Kave Playground (copy)

จัดบ้านอย่างไรให้ปลอดภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว? 5 จุดสำคัญที่มักมองข้าม

แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า การเตรียมความพร้อมของที่อยู่อาศัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายและการบาดเจ็บ แม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวรุนแรง แต่เรายังคงสามารถรับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านได้ บทความนี้จะแนะนำวิธีการจัดบ้านให้ปลอดภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยเน้นที่ 5 จุดสำคัญที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของหนักในบ้าน

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของหนักในบ้านอย่างเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการป้องกันอันตรายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากขณะเกิดแรงสั่นสะเทือน วัตถุหนักอาจล้มหรือเคลื่อนที่จนเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย

การยึดติดเฟอร์นิเจอร์กับผนังหรือพื้น

เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เช่น ตู้เสื้อผ้า ตู้หนังสือ หรือชั้นวางของ ควรได้รับการยึดติดกับผนังหรือพื้นอย่างแน่นหนา สามารถใช้อุปกรณ์ยึดเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Anchor) หรือสายรัดกันล้ม (Anti-tip Straps) ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วไป การยึดติดจะช่วยป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ล้มทับผู้อยู่อาศัยขณะเกิดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะในห้องนอนเด็กหรือห้องที่มีการใช้งานเป็นประจำ

การจัดวางของหนักในระดับต่ำ

ควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมากไว้ในชั้นล่างของชั้นวางของหรือตู้ เช่น หนังสือเล่มใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือของสะสมที่มีน้ำหนัก ส่วนของเบาควรจัดเก็บไว้ในชั้นบน เพื่อลดความเสี่ยงที่ของหนักจะตกลงมาทำให้เกิดการบาดเจ็บ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการวางของหนักบนหัวเตียงหรือเหนือที่นั่งที่ใช้งานเป็นประจำ

การจัดเตรียงทางหนีไฟ

จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ไม่กีดขวางทางออกฉุกเฉิน ประตู หน้าต่าง หรือเส้นทางการอพยพ ควรมีเส้นทางอพยพอย่างน้อย 2 เส้นทางในแต่ละห้อง โดยไม่มีสิ่งกีดขวางที่อาจล้มขวางทางได้ขณะเกิดแผ่นดินไหว การจัดให้มีพื้นที่ว่างที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับหลบภัยเฉพาะหน้า เช่น ใต้โต๊ะที่แข็งแรงหรือใกล้เสาบ้าน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

2. การตรวจสอบโครงสร้างอาคารและจุดเสี่ยง

บ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรงย่อมปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหว การตรวจสอบและบำรุงรักษาโครงสร้างอาคารอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในบ้านเก่าหรืออาคารที่มีอายุมากกว่า 20 ปี

การตรวจสอบรอยแตกร้าว

ควรหมั่นสังเกตรอยแตกร้าวบนผนัง เสา คาน หรือฐานราก โดยเฉพาะรอยแตกร้าวในแนวทแยงหรือรอยแตกที่มีความกว้างมากกว่า 3 มิลลิเมตร ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาโครงสร้าง หากพบรอยแตกร้าวที่น่าสงสัย ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างเพื่อประเมินความเสียหายและดำเนินการซ่อมแซมก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนเป็นอันตราย

การเสริมความแข็งแรงจุดเชื่อมต่อ

จุดเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างมักเป็นจุดอ่อนที่เสียหายได้ง่ายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เช่น จุดเชื่อมระหว่างเสากับคาน หรือผนังกับหลังคา การเสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นเหล็กยึด (Steel Plate) หรือการติดตั้งอุปกรณ์รับแรงแผ่นดินไหว (Seismic Retrofit) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับโครงสร้างบ้าน สำหรับบ้านไม้ ควรตรวจสอบสภาพของไม้ว่ามีการผุกร่อนหรือถูกปลวกทำลายหรือไม่ เพราะอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอลง

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและประปา

ระบบไฟฟ้าและประปาที่ชำรุดอาจก่อให้เกิดอันตรายซ้ำซ้อนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ หรือท่อแตกเกิดน้ำรั่วซึม ควรติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ (Automatic Circuit Breaker) และวาล์วปิดแก๊สอัตโนมัติ (Automatic Gas Shutoff Valve) ซึ่งจะตัดระบบทันทีเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน นอกจากนี้ ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบระบบไฟฟ้าและประปาทุก 2-3 ปี เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องที่อาจเป็นอันตราย

3. การจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินและแผนอพยพ

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว การเตรียมพร้อมด้วยอุปกรณ์ฉุกเฉินและแผนอพยพที่ชัดเจนจะช่วยลดความเสี่ยงและความเสียหายได้อย่างมาก เพราะการช่วยเหลือจากภายนอกอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ในทันที

การจัดชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน

ควรจัดเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน (Emergency Kit) ไว้ในบ้าน โดยเก็บในที่ที่เข้าถึงได้ง่ายและทุกคนในบ้านทราบตำแหน่ง ชุดอุปกรณ์นี้ควรประกอบด้วย:

  • น้ำดื่มสะอาด (อย่างน้อย 3 ลิตรต่อคนต่อวัน สำหรับ 3 วัน)
  • อาหารแห้งที่ไม่ต้องปรุงหรือแช่เย็น
  • ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง
  • วิทยุแบบใช้ถ่านหรือชาร์จด้วยมือหมุน
  • ยาสามัญประจำบ้านและยาประจำตัว
  • เงินสดจำนวนหนึ่ง (เพราะเครื่อง ATM อาจใช้งานไม่ได้)
  • เอกสารสำคัญฉบับสำเนา (บัตรประชาชน, พาสปอร์ต, โฉนดที่ดิน)
  • ชุดปฐมพยาบาลพื้นฐาน
  • นกหวีดสำหรับขอความช่วยเหลือ
  • ผ้าห่มฉุกเฉินแบบพกพา

การซ้อมแผนอพยพ

ทุกครอบครัวควรมีการวางแผนและซ้อมอพยพอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ทุกคนรู้บทบาทและหน้าที่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แผนอพยพควรระบุรายละเอียดดังนี้:

  1. จุดนัดพบปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกบ้าน
  2. เส้นทางอพยพหลักและสำรอง
  3. วิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัว
  4. บุคคลที่ควรติดต่อเมื่อต้องการความช่วยเหลือ

การซ้อมแผนควรให้ทุกคนได้ลองปฏิบัติจริง รวมถึงการฝึกหลบใต้โต๊ะที่แข็งแรง การปิดระบบแก๊สและไฟฟ้า และการออกจากบ้านอย่างปลอดภัย การซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เกิดความคุ้นเคยและลดความตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุจริง

การจัดทำแผนที่จุดปิดระบบสาธารณูปโภค

ทุกคนในบ้านควรรู้ตำแหน่งของวาล์วปิดแก๊ส วาล์วปิดน้ำประปา และสวิตช์ตัดไฟฟ้าหลัก พร้อมทั้งวิธีการปิดอย่างถูกต้อง ควรติดป้ายหรือทำเครื่องหมายไว้ให้เห็นชัดเจน และจัดทำแผนที่ไว้ในจุดที่ทุกคนมองเห็นได้ง่าย เช่น บนตู้เย็นหรือบอร์ดประกาศในบ้าน นอกจากนี้ ควรเตรียมเครื่องมือสำหรับปิดระบบไว้ในที่ที่หยิบใช้ได้สะดวก เช่น ประแจสำหรับปิดวาล์วแก๊ส

4. การป้องกันอันตรายจากเศษแก้วและวัสดุแตกหัก

เศษแก้วและวัสดุแตกหักเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะเมื่อต้องอพยพออกจากอาคารในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีฝุ่นควัน

การป้องกันกระจกแตก

กระจกหน้าต่างและประตูเป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่อาจแตกและเป็นอันตรายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ควรติดฟิล์มนิรภัย (Safety Film) บนกระจกเพื่อป้องกันการแตกกระจาย หรือเปลี่ยนเป็นกระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ (Tempered Glass) หรือกระจกลามิเนต (Laminated Glass) ซึ่งเมื่อแตกแล้วจะไม่เกิดเศษแหลมคม สำหรับกระจกขนาดใหญ่ เช่น กระจกประตูบานเลื่อน ควรติดสติกเกอร์หรือเทปสะท้อนแสงเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่มืด ลดความเสี่ยงที่คนจะวิ่งชนในขณะอพยพ

การป้องกันของตกหล่น

ของตกแต่งบ้านประเภทแก้ว เซรามิก หรือวัสดุแตกหักง่าย ควรยึดติดกับชั้นวางด้วยกาวแวกซ์ชนิดลอกออกได้ (Museum Wax) หรือแผ่นเจลกันลื่น โดยเฉพาะของตกแต่งที่มีคุณค่าทางจิตใจหรือมีมูลค่าสูง สำหรับรูปภาพหรือกรอบรูปที่แขวนผนัง ควรใช้ตะขอแบบปิด (Closed Hook) และยึดด้านล่างของกรอบรูปให้ชิดผนังด้วยแถบตีนตุ๊กแก เพื่อป้องกันการแกว่งและตกลงมา

การเลือกใช้วัสดุปลอดภัย

ในห้องน้ำและห้องครัวซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะมีน้ำรั่วซึมเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ควรเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่ไม่ลื่นเมื่อเปียก (Non-slip Flooring) และหลีกเลี่ยงการติดตั้งชั้นวางของกระจกหรือกระจกเงาขนาดใหญ่ที่อาจแตกและเป็นอันตราย สำหรับโคมไฟเพดานหรือพัดลมเพดาน ควรตรวจสอบความแข็งแรงของจุดยึดและอุปกรณ์แขวนอย่างสม่ำเสมอ พิจารณาติดตั้งระบบยึดเสริมหรือเปลี่ยนเป็นโคมไฟติดผนังแทนในพื้นที่ที่ใช้งานเป็นประจำ

5. การเตรียมพร้อมด้านจิตใจและการให้ความรู้แก่สมาชิกในบ้าน

นอกจากการเตรียมความพร้อมด้านกายภาพของบ้านแล้ว การเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและให้ความรู้แก่สมาชิกในครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการตอบสนองที่ถูกต้องในช่วงเวลาวิกฤตสามารถช่วยชีวิตได้

