KAVE playground

การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลอย่างไรให้ดูสวยงามและน่าอยู่?

การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความเรียบง่าย สวยลงตัว และให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง สบายตา นอกจากนี้ยังดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหมาย สไตล์มินิมอลตั้งอยู่บนปรัชญา “น้อยแต่มาก” (Less is More) ที่มุ่งเน้นการเลือกใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นและมีคุณค่า แต่การจะสร้างบ้านสไตล์มินิมอลที่ทั้งสวยงามและน่าอยู่นั้น ไม่ใช่แค่การลดทอนสิ่งของ แต่ยังต้องคำนึงถึงการออกแบบ การเลือกสี และการจัดวางที่ลงตัว

มินิมอลสไตล์มีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับคุณ?

แนวคิดสำคัญของสไตล์มินิมอลคือการลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือไว้แต่สิ่งที่สำคัญและมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์และจำเป็นต่อการใช้งานถือเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งบ้านสไตล์นี้ โดยยึดคอนเซ็ปต์ ‘น้อยแต่มาก’ เอาไว้เป็นแกนหลัก

มินิมอลสไตล์แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบหลัก ดังนี้:

1. สไตล์เน้นความสวยงาม (Aesthetic-Minded)

รูปแบบนี้จะเน้นความสวยงามและความชอบส่วนตัวเป็นหลัก โดยของแต่งบ้านทุกชิ้นต้องมาพร้อมดีไซน์ที่เก๋และสะดุดตา แม้จะเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบของตกแต่งบ้านและต้องการมีมุมสวยๆ ในบ้านไว้ถ่ายรูป หรือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะและต้องการให้บ้านเป็นพื้นที่แสดงออกถึงรสนิยม

2. สไตล์ไร้เฟอร์นิเจอร์ (Furniture-Free)

ตามชื่อคือการตกแต่งบ้านโดยใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น การใช้ฟูกนอนแทนเตียง การใช้เบาะรองนั่งแทนโซฟา เพื่อทำให้พื้นที่โปร่งโล่งและดูกว้างมากที่สุด สไตล์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายหรือมีพื้นที่อยู่อาศัยจำกัด

3. สไตล์รักธรรมชาติ (Eco)

เป็นการผสมผสานระหว่างแนวคิดมินิมอลกับการรักษ์โลก โดยเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น โต๊ะไม้ โซฟาผ้า หรือเก้าอี้หวาย ร่วมกับการตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศ เพิ่มความสดชื่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติที่ชื่นชอบวัสดุไม้และต้องการลดการใช้วัสดุที่ย่อยสลายยาก

4. สไตล์เน้นประโยชน์ใช้สอย (Efficiency)

รูปแบบนี้จะเน้นฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความสวยงาม โดยจะเลือกใช้เฉพาะเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้านที่มีประโยชน์กับผู้ใช้งานเท่านั้น แทบทุกชิ้นต้องมีประโยชน์ใช้สอยชัดเจน ไม่มีของประดับที่ไร้ประโยชน์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบบ้านโล่งๆ และไม่มีเวลามากนักในการดูแลทำความสะอาดบ้าน

5. สไตล์คุ้มค่า (Treasurer)

เป็นการตกแต่งบ้านที่เน้นการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีแต่ราคาไม่แพง มาพร้อมประโยชน์ใช้สอยและความทนทาน โดยเลือกใช้เพียง 2-3 ชิ้นที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้ห้องดูโล่งสบายตามากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว

การเลือกโทนสีอย่างไรให้บ้านดูมินิมอลแต่ไม่จืดชืด?

สีเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการสร้างบรรยากาศบ้านสไตล์มินิมอล การเลือกใช้สีควรยึดตามหลักการใช้สีแบบ Monochrome คือการเลือกใช้สีหลักเพียงสีเดียวในการตกแต่ง โดยอาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการไล่ระดับความเข้มอ่อนของสี หรือเลือกใช้สีที่อยู่ในโทนใกล้เคียงกัน

แนวคิดของ Monochrome ไม่ได้จำกัดเฉพาะสีขาว-ดำเท่านั้น แต่หมายถึงการใช้สีหลักสีเดียวที่มีการไล่น้ำหนักสีเพื่อสร้างความแตกต่างและมิติให้กับพื้นที่ กลุ่มสีที่นิยมในการตกแต่งบ้านมินิมอลมีดังนี้:

1. โทนสีขาว-ดำ-เทา

เป็นชุดสียอดนิยมที่บ่งบอกถึงความเรียบง่าย หรูหรา และทันสมัย เทคนิคที่นิยมคือการทาผนังด้านหนึ่งด้วยสีที่เข้มกว่า เช่น สีดำหรือสีเทาเข้ม ส่วนผนังที่เหลือทาด้วยสีขาว เพื่อสร้างมิติให้กับห้อง ร่วมกับการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีสีในโทนเดียวกัน

2. โทนสีธรรมชาติ (Earth Tone)

เป็นชุดสีสำหรับคนรักธรรมชาติหรือผู้ที่ชอบบรรยากาศอบอุ่น โดยใช้สีโทนน้ำตาลและโทนเขียวเป็นหลัก สีเหล่านี้บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติและความสงบ ควรผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้หรือหวาย และเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้จริง

3. โทนสีฤดูใบไม้ผลิ (Spring Blossom)

เป็นการผสมผสานระหว่างสีเขียวอ่อน สีชมพู และสีน้ำเงิน ทำให้บ้านมีทั้งความอบอุ่น อ่อนโยน และมีชีวิตชีวา เหมาะกับการทาผนังด้วยสีขาวเป็นพื้นหลักและเลือกใช้ของตกแต่งที่มีสีในโทนฤดูใบไม้ผลิเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

4. โทนสีหมอกยามเช้า

เป็นการผสมผสานระหว่างสีเทา สีเบจ และสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นสีโทนเย็นที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและผ่อนคลายภายในบ้าน สามารถทาผนังด้วยสีเทาเป็นหลักและเสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์ในโทนสีที่เหลือ เพื่อให้บ้านดูมีมิติและน่าสนใจมากขึ้น

เฟอร์นิเจอร์แบบไหนที่เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอล?

การเลือกเฟอร์นิเจอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เพราะต้องจำกัดจำนวนชิ้นและเลือกเฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น มีหลักการเลือกที่ควรคำนึงถึงดังนี้:

1. พิจารณาความจำเป็นเป็นอันดับแรก

ก่อนตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใด ต้องถามตัวเองว่าจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่ โดยเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นในแต่ละห้องมีดังนี้:

  • ห้องนอน: เตียงนอน โต๊ะข้างเตียง โคมไฟ ตู้เสื้อผ้า
  • ห้องนั่งเล่น: โซฟา โต๊ะกลาง ชั้นวางทีวีหรือตู้เก็บของเอนกประสงค์
  • ห้องทำงาน: โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ชั้นวางหนังสือหรืออุปกรณ์

2. เลือกดีไซน์ที่เรียบง่าย มีเส้นสายชัดเจน

เฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านมินิมอลควรมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่มีลวดลายมากเกินไป เน้นเส้นสายที่สะอาดตา ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปทรงเรขาคณิตหรือมีความโค้งมนที่เรียบง่าย ตัวอย่างเช่น:

  • โต๊ะไม้ทรงเรียบที่มีขาเรียวบาง
  • เก้าอี้ไม้ดีไซน์เรียบไม่มีลวดลายแกะสลัก
  • ชั้นวางของทรงเหลี่ยมเรียบง่าย
  • โซฟาผ้าสีเรียบที่มีขาเก๋แต่ไม่หวือหวา

3. คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก

เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นควรตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เลือกชิ้นที่มีหลายฟังก์ชันจะยิ่งดี เพราะช่วยประหยัดพื้นที่และลดจำนวนเฟอร์นิเจอร์ลงได้ เช่น:

  • โซฟาเบดที่สามารถปรับเป็นเตียงนอนได้
  • โต๊ะกลางที่มีชั้นเก็บของด้านล่าง
  • เตียงที่มีลิ้นชักสำหรับเก็บของใต้เตียง
  • ตู้หรือชั้นเก็บของอเนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้งวางทีวีและเก็บของใช้

4. เพิ่มความน่าสนใจด้วยพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลาย

แม้จะเป็นบ้านมินิมอล แต่สามารถสร้างความน่าสนใจได้ด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวสัมผัส (Texture) ที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างมิติให้กับห้อง เช่น:

  • ผสมผสานระหว่างเฟอร์นิเจอร์ผิวไม้ด้านกับเฟอร์นิเจอร์ผิวไม้มันเงา
  • เพิ่มความนุ่มนวลด้วยหมอนอิงผ้าหรือพรมเนื้อนุ่ม
  • ใช้เก้าอี้หวายหรือรัดหวาย เพื่อสร้างลวดลายและความรู้สึกแตกต่าง

แสงธรรมชาติและวัสดุปูพื้นมีความสำคัญอย่างไรในบ้านมินิมอล?

บ้านสไตล์มินิมอลให้ความสำคัญกับความโปร่งโล่งและความอบอุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศเหล่านี้คือแสงธรรมชาติและวัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง

ความสำคัญของแสงธรรมชาติ

แสงธรรมชาติช่วยให้บ้านดูโปร่ง สว่าง และมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดพลังงานและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย มีวิธีเพิ่มแสงธรรมชาติในบ้านดังนี้:

  • เลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ที่ปล่อยให้แสงเข้าได้มากที่สุด
  • ติดตั้งกระจกหรือบานกระจกแทนผนังทึบในบางจุด
  • ใช้ม่านโปร่งหรือมู่ลี่ที่สามารถปรับแสงได้ แทนการใช้ผ้าม่านหนาทึบ
  • จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ไม่บังแสงจากภายนอก
  • ติดตั้งช่องแสงบนหลังคาหรือเพดาน เพื่อรับแสงจากด้านบน

ตามแนวคิดการออกแบบบ้านในสไตล์มินิมอลของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าบ้านที่มีแสงธรรมชาติส่องถึงเป็นบ้านที่อยู่สบายที่สุด หน้าต่างขนาดใหญ่ไม่เพียงช่วยให้บ้านสว่างในเวลากลางวัน แต่ยังช่วยรักษาอุณหภูมิให้อบอุ่นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวอีกด้วย

การเลือกวัสดุปูพื้น

พื้นเป็นส่วนใหญ่ของบ้านพอๆ กับผนัง จึงมีผลต่อบรรยากาศโดยรวม การเลือกวัสดุปูพื้นควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับเฟอร์นิเจอร์และอารมณ์ของห้อง ดังนี้:

  • พื้นไม้สีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอลแบบ Eco
  • พื้นกระเบื้องสีขาวหรือสีเทาอ่อนช่วยสะท้อนแสงและทำให้ห้องดูกว้าง เหมาะกับสไตล์มินิมอลแบบโมเดิร์น
  • พื้นปูนขัดเรียบให้ความรู้สึกทันสมัยและดูแลรักษาง่าย เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอลแบบอุตสาหกรรม (Industrial)
  • พื้นไม้สีเข้มสร้างความตัดกันกับเฟอร์นิเจอร์สีอ่อน ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับเฟอร์นิเจอร์

ควรเลือกวัสดุปูพื้นที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์และตอบโจทย์การใช้งาน เช่น ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ควรเลือกพื้นที่สอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้เหมือนกันหรือเป็นพื้นที่สร้างความตัดกันอย่างสวยงาม

10 ไอเดียง่ายๆ เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้บ้านสไตล์มินิมอลได้อย่างไร?

