทุกครั้งที่มีแขกมาเยือน พนักงานก็จะมีเรื่องเล่าถึงพนักงานผู้เป็นที่รักคนนี้ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจและตอกย้ำว่าที่นี่ให้คุณค่า “คนทำงาน” เสมอ
องค์กรที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
วัฒนธรรมองค์กรนี้หล่อหลอมให้เกิดดีเอ็นเอที่แข็งแกร่ง โดยจระเข้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง แต่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในทุกกระบวนการผลิต จนเป็นผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างของคนไทยที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยมาอย่างยาวนาน ด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 รายการ “จระเข้อยู่มาตั้งแต่ผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์รุ่นแรก จนตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมงานก่อสร้าง ซ่อมแซม ทั้งหมวดกาวซีเมนต์ กาวยาแนว เคมีภัณฑ์ และสีจระเข้ ที่ตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน จระเข้ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “Build Today, Beyond Tomorrow สร้างวันนี้เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า” ที่ไม่ได้ครอบคลุมแค่การสร้างผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่รวมถึงการพัฒนาคนและยกระดับสังคมอย่างยั่งยืน คุณวิกิจอธิบายสิ่งที่จระเข้ยึดมั่นมากว่า 30 ปีว่า “ในอดีตจนถึงปัจจุบัน จระเข้ เน้นย้ำเรื่องการรักษาคุณภาพ การพัฒนาศักยภาพของคน และการรับผิดชอบต่อสังคมและโลกที่เราอาศัยอยู่ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของจระเข้ ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นการปฏิบัติจริง องค์กรเดินหน้านำเทคโนโลยีสะอาดมาใช้ ทั้งการใช้แผงโซล่าเซลล์ที่อาคารสำนักงานใหญ่และที่โรงงาน รวมถึงการทดลองใช้รถไฟฟ้าขนส่ง นอกจากนี้ เรายังนำวัสดุรีไซเคิลมาผลิตแพ็กเกจจิ้งผลิตภัณฑ์ พร้อมปลูกและดูแลผืนป่าชายเลนขนาด 62.5 ไร่เป็นเวลา 10 ปีในพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอน ในด้านการพัฒนาสังคม จระเข้ เดินหน้าอัปสกิลช่างฝีมือผ่านศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานจระเข้
อะคาเดมี่ การปั้นช่างปูกระเบื้องระดับภูมิภาคผ่านการแข่งขัน Crocodile Tiler X และสนับสนุนกีฬาเยาวชนผ่านการแข่งขัน Jorakay Junior Badminton Championship ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี”
ส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่
จระเข้เชื่อว่าคนรุ่นใหม่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวงการให้ยั่งยืน เพราะกล้าเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมีแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ ไม่ยึดติดกรอบเดิมๆ มองการทำงานร่วมกันระหว่างหลาย
เจเนอเรชันว่า “จระเข้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงแนวคิด คนจระเข้รุ่นแรกได้วางรากฐานที่มั่นคงไว้ พร้อมให้คนรุ่นใหม่ได้มาต่อยอดและเติบโตไปด้วยกัน”
จระเข้ คอร์ปอเรชั่น ในฐานะบริษัทสัญชาติไทย เชื่อมั่นว่าคนไทยและแบรนด์ไทยเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ก้าวต่อไปของจระเข้ คือการบุกตลาดโลกด้วยนวัตกรรมก่อสร้างไทยมาตรฐานสากล พร้อมส่งกาวซีเมนต์ กาวยาแนว และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างครบวงจรจากเมืองไทยสู่โครงการที่อยู่อาศัยทั่วโลก และส่งต่อคุณภาพและความจริงใจไปสู่คนรุ่นใหม่ที่จะมาร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืน