KAVE playground

วิธีปลูกกล้วยให้งอกงามและได้ผลดีทำอย่างไร? คู่มือปลูกกล้วยฉบับสมบูรณ์

กล้วยเป็นผลไม้ยอดนิยมของคนไทยที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ให้ผลผลิตเร็ว และมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะปลูกไว้กินเองที่บ้านหรือปลูกเพื่อสร้างรายได้ก็ทำได้ไม่ยาก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกล้วยให้มากขึ้น ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา สายพันธุ์ต่างๆ วิธีปลูกและดูแล ไปจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์ ผู้ที่สนใจปลูกกล้วยสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมกล้วยถึงเป็นพืชที่น่าปลูก? ประโยชน์มหาศาลของกล้วยที่หลายคนอาจไม่รู้

กล้วยนับเป็นพืชมหัศจรรย์ที่ใช้ประโยชน์ได้ครบทุกส่วน ตั้งแต่ราก ลำต้น ใบ ดอก ไปจนถึงผล ซึ่งเป็นส่วนที่นิยมรับประทานมากที่สุด กล้วยมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวิวัฒนาการมายาวนานถึง 50 ล้านปี ปัจจุบันแพร่กระจายไปทั่วโลก กล้วยเป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย ทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวน และให้ผลผลิตรวดเร็วเพียง 8-12 เดือนหลังปลูก

นอกจากความอร่อยแล้ว กล้วยยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ ทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต วิตามินหลายชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย เสริมสร้างพลังงาน ลดอาการอ่อนเพลีย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ตลอดจนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมความดันโลหิต และแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง การรับประทานกล้วยเป็นประจำจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี อย่างไรก็ตาม กล้วยไม่ใช่ยารักษาโรค จึงควรรับประทานควบคู่กับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์

รู้จักกล้วยให้มากขึ้น สายพันธุ์ไหนนิยมปลูกในบ้านเรา?

กล้วยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Musa sapientum Linn. เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว จัดอยู่ในวงศ์ Musaceae มีลักษณะเป็นพืชล้มลุก แต่มีขนาดใหญ่ ลำต้นเป็นลำต้นเทียมที่เกิดจากกาบใบอัดกันแน่น มีเหง้าอยู่ใต้ดินเรียกว่า “หัว” หรือ “เหง้า” ซึ่งจะแตกหน่อออกมาเป็นต้นใหม่ได้

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกล้วยค่อนข้างน่าสนใจ มีรากสีน้ำตาล ยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรง ทรงกลม อวบน้ำ สูงประมาณ 3-4 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ แบนและยาว เรียกว่า “ใบตอง” ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด เรียกว่า “ปลี” หรือ “หัวปลี” ผลออกเป็นเครือ มีหลายหวีเรียงกัน แต่ละหวีมีหลายผล

กล้วยในประเทศไทยมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งนักวิชาการได้แบ่งกลุ่มตามจีโนมหรือข้อมูลทางพันธุกรรมออกเป็น 8 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่ม AA, AAA, BB, BBB, AAB, ABB, ABBB และ AABB โดยแต่ละกลุ่มมีลักษณะแตกต่างกันทั้งขนาด รสชาติ และความหวานของเนื้อ

สำหรับสายพันธุ์กล้วยยอดนิยมที่พบเห็นได้บ่อยในประเทศไทย มีดังนี้:

  1. กล้วยไข่: เป็นกล้วยยอดนิยมอันดับต้นๆ มีลำต้นเพรียวสูง ผลทรงกลม ขนาดเล็กและสั้น เปลือกบาง ออกดกมาก รสชาติหวาน กลิ่นหอม เนื้อเหนียวแน่น นิยมส่งออกไปยังต่างประเทศ
  2. กล้วยหอม: เป็นกล้วยที่นิยมรับประทานมาก มีลำต้นสูงเพรียว ใบตั้งตรง ให้ผลดก ขนาดใหญ่และยาว เนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติหวาน มีกลิ่นหอม มีหลายพันธุ์ย่อย เช่น กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว
  3. กล้วยน้ำว้า: เป็นกล้วยที่คนไทยนำส่วนต่างๆ มาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ทั้งผล ใบตอง และหยวก มีลำต้นค่อนข้างใหญ่ ใบใหญ่ ผลใหญ่ อวบ ออกดก ผลดิบมีเหลี่ยม สุกแล้วทรงค่อนข้างกลม
  4. กล้วยเล็บมือนาง: เป็นกล้วยท้องถิ่นของภาคใต้ ลำต้นเล็กแต่สูง ให้ผลดก มีหวีเยอะ ผลมีขนาดค่อนข้างเล็กและเพรียว รสชาติหวานอร่อย

