Q District

ปลูกดาวเรืองให้บานสะพรั่งได้อย่างไร? คู่มือเบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มต้น

การปลูกดาวเรืองเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า แม้ว่าจะเป็นดอกไม้ที่ต้องการการดูแลอย่างละเอียด แต่หากทำความเข้าใจขั้นตอนและวิธีการที่ถูกต้อง ก็สามารถปลูกดาวเรืองให้เติบโตสวยงามได้แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

เตรียมความพร้อมก่อนปลูกดาวเรือง

การเลือกพันธุ์ดาวเรือง

ดาวเรืองมีหลายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการปลูกในประเทศไทย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigolds) ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับปลูกในกระถางหรือขอบแปลง ดาวเรืองแอฟริกัน (African Marigolds) ที่มีดอกใหญ่และต้นสูง และดาวเรืองซิกเน็ต (Signet Marigolds) ที่เหมาะสำหรับแขวนหรือปลูกในแปลงหิน

พันธุ์ยอดนิยมในประเทศไทยได้แก่ พันธุ์คานา โกลด์ (Cana Gold) ที่มีสีเหลืองทองเข้มและกลีบดอกแน่น ทนต่อสภาพอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไฮบริดอื่นๆ เช่น ทองเศรษฐี พาวเวอร์โกลด์ และนพคุณทอง ที่ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเตรียมดินและพื้นที่ปลูก

ดาวเรืองต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง และมีค่า pH ระหว่าง 6.0-7.0 หากปลูกในแปลงดิน ควรเตรียมดินโดยผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าลงไป สำหรับการปลูกในกระถาง ควรใช้ดินปลูกผสมที่มีการระบายน้ำดี ประกอบด้วยดินร่วน เพอร์ไลต์ และหินบีบตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับปลูกดาวเรืองคือพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มวันอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน หากเป็นพันธุ์ดาวเรืองแอฟริกันที่มีดอกใหญ่ ควรเลือกพื้นที่ที่ป้องกันลมแรงเพื่อไม่ให้ก้านดอกหัก

การเพาะเมล็ดและปลูกดาวเรือง

ขั้นตอนการเพาะเมล็ด

การเพาะเมล็ดดาวเรืองสามารถทำได้ 2 วิธี คือ หว่านในแปลงโดยตรงหรือเพาะในถาดก่อนย้ายปลูก หากต้องการให้ออกดอกเร็ว ควรเพาะเมล็ดในร่มก่อน 6-8 สัปดาห์ก่อนฤดูปลูก โดยใช้ดินเพาะเมล็ดที่ระบายน้ำดี หว่านเมล็ดลึกประมาณ 1/4 นิ้ว

เมล็ดดาวเรืองจะงอกภายใน 5-8 วัน หากรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 70-75°F (21-24°C) ในระหว่างการงอก ต้องรักษาความชื้นของดินให้สม่ำเสมอแต่ไม่ให้ขังน้ำ เมื่อต้นอ่อนมีใบจริง 2-3 คู่ก็สามารถย้ายปลูกได้

การย้ายปลูกและการดูแลเบื้องต้น

เมื่อย้ายปลูกต้นดาวเรืองแล้ว ควรรดน้ำทันทีและรักษาความชื้นของดินอย่างสม่ำเสมอในสัปดาห์แรก เพื่อให้รากเจริญเติบโตแข็งแรง ระยะห่างในการปลูกควรเป็น 8-12 นิ้วสำหรับพันธุ์เล็ก และ 12-18 นิ้วสำหรับพันธุ์ใหญ่

หลังจากต้นดาวเรืองปักรากแล้ว ควรลดความถี่ในการรดน้ำลง โดยรดน้ำลึกๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ให้ดินแห้งเล็กน้อยระหว่างการรดน้ำเพื่อป้องกันโรครากเน่า

การดูแลรักษาดาวเรืองอย่างเป็นระบบ

การรดน้ำที่ถูกต้อง

การรดน้ำดาวเรืองต้องให้ความสำคัญกับจังหวะและวิธีการ ควรรดน้ำที่โคนต้นแทนการรดใส่ใบเพื่อป้องกันโรคใบไหม้และโรคราน้ำค้าง ในช่วงอากาศร้อนอาจต้องรดน้ำทุกวันสลับวัน โดยเฉพาะต้นที่ปลูกในกระถางซึ่งจะแห้งเร็วกว่าการปลูกในแปลงดิน

สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเป็นความถี่ที่เหมาะสมสำหรับต้นดาวเรืองที่โตเต็มที่ ควรตรวจสอบความชื้นของดินโดยใช้นิ้วกดลึกลงไปประมาณ 2 นิ้ว หากดินแห้งก็ถึงเวลารดน้ำ

การให้ปุ๋ยและการบำรุงดิน

ดาวเรืองไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก หากดินมีความอุดมสมบูรณ์พอประมาณก็เพียงพอแล้ว การใส่ปุ๋ยมากเกินไปอาจทำให้ใบเขียวชอุ่มแต่ออกดอกน้อย สำหรับการปลูกในกระถาง ควรใส่ปุ๋ยเหลวทุก 7-14 วัน โดยใช้ปุ๋ยสูตรสมดุล เช่น 10-10-10

การให้ปุ๋ยควรเน้นไนโตรเจนสำหรับการเจริญเติบโตของใบ ฟอสฟอรัสสำหรับการพัฒนารากและการออกดอก และโพแทสเซียมสำหรับความแข็งแรงโดยรวม การใส่ปุ๋ยทุก 4-6 สัปดาห์ในช่วงฤดูเจริญเติบโตจะช่วยให้ดาวเรืองออกดอกอย่างต่อเนื่อง

การตัดแต่งและการดูแลดอก

การตัดดอกเหี่ยวออก (Deadheading) เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ออกดอกใหม่อย่างต่อเนื่อง ควรใช้กรรไกรสะอาดคมตัดก้านดอกเหี่ยวออกที่ตำแหน่งเหนือใบหรือตาดอกใหม่ การตัดควรทำเป็นมุมเอียงเพื่อป้องกันน้ำขัง

สำหรับพันธุ์ที่มีต้นสูง อาจต้องใช้ไม้หรือลวดค้ำจุนเพื่อป้องกันก้านดอกหัก โดยเฉพาะเมื่อดอกเริ่มบานเต็มที่และมีน้ำหนักมาก การค้ำจุนควรทำอย่างอ่อนโยนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อต้น

การป้องกันและแก้ไขปัญหาศัตรูพืช

ศัตรูพืชที่พบบ่อยในดาวเรือง

แม้ว่าดาวเรืองจะมีสมบัติไล่แมลงศัตรูพืชตามธรรมชาติ แต่ก็ยังมีศัตรูพืชบางชนิดที่สามารถสร้างความเสียหายได้ เช่น เพลี้ยอ่อน หอยทาก ไรแดง และแมลงหวี่ขาว หอยทากเป็นศัตรูพืชที่สร้างปัญหามาก โดยจะมากินใบและยอดอ่อนในช่วงกลางคืน

การป้องกันหอยทากสามารถทำได้โดยการโรยเปลือกไข่ที่ตำแล้วรอบโคนต้น หรือรดน้ำในช่วงเช้าแทนช่วงเย็นเพื่อให้ดินแห้งในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังสามารถใช้การเก็บด้วยมือในช่วงกลางคืนเมื่อหอยทากออกมาหากิน

การจัดการโรคพืช

โรคที่พบบ่อยในดาวเรืองคือ โรคเขียวเหี่ยว โรคราแป้ง และโรครากเน่า โรคเขียวเหี่ยวมักเกิดขึ้นหลังจากย้ายปลูกและเมื่อมีตาดอกเกิดขึ้น สามารถแพร่กระจายไปยังต้นอื่นได้ วิธีป้องกันคือการรักษาระยะห่างระหว่างต้นให้เหมาะสม และเมื่อพบต้นที่เป็นโรคต้องขุดทิ้งทันทีพร้อมกับดินที่ปนเปื้อน

โรคราแป้งสามารถป้องกันได้โดยการไม่รดน้ำใส่ใบ และใช้สารป้องกันกำจัดโรคที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ การรักษาความชื้นของอากาศให้เหมาะสมและมีการถ่ายเทอากาศดีก็ช่วยลดความเสี่ยงของโรคได้