บ้านสไตล์มินิมอลอาจดูจืดชืดหากขาดการตกแต่งที่มีรายละเอียดและความน่าสนใจ ดังนั้น นอกจากจะยึดหลักความเรียบง่ายแล้ว ควรเพิ่มเสน่ห์ด้วยไอเดียต่อไปนี้:

1. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปทรงโค้มมน

เพิ่มความอ่อนโยนให้กับบ้านสไตล์มินิมอลด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมนเล็กน้อย เช่น โต๊ะกลมหรืออาร์มแชร์ดีไซน์มน เพื่อลดความแข็งกระด้างจากเส้นตรงและมุมเหลี่ยม สร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสบายตามากขึ้น

2. เพิ่มลวดลายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้

ห้องสีขาวหรือสีครีมที่ดูธรรมดาสามารถมีเสน่ห์มากขึ้นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีลายไม้ธรรมชาติ ลวดลายของไม้จะช่วยเพิ่มมิติและความอบอุ่นให้กับห้อง โดยไม่ต้องเพิ่มสีสันหรือลวดลายที่ฉูดฉาด

3. นำธรรมชาติเข้ามาด้วยต้นไม้สีเขียว

ต้นไม้สีเขียวช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับบ้านมินิมอลได้อย่างน่าอัศจรรย์ ลองเลือกต้นไม้ที่ดูแลง่าย เช่น เฟิร์นบอสตัน มอนสเตร่า หรือลิ้นมังกร วางไว้ตามชั้นหรือมุมต่างๆ ของบ้าน ต้นไม้ไม่เพียงสวยงามแต่ยังช่วยฟอกอากาศภายในบ้านอีกด้วย

4. ใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นชุดเดียวกัน

สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจในการจับคู่เฟอร์นิเจอร์ การเลือกชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาให้ใช้ด้วยกันเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะได้ความลงตัวแบบไม่ต้องคิดมาก เช่น ชุดโซฟากับโต๊ะกลาง หรือชุดตู้เก็บของที่มีดีไซน์เข้ากัน

5. สร้างความตัดกันระหว่างเฟอร์นิเจอร์กับพื้น

เพิ่มความน่าสนใจด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีตัดกับพื้นห้อง เช่น โซฟาสีขาวบนพื้นไม้สีเข้ม หรือเก้าอี้สีดำบนพื้นสีอ่อน การตัดกันของสีจะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์โดดเด่นและสร้างมิติให้กับห้อง

6. เลือกใช้มู่ลี่แทนผ้าม่านหนา

มู่ลี่ไม้หรือมู่ลี่อลูมิเนียมสีอ่อนช่วยเพิ่มความอบอุ่นแต่ยังควบคุมแสงได้ดีกว่าผ้าม่านหนา อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เรียบง่ายสอดคล้องกับสไตล์มินิมอล ทำให้ห้องดูสะอาดตาและเป็นระเบียบมากขึ้น

7. ควบคุมโทนสีเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว

แม้จะซื้อเฟอร์นิเจอร์จากหลายแหล่ง ก็สามารถทำให้ดูกลมกลืนได้ด้วยการเลือกสีที่อยู่ในโทนเดียวกัน เช่น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนเบจ น้ำตาลอ่อนทั้งหมด หรือเลือกโทนสีขาว-เทา-ดำทั้งห้อง จะทำให้ห้องดูเป็นเอกภาพและมีสไตล์

8. ตกแต่งผนังด้วยงานศิลปะเรียบง่าย

กรอบรูปหรืองานศิลปะมินิมอลสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้กับผนังว่างเปล่า โดยเลือกภาพที่มีโทนสีเรียบไม่ฉูดฉาด หรือเป็นภาพขาวดำ ศิลปะนามธรรมเส้นเรียบง่าย จะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ห้องโดยไม่ขัดกับความเป็นมินิมอล

