การซื้อขายที่ดินเป็นการลงทุนที่สำคัญในชีวิต แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าโฉนดที่ดินมีหลายประเภทและไม่ได้ทุกประเภทที่สามารถซื้อขายได้อย่างเสรี บางประเภทมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ต้องระวัง เพื่อป้องกันการเสียทรัพย์และเสียสิทธิ์ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของโฉนดที่ดินทั้งหมดในประเทศไทย พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อขายหรือทำนิติกรรมใดๆ เกี่ยวกับที่ดิน

โฉนดที่ดินคืออะไร? ความสำคัญที่เจ้าของที่ดินต้องเข้าใจ
โฉนดที่ดิน คือ หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ออกให้ตามประมวลกฎหมายที่ดินโดยหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นโดยชอบธรรม ผู้ที่มีโฉนดที่ดินในครอบครองถือว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างสมบูรณ์ สามารถทำการซื้อ ขาย โอนกรรมสิทธิ์ จดจำนอง หรือขัดขวางมิให้ผู้ใดมาละเมิดทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจที่ผิดพลาดที่หลายคนมักเข้าใจคือ เอกสารสิทธิ์ทุกประเภทคือโฉนดที่ดินที่ซื้อขายได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เอกสารสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยมีหลายประเภท และแต่ละประเภทมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อที่ดิน ควรศึกษาให้เข้าใจถึงประเภทของเอกสารสิทธิ์ให้ชัดเจนเสียก่อน

ประเภทโฉนดที่ดินในประเทศไทย แบบไหนซื้อขายได้จริง?
เอกสารสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีสถานะทางกฎหมายและเงื่อนไขการซื้อขายที่แตกต่างกัน ดังนี้
น.ส.4 (โฉนดครุฑแดง): เอกสารสิทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
น.ส.4 หรือที่เรียกว่า “โฉนดครุฑแดง” เป็นเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีการออกให้ตามประมวลกฎหมายที่ดินโดยกรมที่ดิน ผู้ถือครองโฉนดประเภทนี้มีกรรมสิทธิ์เต็มในที่ดินนั้น สามารถทำนิติกรรมซื้อขาย โอน หรือจำนองได้โดยไม่มีข้อจำกัด
การซื้อขายที่ดินที่มีโฉนด น.ส.4 ต้องดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินในเขตพื้นที่รับผิดชอบเท่านั้น และต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน ข้อควรรู้คือ สิทธิในที่ดินอาจหมดไปหากถูกครอบครองปรปักษ์ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี
การสังเกตความทันสมัยของโฉนดที่ดิน น.ส.4 สามารถดูได้จากรหัสอักษรท้าย ซึ่งปัจจุบันมีถึง น.ส.4 จ. ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
น.ส.3 ก. (โฉนดครุฑเขียว): หนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ซื้อขายได้สะดวก
น.ส.3 ก. หรือ “โฉนดครุฑเขียว” เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยราชการและนายอำเภอส่วนท้องถิ่น เพื่อแสดงสิทธิครอบครองที่ดิน เอกสารประเภทนี้มีระวางรูปถ่ายทางอากาศที่ชัดเจน จึงสามารถซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ได้ค่อนข้างสะดวกเช่นเดียวกับ น.ส.4
ผู้ครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก. สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนเป็น น.ส.4 ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องรังวัดที่ดินหรือรอประกาศจากราชการ แต่ข้อควรระวังคือ สิทธิในที่ดินจะหมดลงหากถูกครอบครองปรปักษ์ติดต่อกันเพียง 1 ปี ซึ่งแตกต่างจาก น.ส.4 ที่ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี
น.ส.3 และ น.ส.3 ข. (โฉนดครุฑดำ): ต้องระวังก่อนซื้อ
