การเป็นฟรีแลนซ์ให้อิสระในการทำงานและการใช้ชีวิต แต่เมื่อถึงเวลาต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง หลายคนกลับกังวลว่าการไม่มีรายได้ประจำแน่นอนจะเป็นอุปสรรคในการกู้ซื้อบ้าน ความจริงแล้ว อาชีพอิสระสามารถกู้บ้านได้ แต่ต้องเตรียมตัวและวางแผนให้รอบคอบมากกว่าพนักงานประจำทั่วไป บทความนี้จะแนะนำเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คนทำอาชีพอิสระกู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นในปี 2025

เหตุใดคนส่วนใหญ่ถึงถูกปฏิเสธการกู้บ้าน?
การที่ธนาคารปฏิเสธการยื่นกู้บ้านไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้ผู้กู้ไม่ผ่านการพิจารณา เช่น รายได้ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับราคาบ้าน มีภาระหนี้สินเดิมสูงเกินไป ประวัติทางการเงินไม่ดี เอกสารไม่ครบถ้วน หรือเลือกธนาคารที่ไม่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตนเอง
นอกจากนี้ อีกสาเหตุสำคัญคือการขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี ทำให้ไม่มีเงินดาวน์เพียงพอ โดยทั่วไปธนาคารจะให้สินเชื่อประมาณ 80-90% ของราคาบ้าน ดังนั้นผู้กู้จะต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20% ของราคาบ้าน ซึ่งหลายคนมักมองข้ามจุดนี้

เอกสารสำคัญที่ฟรีแลนซ์ต้องเตรียมให้พร้อม
การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้อาชีพอิสระมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อบ้านมากขึ้น เอกสารสำคัญที่ควรเตรียมให้พร้อม ได้แก่:
เอกสารพื้นฐาน
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้กู้
- เอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ทะเบียนสมรส หรือใบหย่า (ถ้ามี)
- เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะซื้อ เช่น สัญญาจอง หรือสำเนาโฉนดที่ดิน
เอกสารทางการเงิน
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหรือรายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6-12 เดือน
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- เอกสารการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90) พร้อมใบเสร็จรับเงิน
- สัญญาว่าจ้างหรือหนังสือรับรองการจ้างงาน (ถ้ามี)
เอกสารเสริมความน่าเชื่อถือ
- ใบประกอบวิชาชีพหรือบัตรประจำตัววิชาชีพ (สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง)
- ทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ (สำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว)
- หลักฐานแสดงทรัพย์สินอื่นๆ เช่น บัญชีเงินฝาก บัญชีกองทุน หรือสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์
การมีเอกสารที่ครบถ้วนไม่เพียงแต่ช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อรวดเร็วขึ้น ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นระบบและความน่าเชื่อถือของผู้กู้อีกด้วย

ทำอย่างไรให้มีรายการเข้า-ออกที่น่าเชื่อถือ
สิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ คือความสม่ำเสมอของรายได้ที่เข้าบัญชี ดังนั้น การบริหารจัดการบัญชีให้มีรายการเดินบัญชีที่ดูน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สร้างความสม่ำเสมอของรายได้
- พยายามให้มีเงินเข้าบัญชีธนาคารเป็นประจำทุกเดือน
- หากทำงานกับลูกค้าประจำ ควรขอให้โอนเงินเข้าบัญชีในช่วงเวลาที่แน่นอนของแต่ละเดือน
- ควรแยกบัญชีส่วนตัวและบัญชีธุรกิจให้ชัดเจน
- หลีกเลี่ยงการถอนเงินสดจำนวนมากบ่อยๆ
เตรียม Statement ให้สวยงาม
- ควรเตรียม Statement ที่แสดงรายการเดินบัญชีอย่างน้อย 6-12 เดือน
- ควรมีเงินหมุนเวียนในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
- รักษายอดเงินคงเหลือในบัญชีให้อยู่ในระดับที่ดี
- หลีกเลี่ยงการมียอดเงินในบัญชีติดลบ หรือถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเช็คคืน
มีเงินออมสำรองในบัญชี
- ควรมีเงินสำรองในบัญชีอย่างน้อย 3 เท่าของค่างวดที่จะต้องผ่อนชำระ
- การมีเงินออมในบัญชีแสดงถึงความสามารถในการบริหารการเงินส่วนบุคคล
- ธนาคารจะมั่นใจมากขึ้นหากเห็นว่าผู้กู้มีเงินสำรองเพียงพอ

ความสำคัญของการจัดการภาษี
การยื่นภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งที่สถาบันการเงินให้ความสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ เพราะเป็นหลักฐานที่แสดงถึงรายได้ที่แท้จริงและความรับผิดชอบทางการเงิน
การเก็บหลักฐานการเสียภาษี
- เก็บรวบรวมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ทุกฉบับ
- เก็บเอกสารการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90) และใบเสร็จรับเงินย้อนหลังอย่างน้อย 2-3 ปี
- หากมีรายได้ที่ไม่ได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ควรยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 ทุกครึ่งปี
ประโยชน์ของการเสียภาษีอย่างถูกต้อง
- แสดงถึงความมีวินัยทางการเงินและความรับผิดชอบต่อหน้าที่พลเมือง
- เป็นหลักฐานรายได้ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือที่สุดสำหรับสถาบันการเงิน
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อหรือวงเงินกู้ที่สูงขึ้น

การสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี
เครดิตทางการเงินเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่มีรายได้ประจำแน่นอน
วิธีสร้างและรักษาเครดิตที่ดี
- ชำระค่าบัตรเครดิตและหนี้สินทุกประเภทตรงเวลาเสมอ
- หลีกเลี่ยงการมีหนี้สินมากเกินไป
- ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย ไม่ใช้จ่ายเกินตัว
- หลีกเลี่ยงการยื่นขอสินเชื่อหลายที่ในเวลาใกล้เคียงกัน
ตรวจสอบและแก้ไขประวัติเครดิต
- ก่อนยื่นขอสินเชื่อ ควรตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเองก่อน
- หากพบข้อมูลผิดพลาด ให้รีบติดต่อแก้ไขให้ถูกต้อง
- หากมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ ควรแก้ไขให้เรียบร้อยและรอให้ประวัติดีขึ้นก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้าน
ระวังพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อเครดิต
- การผิดนัดชำระหนี้ แม้จะเป็นยอดเล็กน้อย
- การมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือหนี้สินมากเกินไป
- การถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับการเงิน
ตัวช่วยเสริม: กู้ร่วมกับบุคคลอื่น
หากรายได้หรือเอกสารทางการเงินยังไม่เพียงพอที่จะขอสินเชื่อด้วยตนเอง การกู้ร่วมกับบุคคลอื่นอาจเป็นทางเลือกที่ดี
ข้อดีของการกู้ร่วม
- เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น
- อาจได้วงเงินกู้ที่สูงขึ้น
- แบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระ
ใครบ้างที่เหมาะสำหรับเป็นผู้กู้ร่วม
- คู่สมรสที่มีรายได้ประจำและมั่นคง
- บุคคลในครอบครัวที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน
- เพื่อนร่วมงานหรือหุ้นส่วนธุรกิจที่ไว้ใจได้และมีความตั้งใจจะอยู่ร่วมกัน
ข้อควรระวังในการกู้ร่วม
- ทั้งสองฝ่ายมีความรับผิดชอบร่วมกันต่อภาระหนี้
- หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถผ่อนชำระได้ อีกฝ่ายต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- ควรมีการตกลงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและสัดส่วนการผ่อนชำระ

เทคนิคสำหรับอาชีพอิสระที่ควรรู้ก่อนยื่นกู้
นอกจากการเตรียมเอกสารและบริหารการเงินให้ดีแล้ว ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่ช่วยให้อาชีพอิสระมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อบ้านมากขึ้น
เตรียมเงินดาวน์ให้มากขึ้น
- พยายามเก็บเงินดาวน์ให้ได้มากกว่าขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด (อย่างน้อย 25-30%)
- ยิ่งเงินดาวน์มาก วงเงินกู้ยืมก็จะน้อยลง ทำให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติมากขึ้น
เลือกทรัพย์สินที่มีมูลค่าเหมาะสม
- เลือกบ้านหรือคอนโดที่มีราคาเหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระ
- ไม่ควรเลือกทรัพย์สินที่มีราคาสูงเกินความสามารถในการหารายได้
ลดภาระหนี้สินอื่นๆ ก่อนยื่นกู้
- ชำระหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลให้หมดหรือเหลือน้อยที่สุด
- สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio) ไม่ควรเกิน 40%
สร้างความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ
- แต่งกายสุภาพ พูดจาชัดเจน
- เตรียมเอกสารให้เป็นระเบียบและครบถ้วน
- อธิบายที่มาของรายได้และความสามารถในการชำระหนี้อย่างมั่นใจ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ
- ขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินหรือนายหน้าสินเชื่อ
- สอบถามธนาคารต่างๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อเสนอสำหรับอาชีพอิสระ
สรุป
แม้จะเป็นฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ คุณก็สามารถกู้ซื้อบ้านได้ หากมีการเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ การมีเอกสารทางการเงินที่ครบถ้วน การรักษาเครดิตให้ดี และการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติสินเชื่อบ้าน
ในปี 2025 นี้ สถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มเปิดกว้างและเข้าใจการทำงานของอาชีพอิสระมากขึ้น ทำให้มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบโจทย์กลุ่มฟรีแลนซ์เพิ่มขึ้น เพียงแค่คุณแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยทางการเงิน ความสามารถในการหารายได้อย่างสม่ำเสมอ และความรับผิดชอบต่อภาระหนี้สิน คุณก็สามารถก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านได้ไม่ยากอย่างที่คิด
#สาระ #การเงิน #ฟรีแลนซ์กู้บ้าน #อาชีพอิสระกู้บ้าน #เทคนิคกู้บ้าน #สินเชื่อบ้าน #ยื่นกู้บ้าน #กู้บ้าน2025 #วางแผนการเงิน #บริหารรายได้ #เอกสารกู้บ้าน #เครดิตบูโร