สภาพแวดล้อมแบบไหนที่เหมาะกับการปลูกกล้วย?

การเลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การปลูกกล้วยประสบความสำเร็จ กล้วยชอบดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำและอากาศได้ดี มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ หรือที่เรียกกันว่า “ดินน้ำไหลทรายมูล” หากพื้นที่ปลูกเป็นดินเหนียว ควรผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อช่วยให้ดินโปร่งขึ้น หรือยกร่องเพื่อช่วยระบายน้ำ

นอกจากเรื่องดินแล้ว กล้วยยังชอบอากาศร้อนชื้นและแสงแดดพอสมควร ควรเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด เพราะหากมีแสงแดดไม่เพียงพอ กล้วยอาจไม่ออกเครือหรือคุณภาพผลผลิตไม่ดีพอ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังไม่ให้ปลูกในที่ที่มีลมแรงมาก เนื่องจากใบกล้วยค่อนข้างใหญ่ มีความต้านลมสูง อาจทำให้ต้นหักล้มได้ง่าย

น้ำก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับการปลูกกล้วย แม้ว่ากล้วยจะเป็นพืชที่กักเก็บน้ำในลำต้นได้ดี แต่หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ การเจริญเติบโตจะไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จึงควรมีระบบการให้น้ำที่เพียงพอ เพื่อให้ต้นกล้วยเติบโตอย่างสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

วิธีการปลูกกล้วยที่ถูกต้องทำอย่างไร?

การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้น นอกจากการเลือกสายพันธุ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแล้ว วิธีการปลูกที่ถูกต้องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกกล้วย คือช่วงต้นฤดูฝน เพราะมีความชุ่มชื้นพอเหมาะ ทำให้หน่อกล้วยงอกงามได้ดี

การเตรียมหน่อกล้วย

การขยายพันธุ์กล้วยสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการเพาะเมล็ด การแยกหน่อ และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แต่วิธีที่นิยมและสะดวกที่สุด คือ การใช้หน่อกล้วย โดยเลือกหน่อที่มีความแข็งแรง อวบอ้วน มีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร หน่อไม่ควรอ่อนหรือแก่จนเกินไป เพราะจะทำให้กล้วยตกเครือไม่พร้อมกัน

ขั้นตอนการปลูกกล้วย

  1. เตรียมหลุมปลูก: ขุดหลุมขนาด 50 x 50 x 50 เซนติเมตร แต่ละหลุมควรห่างกันประมาณ 2-4 เมตร ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของกล้วย (พันธุ์ที่ลำต้นใหญ่ควรห่างกันมากกว่า) จากนั้นตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้แสงแดดช่วยกำจัดเชื้อโรคและศัตรูพืช
  2. เตรียมดินปลูก: ผสมดินที่ขุดตากไว้กับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก และอาจเพิ่มหินฟอสเฟตประมาณ 50 กรัม รองก้นหลุมให้สูงประมาณ 20 เซนติเมตร
  3. ปลูกหน่อกล้วย: วางหน่อกล้วยลงกลางหลุม โดยให้ยอดสูงกว่าระดับผิวดินประมาณ 10-20 เซนติเมตร กลบดินให้แน่น พูนดินรอบโคนต้นให้สูงเพื่อป้องกันน้ำขัง
  4. รดน้ำ: รดน้ำให้ชุ่มหลังปลูกเสร็จ และควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงแรก เพื่อให้หน่อกล้วยตั้งตัวได้

หลังจากปลูกประมาณ 1-2 สัปดาห์ หน่อกล้วยจะเริ่มผลิใบใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากล้วยเริ่มเจริญเติบโตแล้ว ควรดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี

การดูแลรักษากล้วยหลังปลูกควรทำอย่างไร?