น.ส.3 และ น.ส.3 ข. หรือ “โฉนดครุฑดำ” เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์เช่นกัน แต่มีข้อแตกต่างสำคัญคือไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ทำให้ไม่มีขอบเขตตำแหน่งที่ดินที่แน่นอน อาจใช้การอ้างอิงจากวัตถุในบริเวณนั้นเพื่อเขียนร่างแผนที่เท่านั้น
การซื้อขายที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทนี้ต้องดำเนินการรังวัดที่ดินและรอประกาศจากราชการ 30 วันก่อน หากไม่มีการคัดค้านจึงจะสามารถทำนิติกรรมได้ ผู้ที่สนใจซื้อที่ดินประเภทนี้ควรระมัดระวังและตรวจสอบขอบเขตที่ดินให้ชัดเจน และเช่นเดียวกับ น.ส.3 ก. คือสิทธิในที่ดินจะหมดลงหากถูกครอบครองปรปักษ์ติดต่อกัน 1 ปี
ส.ป.ก. 4-01 (โฉนดครุฑน้ำเงิน): ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ซื้อขายไม่ได้
ส.ป.ก. 4-01 หรือ “โฉนดครุฑน้ำเงิน” เป็นหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิที่ออกโดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นเอกสารสิทธิ์ที่อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในการเกษตรเท่านั้น โดยจำกัดครอบครัวละไม่เกิน 50 ไร่
ข้อสำคัญที่ต้องรู้คือ ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถซื้อขาย โอน หรือออกเป็นโฉนดในภายหลังได้ แต่สามารถตกทอดเป็นมรดกสู่ทายาทได้ โดยทายาทต้องทำเกษตรกรรมบนที่ดินเท่านั้น หรือมีสิ่งปลูกสร้างเพื่อการเกษตรตามสมควร หากไม่ต้องการใช้ประโยชน์ สามารถคืนให้รัฐได้

เอกสารสิทธิ์ที่ดินประเภทอื่นๆ ที่คนมักเข้าใจผิด
นอกจากโฉนดที่ดินหลัก 4 ประเภทข้างต้นแล้ว ยังมีเอกสารสิทธิ์ที่ดินประเภทอื่นๆ ที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นโฉนดที่ดินที่ซื้อขายได้ ดังนี้
น.ส. (ใบจอง): เอกสารชั่วคราวก่อนได้กรรมสิทธิ์จริง
น.ส. หรือใบจองคือหนังสือแสดงความยินยอมให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินได้ชั่วคราว ซึ่งทางราชการจะประกาศเปิดให้จับจองเป็นคราวๆ ไป โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเริ่มทำประโยชน์ภายใน 6 เดือน และต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นับจากวันที่ได้รับใบจอง รวมถึงต้องทำประโยชน์ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 75 ของที่ดิน
ใบจองไม่สามารถซื้อขายได้ แต่เมื่อทำตามเงื่อนไขครบถ้วนแล้ว สามารถนำมาขอออกเอกสารสิทธิ์อื่นๆ เช่น น.ส.3, น.ส.3 ก. หรือโฉนดที่ดินได้ โดยต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการห้ามโอนให้บุคคลอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
ภ.บ.ท. 5: ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์แต่เป็นเพียงใบเสียภาษีที่ดิน
ภ.บ.ท. 5 หรือแบบยื่นภาษีบำรุงท้องที่ (ภาษีดอกหญ้า) เป็นเพียงเอกสารที่รับรองการเสียภาษีของผู้ครอบครองที่ดิน โดยชำระให้กับหน่วยงานท้องถิ่นเช่น อบต. ข้อสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ภ.บ.ท. 5 ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดิน จึงไม่ได้แสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
แม้ว่าจะมีการซื้อขายที่ดิน ภ.บ.ท. 5 เกิดขึ้นได้ แต่เป็นเพียงการโอนสิทธิการครอบครองเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้เสียภาษีได้ที่ อบต. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สทก.: สิทธิทำกินในเขตป่าไม้ที่มีข้อจำกัดสูง
สทก. หรือเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน เป็นหนังสือที่กรมป่าไม้ออกให้ประชาชนเพื่อทำกินในพื้นที่เขตป่าไม้ มีเงื่อนไขสำคัญคือ หากปล่อยพื้นที่รกร้างติดต่อกันเกิน 2 ปี กรมป่าไม้มีสิทธิยึดคืนได้ทันที
