The Palm (copy)

การโอนบ้านและที่ดินให้ลูกในปี 2568 ทำอย่างไร? มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

การโอนบ้านและที่ดินใหู้กเป็นอีกหนึ่งการวางแผนที่พ่อแม่หลายครอบครัวคิดไว้ในใจ เพื่อมอบสินทรัพย์มีค่าให้กับบุตรหลาน อีกทั้งยังเป็นการวางแผนภาษีและสร้างความมั่นคงให้ครอบครัวในระยะยาว ในปี 2568 นี้ การโอนทรัพย์สินยังคงมีรายละเอียดและขั้นตอนที่ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น บทความนี้จะนำเสนอขั้นตอน เอกสารที่ต้องเตรียม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโอนบ้านและที่ดินให้ลูก เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างครบถ้วนและมั่นใจ

ทำไมการโอนบ้านให้ลูกจึงแตกต่างจากการรับมรดก?

การโอนบ้านหรือที่ดินให้ลูกในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่มีความแตกต่างจากการยกทรัพย์สินให้เป็นมรดกอย่างชัดเจน กล่าวคือ การโอนทรัพย์สินหมายถึงการที่ผู้ให้มีเจตนายกทรัพย์สินให้กับผู้รับในขณะที่ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่มรดกจะเกิดขึ้นหลังจากเจ้าของทรัพย์สินเสียชีวิตไปแล้ว ประเด็นสำคัญอีกประการคือ ผู้ให้สามารถยกบ้านและที่ดิน หรือสิ่งอื่นๆ ให้กับผู้รับโดยไม่จำเป็นต้องมีค่าตอบแทนใดๆ

การโอนบ้านให้ลูกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่มีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลดภาระภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งกำหนดให้ผู้ครอบครองที่ดินประเภทต่างๆ หรือเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด อาคารพาณิชย์ ที่มีมูลค่าเกินเกณฑ์ยกเว้นภาษี จำเป็นต้องเสียภาษีตามมูลค่าของทรัพย์สินในอัตราที่กำหนด การโอนบ้านและที่ดินให้บุตรจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกระจายการครอบครองสินทรัพย์และช่วยลดภาระภาษีได้

นอกจากนี้ การโอนทรัพย์สินยังช่วยลดปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในเรื่องมรดกในอนาคต รวมถึงทำให้พ่อแม่ได้เห็นลูกหลานได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มอบให้ ซึ่งสร้างความอุ่นใจได้เป็นอย่างดี

เอกสารใดบ้างที่ต้องเตรียมสำหรับการโอนบ้านให้ลูก?

การเตรียมเอกสารเพื่อโอนบ้านหรือที่ดินให้ลูกนั้น สามารถแบ่งได้เป็น 5 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้ไปดำเนินการในวันโอน ดังนี้

1. กรณีพ่อและแม่มาโอนพร้อมกัน

เมื่อทั้งพ่อและแม่จะมาโอนที่ดินให้ลูกพร้อมกัน เอกสารที่ต้องเตรียมประกอบด้วย:

  • โฉนดที่ดินตัวจริง
  • บัตรประชาชนของพ่อและแม่ พร้อมสำเนา
  • ทะเบียนบ้านของพ่อและแม่ พร้อมสำเนา
  • ใบจดทะเบียนสมรส

2. กรณีพ่อหรือแม่มาโอนคนเดียว

หากมีเพียงพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งมาดำเนินการ จะต้องมีเอกสารของคู่สมรสที่ไม่ได้มาเพิ่มเติม ได้แก่:

  • สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • หนังสือยินยอมคู่สมรสทำนิติกรรม

3. กรณีลูกไปโอนที่ดินพร้อมกับพ่อแม่

หากลูกสามารถไปดำเนินการด้วยตนเอง จะต้องนำเอกสารเหล่านี้ไปด้วย:

  • บัตรประชาชนของลูก พร้อมสำเนา
  • ทะเบียนบ้านของลูก พร้อมสำเนา

4. กรณีลูกมอบอำนาจให้คนอื่นมาแทน

ในกรณีที่ลูกไม่สามารถมาดำเนินการได้ และต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาแทน จะต้องเตรียมเอกสารดังนี้:

  • สำเนาบัตรประชาชนของลูกพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาทะเบียนบ้านของลูกพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
  • ใบมอบอำนาจกรมที่ดิน (ท.ด.21)

5. กรณีโอนโดยผู้จัดการมรดก

หากเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้ว และมีผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลหรือพินัยกรรม จะต้องใช้เอกสารดังนี้:

  • คำสั่งศาล คำพิพากษา หรือพินัยกรรมที่ตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
  • หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
  • ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
  • โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์

ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านและที่ดินให้ลูกปี 2568 ต้องจ่ายเท่าไหร่?

ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านและที่ดินให้ลูกนั้นจะแตกต่างกันไปตามสถานะทางกฎหมายของบุตร โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และบุตรที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ค่าใช้จ่ายในการโอนให้ลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย

ลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย คือบุตรที่เกิดระหว่างพ่อแม่ที่จดทะเบียนสมรสกัน เมื่อต้องการโอนบ้านหรือที่ดินให้ จะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ดังนี้:

  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน: 0.5% ของราคาประเมิน
  • ค่าจดทะเบียนโอนที่ดิน: 0.5% ของราคาประเมิน
  • ค่าอากรแสตมป์: 0.5% ของราคาประเมิน
  • ค่าพยาน: 20 บาท
  • ค่าคำขอ: 5 บาท
  • ค่าอากรคู่ฉบับ: 5 บาท
  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: 5% ของราคาประเมิน เฉพาะส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท

ข้อดีของการโอนให้ลูกที่ชอบด้วยกฎหมายคือ แม้ว่าพ่อแม่จะถือครองที่ดินเพียงไม่กี่ปี ก็ไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ตามข้อยกเว้นของกรมสรรพากร กรณีนี้จึงมีอัตราภาษีโอนที่ดินที่ต่ำที่สุด

ค่าใช้จ่ายในการโอนให้ลูกที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ลูกที่มิชอบด้วยกฎหมาย คือบุตรที่เกิดในระหว่างที่พ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือพ่อไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร เมื่อต้องการโอนบ้านหรือที่ดินให้ จะมีค่าใช้จ่ายดังนี้:

  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน: 0.5% ของราคาประเมิน
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาประเมิน (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามขั้นบันไดจากราคาประเมิน หักค่าใช้จ่ายได้ 50%

ค่าใช้จ่ายในกรณีนี้จะสูงกว่าการโอนให้ลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราปกติ ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาทเหมือนกรณีแรก

ขั้นตอนการโอนบ้านและที่ดินให้ลูกต้องทำอย่างไร?

การโอนบ้านและที่ดินให้ลูกมีขั้นตอนดำเนินการที่สำนักงานที่ดินในเขตพื้นที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ โดยมีขั้นตอนหลักๆ 5 ขั้นตอน ดังนี้

1. รับบัตรคิวและเตรียมเอกสาร

เมื่อไปถึงสำนักงานที่ดิน คุณจะต้องหยิบบัตรคิวเพื่อรอตรวจเอกสารกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือหยิบใบคำขอพร้อมแนบเอกสารที่เตรียมมาทั้งหมดตามรายการที่กล่าวมาข้างต้น

2. ส่งคำร้องและยื่นเอกสาร

นำเอกสารและใบคำขอยื่นให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วน หลังจากตรวจเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิวเพื่อไปดำเนินเรื่องต่อที่ฝ่ายชำนาญงาน

3. ยื่นเรื่องที่ฝ่ายชำนาญงาน

เมื่อถึงคิวของคุณ จะต้องไปดำเนินการที่ฝ่ายชำนาญงาน ซึ่งมีขั้นตอนย่อยดังนี้:

  • ลงลายมือชื่อทั้งผู้โอน (พ่อ-แม่) และผู้รับโอน (ลูก)
  • เจ้าหน้าที่จะทำการประเมินราคาที่ดิน และคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ
  • ได้รับใบแจ้งค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปชำระที่ฝ่ายการเงิน

4. ชำระเงินที่ฝ่ายการเงิน

นำใบแจ้งค่าใช้จ่ายไปชำระเงินที่ฝ่ายการเงิน เมื่อชำระเงินแล้ว คุณจะได้รับใบเสร็จรับเงิน โดยใบเสร็จสีฟ้าพ่อแม่ต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนใบเสร็จสีเหลืองเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้ดำเนินการต่อ

5. รับโฉนดที่ดินที่สลักหลังแล้ว

นำใบเสร็จไปยื่นที่ฝ่ายชำนาญงานอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะพิมพ์ข้อมูลสลักหลังโฉนดและให้ตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องทั้งหมด เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย การโอนที่ดินให้บุตรจะเสร็จสมบูรณ์ และคุณจะได้รับโฉนดที่ดินที่มีการเปลี่ยนชื่อเรียบร้อยแล้ว

การโอนบ้านให้ลูกช่วยลดภาระภาษีได้อย่างไร?