การดูแลรักษากล้วยหลังปลูกเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยมีวิธีการดูแลรักษาดังนี้:

การให้น้ำ

กล้วยเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ชอบน้ำขัง ควรรดน้ำทุกวันในช่วงแรกของการปลูกและช่วงฤดูแล้ง แต่ต้องระวังไม่ให้มีน้ำขังบริเวณโคนต้น เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ในช่วงฤดูฝน อาจลดการให้น้ำลง แต่ยังต้องคอยสังเกตความชุ่มชื้นของดินเสมอ

การใส่ปุ๋ย

กล้วยต้องการธาตุอาหารค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงแตกใบและออกดอก ควรใส่ปุ๋ยเป็นระยะ ดังนี้:

  1. หลังปลูก 1 เดือน: ใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เช่น ปุ๋ยยูเรีย เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ
  2. ช่วง 3-6 เดือน: ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตรสมดุล เช่น 15-15-15 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตและช่วยให้ต้นแข็งแรง
  3. ช่วงออกปลี: ใส่ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น 13-13-21 เพื่อช่วยให้ผลกล้วยสมบูรณ์และมีคุณภาพดี

การตัดแต่งกอ

ควรหมั่นตัดแต่งกอกล้วยอย่างสม่ำเสมอ โดยควรปฏิบัติดังนี้:

  1. ตัดหน่อที่แตกออกมาให้เหลือแค่ 1-2 หน่อ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารจากต้นแม่
  2. ตัดใบแห้งออก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแมลง
  3. หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ควรตัดต้นแม่ที่ให้ผลผลิตแล้วออก เพื่อให้หน่อรุ่นต่อไปได้รับแสงแดดและธาตุอาหารอย่างเต็มที่

การค้ำยันต้น

เมื่อต้นกล้วยติดเครือแล้ว ควรทำไม้ค้ำยันเพื่อป้องกันต้นล้มเนื่องจากน้ำหนักของเครือกล้วย โดยเฉพาะในช่วงที่มีลมแรง วิธีการค้ำยันที่นิยม ได้แก่:

  1. การค้ำแบบลำเดี่ยว: ใช้ไม้แข็งแรงปักลงดินให้มั่นคง แล้วพิงกับลำต้นกล้วย
  2. การค้ำแบบง่าม: ใช้ไม้ที่มีง่ามตามธรรมชาติรองรับลำต้นหรือก้านเครือ
  3. การค้ำแบบสามขา: ใช้ไม้สามท่อนมาผูกรวมกันเป็นรูปสามเหลี่ยม วางรองรับเครือกล้วย

โรคและแมลงที่มักพบในการปลูกกล้วยมีอะไรบ้าง? วิธีป้องกันและรักษาเป็นอย่างไร?

การปลูกกล้วยอาจต้องเผชิญกับปัญหาโรคและแมลงศัตรูพืช ซึ่งหากไม่ได้รับการป้องกันและรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลเสียต่อผลผลิตได้ ต่อไปนี้เป็นโรคและแมลงที่พบบ่อยในการปลูกกล้วย:

โรคที่พบบ่อย

  1. โรคตายพราย: เป็นโรคที่พบได้บ่อยในกล้วยเกือบทุกชนิด มักพบในต้นกล้วยอายุ 4-5 เดือนขึ้นไป สังเกตได้จากก้านใบที่มีสีเหลืองอ่อนของใบแก่ ต่อมาเชื้อราจะลุกลามทำให้ต้นกล้วยตาย วิธีป้องกันคือการคัดเลือกหน่อพันธุ์ที่สะอาด ปราศจากโรค และหมั่นตรวจสอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ
  2. โรคใบจุด: เกิดจากเชื้อรา ทำให้ใบกล้วยมีจุดสีน้ำตาลถึงดำ ซึ่งจะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ใบแห้งและตายในที่สุด วิธีป้องกันคือการตัดแต่งใบที่เป็นโรคออกและเผาทำลาย พร้อมทั้งฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา

แมลงศัตรูพืช

  1. ด้วงงวง: มีสองชนิดที่มักพบในต้นกล้วย ได้แก่ ด้วงงวงเจาะเหง้ากล้วย และด้วงงวงเจาะต้นกล้วย ตัวเต็มวัยจะวางไข่บริเวณกาบกล้วยหรือเหง้า เมื่อฟักเป็นตัวหนอนจะเจาะชอนไชกัดกินทำลายระบบส่งน้ำและอาหารของต้นกล้วย หากรุนแรงอาจทำให้ต้นกล้วยตาย วิธีป้องกันคือการตกแต่งทำความสะอาดบริเวณกอกล้วยอย่างสม่ำเสมอ และใช้สารสกัดธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากใบยาเส้นผสมกับใบสะเดาฉีดพ่นบริเวณโคนต้น
  2. หนอนม้วนใบ: เป็นตัวหนอนที่จะกัดกินและม้วนใบกล้วย ทำให้การสังเคราะห์แสงลดลง วิธีป้องกันคือการสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอและกำจัดหนอนที่พบด้วยมือ หรือใช้สารสกัดธรรมชาติฉีดพ่นเมื่อพบการระบาด

การเฝ้าระวัง ตรวจสอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ และจัดการปัญหาตั้งแต่เริ่มพบอาการ จะช่วยลดความเสียหายจากโรคและแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การรักษาความสะอาดของแปลงปลูก ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคออกและเผาทำลาย ก็เป็นวิธีป้องกันที่ดีอีกวิธีหนึ่ง

เมื่อไหร่กล้วยจะออกผลและเก็บเกี่ยวได้?

ระยะเวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงออกผลของกล้วยจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ สภาพแวดล้อม และการดูแล โดยทั่วไป กล้วยจะเริ่มออกดอกและให้ผลตั้งแต่ 8-12 เดือนหลังปลูก แต่บางสายพันธุ์อาจใช้เวลาน้อยกว่าหรือมากกว่านี้

การสังเกตว่ากล้วยกำลังจะออกปลีนั้น สามารถดูได้จาก “ใบธง” ซึ่งเป็นใบที่มีลักษณะแคบกว่าใบปกติและจะปรากฏเป็นใบสุดท้ายก่อนที่ต้นกล้วยจะแทงช่อดอก หลังจากที่กล้วยออกปลีแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเริ่มทยอยผลิดอกออกมาเป็นหวี ซึ่งจะค่อยๆ พัฒนาเป็นผลกล้วย

การเก็บเกี่ยวกล้วยควรทำในช่วงที่กล้วยแก่จัด แต่ยังไม่สุก สังเกตได้จากการที่เหลี่ยมของผลกล้วยเริ่มลดลง ผลอวบ เปลือกเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเขียวอ่อนหรือเหลืองอ่อนตามสายพันธุ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 90-120 วันหลังจากออกปลี

วิธีการเก็บเกี่ยวทำได้โดยใช้มีดคมตัดที่ก้านเครือ แล้วค่อยๆ วางเครือกล้วยลง ระวังไม่ให้กล้วยชอกช้ำ หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ควรตัดต้นที่ให้ผลผลิตแล้วออก เพื่อให้หน่อที่เตรียมไว้เจริญเติบโตต่อไป

วิธีนำกล้วยไปใช้ประโยชน์สารพัดทั้งต้น

กล้วยเป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมาก ทุกส่วนของต้นกล้วยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ไม่มีส่วนไหนต้องทิ้ง ดังนี้:

ผลกล้วย

  • กินสดเป็นผลไม้ อุดมไปด้วยสารอาหารและพลังงาน
  • นำไปประกอบอาหารหวาน เช่น กล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม กล้วยกวน
  • แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กล้วยตาก กล้วยฉาบ กล้วยอบเนย น้ำกล้วย
  • ใช้เป็นส่วนผสมในขนมอบ เช่น เค้กกล้วย บราวนี่กล้วย

หยวกกล้วย

  • นำมาประกอบอาหาร เช่น แกงหน่อไม้ใส่หยวกกล้วย ต้มจิ้มน้ำพริก
  • ใช้เป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะอาหารวัวและควาย
  • ใช้ทำปุ๋ยหมัก เนื่องจากย่อยสลายง่ายและให้ธาตุอาหารที่ดี

ใบตอง

  • ใช้ห่อขนมหรืออาหาร ทำให้มีกลิ่นหอมและช่วยรักษาความชุ่มชื้น
  • ใช้ทำกระทงใส่อาหารหรือใช้ในพิธีกรรมต่างๆ
  • ใช้ทำหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น กระทง บายศรี

ลำต้นและราก

  • นำไปสับเป็นชิ้นเล็กๆ ทำปุ๋ยหมัก
  • นำไปบดเป็นอาหารสัตว์
  • ใช้เส้นใยจากลำต้นทำเป็นกระดาษสาหรับงานหัตถกรรม

ปลีกล้วย

  • นำมาประกอบอาหาร เช่น ยำปลีกล้วย แกงปลีกล้วย
  • ใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับแม่หลังคลอดบุตร ช่วยกระตุ้นน้ำนม

กาบกล้วย

  • ใช้ทำเชือกมัดของ
  • นำไปถักเป็นงานหัตถกรรมต่างๆ
  • ใช้ห่อหมกอาหารหรือขนม

การนำทุกส่วนของต้นกล้วยไปใช้ประโยชน์นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว ยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าอีกด้วย

สรุป

การปลูกกล้วยเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ไม่ว่าจะปลูกไว้บริโภคเองในครัวเรือนหรือปลูกเพื่อการค้า กล้วยเป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก ต้นทุนต่ำ แต่ให้ผลผลิตและประโยชน์มากมาย ตั้งแต่ราก ลำต้น ใบ ไปจนถึงผล

สำหรับผู้ที่สนใจจะปลูกกล้วย ควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์การปลูก จัดเตรียมพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงพอและดินมีความอุดมสมบูรณ์ ใช้หน่อพันธุ์ที่แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลง และดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การตัดแต่งกอ และการป้องกันกำจัดโรคแมลง

หากทำได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่แนะนำ คุณจะมีต้นกล้วยที่แข็งแรง ให้ผลผลิตดี และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะสร้างความภาคภูมิใจและความสุขในการปลูกกล้วยไว้ในสวนของคุณเอง


#สาระ #กล้วยไทย #วิธีปลูกกล้วย #กล้วยสายพันธุ์ #ประโยชน์กล้วย #กล้วยหอม #กล้วยไข่ #กล้วยน้ำว้า #การดูแลกล้วย #โรคกล้วย #การขยายพันธุ์กล้วย

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
สมุนไพรไล่ยุงมีอะไรบ้าง? 7+ ชนิดที่ใช้แทนสารเคมีได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ต้นไม้และสวน
เผยภาพจริงครั้งแรก! “เดมี พระราม 9 – เหม่งจ๋าย” ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ เปิดจอง 14 – 15 มิ.ย. นี้
ข่าวสาร
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เดินเกมสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค เร่งขยายฐานตลาดทั่วประเทศ ตอกย้ำ ‘มาตรฐานก่อสร้าง – บริการที่แตกต่าง’
ข่าวสาร
เปิดตัว “SPACES” โดย SNS เครือสหพัฒน์ ผนึกกำลัง KingBridge Tower และ IWG สร้างพื้นที่สำนักงานให้เช่าครบวงจร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ใจกลางพระราม 3
ข่าวสาร
วิธีปลูกกล้วยให้งอกงามและได้ผลดีทำอย่างไร? คู่มือปลูกกล้วยฉบับสมบูรณ์
ต้นไม้และสวน
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..