ที่ดิน สทก. ไม่สามารถซื้อขาย โอน หรือออกโฉนดที่ดินได้ สามารถทำได้เพียงการตกทอดเป็นมรดกเพื่อทำการเกษตรเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่ได้รับสิทธิต้องใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างต่อเนื่องและเพื่อการเกษตรเท่านั้น

วิธีตรวจสอบโฉนดที่ดินแท้หรือปลอม ป้องกันการหลอกลวง
การตรวจสอบโฉนดที่ดินเบื้องต้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการถูกหลอกลวง โดยมีวิธีสังเกตดังนี้
สังเกตขนาดและลักษณะของโฉนดที่ดิน
โฉนดที่ดินที่ออกโดยกรมที่ดินจะมีขนาดมาตรฐาน 24 x 36 เซนติเมตร เท่ากันทุกฉบับ การตรวจสอบเบื้องต้นอย่างง่ายคือการวัดขนาดว่าตรงตามมาตรฐานหรือไม่ หากมีขนาดผิดไปจากนี้ ควรสงสัยว่าอาจเป็นเอกสารปลอมแปลง
ตรวจสอบเนื้อกระดาษและการพิมพ์อย่างละเอียด
เนื้อกระดาษของโฉนดที่ดินจะเป็นกระดาษสีครีมที่มีเนื้อเยื่อภายในเป็นสีครีมเหมือนผิวภายนอก และมีเส้นใยไหมสีฟ้า สีแดงอมม่วง ที่มีลักษณะบางส่วนจมอยู่ในเนื้อกระดาษ บางส่วนลอยอยู่บนผิวกระดาษ ความยาวประมาณ 0.3-1.5 เซนติเมตร
การพิมพ์ตราครุฑด้วยสีแดงทับลายเส้นสีดำของครุฑต้องยังคงเห็นลายเส้นสีดำชัดเจน ส่วนเลขที่แบบพิมพ์จะเป็นตัวเลขอารบิคแบบโกธิค และเลขปีที่จัดพิมพ์จะเป็นเลขไทย
เช็คลายเซ็นและตราประทับให้ถูกต้อง
ด้านล่างของโฉนดที่ดินจะมีลายเซ็นของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้หมึกสีดำในการเซ็นชื่อ พร้อมประทับตรายางลงบนลายเซ็น และกำกับวันที่ไว้ด้านล่าง ในบางกรณีอาจมีการใช้หมึกสีน้ำเงินหรือสีอื่น ควรตรวจสอบจุดอื่นๆ บนโฉนดประกอบด้วย
วิธีดูลายน้ำบนโฉนดที่ดิน
บนโฉนดที่ดินจะมีลายน้ำตราครุฑที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า วิธีตรวจสอบคือการยกโฉนดขึ้นส่องกับแสง จะต้องเห็นลายน้ำรูปครุฑที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางวงกลมขนาด 10 เซนติเมตร พร้อมข้อความ “กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย” กำกับเป็นแนวโค้งตามรูปวงกลมยาว 10.5 เซนติเมตร
สรุป
การเข้าใจเรื่องประเภทของโฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ์ต่างๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งก่อนตัดสินใจซื้อที่ดิน โดยสรุปคือ:
- เอกสารสิทธิ์ที่ซื้อขายได้โดยไม่มีข้อจำกัดคือ น.ส.4 (โฉนดครุฑแดง) และ น.ส.3 ก. (โฉนดครุฑเขียว)
- น.ส.3 และ น.ส.3 ข. (โฉนดครุฑดำ) ซื้อขายได้แต่ต้องทำการรังวัดและรอประกาศ 30 วัน
- ส.ป.ก. 4-01, น.ส., ภ.บ.ท. 5 และ สทก. ไม่สามารถซื้อขายได้ตามกฎหมาย (ยกเว้นการตกทอดเป็นมรดก)
- ตรวจสอบความถูกต้องของโฉนดที่ดินได้จากขนาด เนื้อกระดาษ ลายเซ็น ตราประทับ และลายน้ำ
การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ให้รอบคอบก่อนทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน จะช่วยป้องกันปัญหาและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะ “ที่ดิน” เป็นทรัพย์สินมีค่าที่ต้องการความระมัดระวังและความรอบรู้ในการดูแลรักษาสิทธิอย่างถูกต้อง
#โฉนดที่ดิน #ประเภทโฉนดที่ดิน #น.ส.4 #น.ส.3ก #ซื้อขายที่ดิน #ตรวจสอบโฉนด #กรรมสิทธิ์ที่ดิน #หนังสือรับรองการทำประโยชน์ #ที่ดินทำกิน #ส.ป.ก
โฉนดที่ดิน, ประเภทโฉนดที่ดิน, น.ส.4, น.ส.3ก, ซื้อขายที่ดิน, ตรวจสอบโฉนด, กรรมสิทธิ์ที่ดิน, หนังสือรับรองการทำประโยชน์, ที่ดินทำกิน, ส.ป.ก
#สาระ #โฉนดที่ดิน #ประเภทโฉนดที่ดิน #น.ส.4 #น.ส.3ก #ซื้อขายที่ดิน #ตรวจสอบโฉนด #กรรมสิทธิ์ที่ดิน #หนังสือรับรองการทำประโยชน์ #ที่ดินทำกิน #ส.ป.ก