การใช้วิธีการป้องกันแบบธรรมชาติ

ดาวเรืองเองมีสมบัติไล่แมลงศัตรูพืชหลายชนิด โดยเฉพาะเพลี้ยอ่อน ยุง แมลงหวี่ขาว และไส้เดือนฝอย สารประกอบในดาวเรือง เช่น ไพรีทรัม และไทโอฟีน ช่วยในการควบคุมศัตรูพืชเหล่านี้

การปลูกดาวเรืองร่วมกับพืชอื่น เช่น มะเขือเทศ แตงกวา หรือพืชผักใบเขียว จะช่วยลดปัญหาศัตรูพืชในแปลงได้ ดาวเรืองยังช่วยไล่สัตว์ขนาดใหญ่ เช่น กวาง และกระต่ายอีกด้วย

การเก็บเกี่ยวและการใช้ประโยชน์จากดาวเรือง

เวลาที่เหมาะสมในการตัดดอก

ดาวเรืองจะออกดอกประมาณ 8 สัปดาห์หลังจากงอก และสามารถตัดดอกได้อย่างต่อเนื่องตลอดฤดูเจริญเติบโต ควรตัดดอกในช่วงเช้าตรู่เมื่อดอกยังสดใหม่และมีน้ำเต็ม การตัดควรทำที่ก้านยาวเหนือข้อใบเพื่อกระตุ้นให้เกิดดอกใหม่

หากต้องการเก็บเมล็ดพันธุ์ ควรปล่อยให้ดอกแห้งบนต้นจนกลีบดอกเหี่ยวและฐานดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมล็ดดาวเรืองจะมีลักษณะเป็นแท่งยาว มีปลายแหลม สีดำปลายหนึ่งและสีขาวอีกปลายหนึ่ง

การเก็บรักษาดอกตัดและการใช้ประโยชน์

ดอกดาวเรืองที่ตัดสด สามารถเก็บรักษาในแจกันได้นาน 6-9 วัน ควรตัดก้านเฉียงใต้น้ำไหล เอาใบที่จะอยู่ใต้น้ำออก และใช้น้ำอุ่นในการจัดดอก การเปลี่ยนน้ำทุก 2 วันและตัดก้านใหม่จะช่วยยืดอายุดอกได้

นอกจากใช้เป็นดอกไม้ตกแต่งแล้ว ดาวเรืองยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ใช้กลีบดอกปรุงอาหาร ใช้ในการทำยาสมุนไพร และใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม ในประเทศไทย ดาวเรืองยังใช้ทำพวงมาลัยและการตกแต่งในงานทางศาสนา

สรุป

การปลูกดาวเรืองให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในการดูแลอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม การเตรียมดินและพื้นที่ การเพาะเมล็ดและปลูก การรดน้ำและให้ปุ๋ย การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและใช้ประโยชน์ แม้จะต้องใช้ความพยายามและความอดทน แต่เมื่อเห็นดาวเรืองบานสะพรั่งเต็มต้นก็จะให้ความภาคภูมิใจและความสุขที่คุ้มค่ากับการลงทุนเวลาและแรงงาน

#สาระ #ปลูกดาวเรือง #ดูแลดาวเรือง #เพาะเมล็ดดาวเรือง #ดอกไม้สีเหลือง #สวนผัก #ป้องกันศัตรูพืช #การเพาะปลูก #พืชไล่แมลง #ดอกไม้ตกแต่ง #เก็บเมล็ดพันธุ์

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
แสนสิริ และ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เจาะอินไซต์ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต ชู The World’s Elite Destination หมุดหมายอันดับหนึ่ง
ข่าวสาร
SC Asset สานต่อภารกิจ SCeroMission เปิดตัวแคมเปญ “Everyday SCeroMission” สัญลักษณ์แห่งความใส่ใจในทุกมิติของการอยู่อาศัย
ข่าวสาร
กลุ่มดุสิตธานี เตรียมเปิดตัวรีสอร์ทหรู ‘ดุสิตดีทู อัลอาฮซา’ ในซาอุดิอาระเบีย ชูจุดเด่นที่ตั้งใจกลางโอเอซิสแหล่งมรดกโลก-พร้อมให้บริการปี 2570
ข่าวสาร
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ “วิภา” พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
ข่าวสาร
ธอส. ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น ให้ทหารในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..