9. ใช้วัสดุธรรมชาติเป็นองค์ประกอบหลัก

สร้างความอบอุ่นด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นไม้ หิน หรือหวาย ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์เรียบคู่กับต้นไม้สีเขียวจะช่วยให้บ้านดูสดชื่นและเป็นมิตรมากขึ้น

10. จัดระเบียบด้วยตู้เก็บของแบบปิด

คอนเซ็ปต์มินิมอลเน้นความเรียบง่าย จึงต้องมีที่เก็บของใช้ต่างๆ ให้เป็นระเบียบและพ้นสายตา ตู้เก็บของแบบปิดที่มีดีไซน์เรียบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านมินิมอล เพราะช่วยซ่อนความวุ่นวายและของใช้ที่ไม่ต้องการโชว์ ทำให้พื้นที่ดูโล่งสะอาดตาอยู่เสมอ

การสร้างบ้านสไตล์มินิมอลที่ทั้งสวยงามและน่าอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่การลดทอนสิ่งของให้เหลือน้อยที่สุด แต่เป็นการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ทุกองค์ประกอบในบ้านมีความหมายและคุณค่า ยึดหลัก “น้อยแต่มาก” คือมีน้อยชิ้นแต่คุณภาพดีและตอบโจทย์การใช้งาน

บ้านมินิมอลที่ดีควรมีพื้นที่โล่ง มีแสงธรรมชาติเพียงพอ ใช้โทนสีที่เรียบง่ายแต่สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นควรมีฟังก์ชันการใช้งานชัดเจนและมีดีไซน์ที่สอดคล้องกับภาพรวมของบ้าน

การตกแต่งบ้านมินิมอลเป็นมากกว่าแค่สไตล์ แต่เป็นปรัชญาการใช้ชีวิตที่เน้นความเรียบง่าย ประโยชน์ใช้สอย และการลดความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน การเลือกใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นและมีคุณค่าจะช่วยให้บ้านไม่เพียงดูสวยงาม แต่ยังตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพอีกด้วย

#สาระ #มินิมอล #ตกแต่งบ้าน #สไตล์มินิมอล #บ้านมินิมอล #เฟอร์นิเจอร์มินิมอล #โทนสีมินิมอล #แต่งบ้าน #Monochrome #ไอเดียแต่งบ้าน #บ้านเรียบง่าย

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
ทำความรู้จักกับบ้านนวัตกรรมป้องกันแผ่นดินไหว นวัตกรรมบ้าน SCG HEIM ปลอดภัย ตอบโจทย์งานก่อสร้าง แข็งแรง ทนทาน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดี
ข่าวสาร
ดาร์วิดพร๊อพเพอร์ตี้จับมือสถาบันการเงินหั่นราคาบ้านNPA จัดโปรโมชั่นลดราคา1-3 ล้านพร้อมสิทธิ์พิเศษขอสินเชื่อ100%
ข่าวสาร
ครั้งแรก! เปิดภาพอินทีเรีย “Via 34” ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม Low Rise ใกล้ BTS ทองหล่อ ที่สุดของงานคราฟต์ ระดับมาสเตอร์พีซล่าสุดจากแสนสิริ พร้อมเตรียมเผยโฉม มิ.ย. นี้
ข่าวสาร
ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ เทพารักษ์-บางนา รับดีมานด์ทำเลฮอต เสิร์ฟบ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ Romantic Charm เริ่ม 4.89 ล้าน*
ข่าวสาร
“พรีเมียร์ ซิตี้ สุขุมวิท-ปู่เจ้า” เปิดโซนใหม่ทาวน์โฮมพร้อมอยู่ จัด มินิอีเว้นท์ 24-25 พ.ค. 2568 พร้อมโปรพิเศษ “ซื้อบ้านแถมทอง ไม่ต้องลุ้น” จองปั๊บ รับทองคำ 1 บาท*
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..