การโอนบ้านและที่ดินให้ลูกสามารถช่วยลดภาระภาษีได้หลายประการ โดยเฉพาะภายใต้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างต้องเสียภาษีตามมูลค่าของทรัพย์สิน

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้มีผลให้เจ้าของที่ดินที่มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท หรือผู้ที่ถือครองที่ดินมากกว่า 1 แปลง ต้องเสียภาษีตั้งแต่บาทแรก และยิ่งถือครองที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็ยิ่งต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้น

การโอนบ้านและที่ดินให้กับลูกหรือญาติพี่น้องจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยกระจายการถือครองทรัพย์สิน ทำให้สามารถลดภาระภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปีได้ แม้จะต้องเสียค่าโอนที่ดินครั้งหนึ่ง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการเสียภาษีทรัพย์สินในอัตราสูงทุกปี

นอกจากนี้ ในกรณีการโอนให้ลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีพิเศษคือไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท และไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% แม้ว่าจะถือครองทรัพย์สินมาไม่ถึง 5 ปีก็ตาม

ข้อควรระวังในการโอนบ้านและที่ดินให้ลูก

แม้ว่าการโอนบ้านและที่ดินให้ลูกจะมีประโยชน์หลายประการ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโอน ดังนี้

1. การสูญเสียอำนาจในการควบคุมทรัพย์สิน

เมื่อโอนบ้านหรือที่ดินให้ลูกแล้ว คุณจะไม่มีอำนาจทางกฎหมายเหนือทรัพย์สินนั้นอีกต่อไป หากในอนาคตมีความจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปทำธุรกรรมใดๆ จะไม่สามารถทำได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูก

2. ความเสี่ยงจากปัญหาครอบครัวในอนาคต

หากลูกมีปัญหาทางการเงิน หย่าร้าง หรือมีหนี้สิน ทรัพย์สินที่โอนให้ไปแล้วอาจตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น ถูกนำไปคำนวณเป็นสินสมรสในกรณีหย่าร้าง หรือถูกเจ้าหนี้บังคับคดีในกรณีมีหนี้สิน

3. ผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ

การโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูกอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณของพ่อแม่ ควรพิจารณาให้รอบคอบและอาจเลือกโอนทรัพย์สินเพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินของตนเองไว้

4. การวางแผนภาษีที่ไม่เหมาะสม

การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายอาจมีความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือทนายความก่อนดำเนินการ เพื่อให้แน่ใจว่าการวางแผนภาษีของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม

สรุป

การโอนบ้านและที่ดินให้ลูกเป็นการวางแผนทางการเงินและภาษีที่มีประโยชน์หากดำเนินการอย่างรอบคอบ ในปี 2568 ขั้นตอนการโอนยังคงต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันระหว่างการโอนให้ลูกที่ชอบด้วยกฎหมายและลูกที่มิชอบด้วยกฎหมาย

การโอนทรัพย์สินให้ลูกนั้นมีทั้งประโยชน์ในการลดภาระภาษีและช่วยกระจายการถือครองทรัพย์สิน แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เช่น การสูญเสียอำนาจในการควบคุมทรัพย์สิน และผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต

สุดท้ายนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือภาษีก่อนดำเนินการโอนทรัพย์สิน จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างรัดกุมและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการโอนบ้านและที่ดินให้ลูกของคุณ


#สาระ #การเงิน #โอนบ้านให้ลูก #โอนที่ดินให้ลูก #ค่าโอนบ้าน2568 #ภาษีที่ดิน #ขั้นตอนโอนบ้าน #วางแผนภาษี #มรดกตกทอด #กรมที่ดิน #ลดภาษีที่ดิน #โอนกรรมสิทธิ์

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
ข่าวสาร
เติมความพิเศษให้ทุกการเข้าพัก ด้วยของขวัญต้อนรับที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
ข่าวสาร
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย เสิร์ฟความหอมระดับพรีเมียม! ผนึกภาครัฐส่งเสริมสินค้า GI ยกระดับมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วสู่ระดับประเทศ จัดงาน “Mahachai Coconut Festival 2025 ตอน Proud บ้านแพ้ว” 25-31 กรกฎาคม 2568 นี้
“เอกา โกลบอล” เตรียมแผนขยายตลาดใหม่ รับมือเทรดวอร์ภาษีทรัมป์ เร่งเครื่องตลาดอินเดีย แก้เกมเศรษฐกิจโลกผันผวน
ข่าวสาร
SAM จัดประมูลทรัพย์ NPA กว่า 120 ลบ. ชูไฮไลท์บ้านเดี่ยวหลังใหญ่กลางเมือง
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..