การให้ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหว

ทุกคนในบ้านควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแผ่นดินไหว เช่น สาเหตุการเกิด ระดับความรุนแรง และสัญญาณเตือนที่อาจเกิดขึ้นก่อนเกิดแผ่นดินไหว การศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น กรมทรัพยากรธรณี หรือศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะช่วยให้เข้าใจสถานการณ์และตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ควรทำความเข้าใจว่าแผ่นดินไหวอาจเกิดขึ้นเป็นชุด โดยอาจมี Aftershock หรือแผ่นดินไหวตามหลังจากการสั่นสะเทือนครั้งแรก ซึ่งอาจมีความรุนแรงไม่น้อยไปกว่าครั้งแรก

การฝึกทักษะการช่วยเหลือเบื้องต้น

สมาชิกในครอบครัวอย่างน้อย 1-2 คน ควรผ่านการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในกรณีฉุกเฉิน ควรมีความรู้เกี่ยวกับการดับเพลิงเบื้องต้นและวิธีใช้ถังดับเพลิง รวมถึงการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ ควรมีการจดบันทึกและจัดเก็บข้อมูลทางการแพทย์ของสมาชิกในครอบครัว เช่น โรคประจำตัว การแพ้ยา และหมู่เลือด ไว้ในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ข้อมูลกับหน่วยกู้ภัยหรือบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

การเตรียมพร้อมด้านจิตใจ

การเตรียมความพร้อมด้านจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีสติ ควรพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและวิธีรับมืออย่างเหมาะสม โดยไม่สร้างความหวาดกลัวจนเกินไป ควรฝึกการจัดการกับความเครียดและความกังวล เช่น การหายใจลึกๆ หรือเทคนิคผ่อนคลายอื่นๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะวิกฤต สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้พิการ ควรมีแผนพิเศษในการดูแลและช่วยเหลือที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะ

สรุป

การจัดบ้านให้ปลอดภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหวไม่ใช่เพียงแค่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และวัตถุในบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตรวจสอบโครงสร้างอาคาร การเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน การป้องกันเศษแก้วและวัสดุแตกหัก รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและให้ความรู้แก่สมาชิกในบ้าน ทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการเชิงป้องกันที่จะช่วยลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

การให้ความสำคัญกับ 5 จุดที่มักถูกมองข้าม ได้แก่ การยึดติดเฟอร์นิเจอร์กับผนัง การตรวจสอบจุดเชื่อมต่อโครงสร้าง การจัดทำแผนอพยพที่ชัดเจน การป้องกันกระจกแตก และการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านและผู้อยู่อาศัยอย่างมีนัยสำคัญ

แม้เราจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่การเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และที่สำคัญที่สุดคือลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและการสูญเสียชีวิต การลงทุนเวลาและทรัพยากรเพื่อเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยของครอบครัวที่คุ้มค่าที่สุด

#แผ่นดินไหว #ความปลอดภัยในบ้าน #จัดบ้าน #อุปกรณ์ฉุกเฉิน #โครงสร้างบ้าน #แผนอพยพ #เฟอร์นิเจอร์ปลอดภัย #กระจกนิรภัย #ภัยพิบัติธรรมชาติ #การเตรียมพร้อม #สาระ #แต่งบ้าน

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
SCX Corporation ในเครือ SC Asset ผนึกกำลัง IHG สร้างแลนด์มาร์คโรงแรมพรีเมียมแห่งใหม่ใจกลางกรุง เตรียมเปิด “โวโค กรุงเทพฯ สยาม” ปี 2572 ต่อยอดพอร์ตธุรกิจรายได้ประจำ
ข่าวสาร
“WIDEN by Sansiri” คอนโดฯ ใหม่จากแสนสิริ ทำเล “นางลิ้นจี่” กระแสตอบรับดีมาก กวาดยอดขายกว่า 600 ล้านบาทจากรอบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเฉพาะ WIDEN Signature Suite ขนาด 186.50 – 209.75 ตร.ม. ที่มีเพียง 9 ยูนิต พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่างก.ย. นี้
ข่าวสาร
“หมอน้ำ” Emma Clinic ให้คำมั่นสัญญาเสริมจมูก “จอง จ่าย จบ ไม่บวกเพิ่ม” ทำได้จริง
ข่าวสาร
เพาเวอร์บาย เปลี่ยนจอทีวีเป็นแกลเลอรี่สุดอบอุ่น โชว์ผลงานสร้างสรรค์จากศิลปินออทิสติก ในนิทรรศการ “Power of Art by Power Buy x Artstory”
ข่าวสาร
ฉลองความสำเร็จครบรอบ 9 ปี Aura Bangkok Clinic จับมือคลินิกน้องสาว Aura Xpress บุกใจกลางกรุง เปิดตัวพรีเซนเตอร์ โยชิ & พั้นรักแมว สร้างปรากฎการณ์คลินิกแนวหน้าที่ครองใจคนทุกเจน
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..