การเลือกปลูกไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและกลิ่นหอมในสวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีเวลาในการดูแลไม่มาก หรืออาศัยในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมแห้งแล้ง ไม้ดอก 8 ชนิดที่จะกล่าวถึงนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยเติมสีสันให้กับสวน แต่ยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สร้างบรรยากาศผ่อนคลายและสดชื่นให้กับพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะตัว ช่วงเวลาออกดอก และวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน

ขอบคุณภาพจาก : อุทยานหลวงราชพฤกษ์
เอื้องผึ้ง กล้วยไม้หอมหวานราวน้ำผึ้ง
เอื้องผึ้งหรือที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dendrobium lindleyi Steud เป็นกล้วยไม้ในสกุลหวายที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมหวานคล้ายน้ำผึ้ง ลักษณะเด่นของเอื้องผึ้งคือลำต้นที่เตี้ยแตกกอแน่น เป็นลำลูกกล้วยรูปกระสวย ใบมีลักษณะรูปรีสีเขียวเข้มเป็นใบเดี่ยว แผ่นใบหนาแข็งปลายแหลม ส่วนดอกจะออกเป็นช่อห้อยเป็นพวงสีเหลืองอ่อน ที่มีกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้งเป็นเอกลักษณ์1
ความพิเศษของเอื้องผึ้งอยู่ที่การส่งกลิ่นหอมที่แรงในช่วงกลางวัน โดยจะออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี1 ช่อดอกจะห้อยย้อยลงยาวตั้งแต่ 15-40 เซนติเมตร มีดอกไม่แน่นจนเกินไปและพลิ้วไหวได้ง่ายยามมีลม ดอกบานเต็มที่มีขนาด 2-3 เซนติเมตร เมื่อแรกบานจะมีสีเหลืองอมเขียว ต่อมาสีจะเข้มขึ้นเป็นสีเหลืองอมส้มแสด ดอกบานได้นานประมาณ 4-5 วัน แต่หากถูกน้ำจะบานได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น
การปลูกเอื้องผึ้งทำได้โดยขยายพันธุ์ด้วยการแยกลำลูกกล้วยไปปลูก ชอบแสงแดดรำไร โดยเฉพาะแดดเช้า ต้องการน้ำปานกลาง1 สำหรับการปลูกให้หาขอน กิ่งไม้ หรือใส่ในกระเช้าไม้ให้ต้นยึดเกาะ เนื่องจากเป็นกล้วยไม้เกาะ1 เอื้องผึ้งเป็นไม้ที่เลี้ยงไม่ยากและทนต่ออากาศร้อนได้ดี

ขอบคุณภาพจาก : Disthai
นมแมวผลหอมหวานที่กินได้
นมแมวที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rauwenhoffia siamensis (Scheff) Ban. เป็นไม้พุ่มรอเลื้อยขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดจากภาคใต้ของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะของต้นเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยไม่ผลัดใบ สามารถเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 2-5 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านได้มาก เกิดเป็นพุ่มใหญ่
ใบนมแมวเป็นใบเดี่ยวสีเขียวรูปหอก ปลายแหลมโคนมน1 ส่วนดอกจะออกเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 2-4 ดอกตามซอกใบ ดอกสีเหลืองนวลมีกลีบ 6 กลีบ เรียงกันเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 ดอก ความพิเศษของดอกนมแมวคือมีกลิ่นหอมในตอนเย็นจนถึงเช้า และมีกลิ่นหอมแรงในเวลากลางคืน ดอกจะออกช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน-กันยายน โดยจะให้ดอกดกที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม
ผลของนมแมวเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น โดยออกผลเป็นกลุ่มมีผลย่อยประมาณ 8-15 ผล ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมรี และมีตุ่มปลายผลคล้ายกับเต้านมของแมว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง เปลือกผลนิ่ม มีกลิ่นหอม และสามารถรับประทานได้โดยมีรสหวาน การปลูกนมแมวขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง ชอบแดดครึ่งเช้าหรือแดดรำไร ปลูกในดินร่วนหรือดินกึ่งดินเหนียว ทนสภาพน้ำขังได้ดี

ขอบคุณภาพจาก : PictureThis
สร้อยทองไม้มงคลนำโชคลาภ
ดอกสร้อยทองหรือต้นทองอุไรที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Solidago Canadensis เป็นต้นไม้มงคลที่มีถิ่นกำเนิดในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ความเชื่อเรื่องมงคลของดอกสร้อยทองนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก เชื่อว่าช่วยให้ผู้ปลูกร่ำรวยเงินทอง มีเกียรติยศ และเจริญรุ่งเรือง1 ซึ่งสอดคล้องกับชื่อทองอุไรและดอกสร้อยทองที่ถือว่าเป็นมงคลนาม
ลักษณะของต้นสร้อยทองเป็นไม้พุ่มขนาดกลางไม่ผลัดใบ ลำต้นตั้งตรง ความสูงประมาณ 30-100 เซนติเมตร มีใบประกอบแบบขนนกสีเขียวเข้ม ออกเป็นคู่ตรงข้ามประมาณ 2-5 คู่1 ดอกมีสีเหลืองออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง เมื่อบานจะดูคล้ายแตร1 ดอกจะออกในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยมีหลายสายพันธุ์ที่ให้ดอกในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
ดอกสร้อยทองได้รับความนิยมเป็นไม้ตัดดอกสำหรับการบูชาพระหรือพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะในช่วงวันพระหรือวันสำคัญต่างๆ หรือวันตรุษจีน การปลูกสร้อยทองขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง ควรปลูกในดินร่วน พร้อมกับปลูกไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดตลอดทั้งวัน ทนแล้งได้ดี ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย ประมาณสัปดาห์ละครั้งก็พอ

ขอบคุณภาพจาก : Disthai
พิกุลไม้มงคลดอกหอมขาว
ดอกพิกุลที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mimusops elengi Linn. เป็นต้นไม้มงคลที่เชื่อว่าช่วยให้คนในบ้านมีชีวิตยืนยาว เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ทรงพุ่มกลม ใบเดี่ยวรูปรี ปลายใบมีติ่งแหลม ขอบใบเป็นคลื่น ดอกพิกุลเป็นไม้ยืนต้นที่มีดอกหอมสีขาว โดยออกดอกสีขาวเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง มีกลิ่นหอม และออกดอกตลอดทั้งปี
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพิกุลคือเป็นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปรี รูปไข่กว้าง 2-6 เซนติเมตร ยาว 7-15 เซนติเมตร ปลายใบแหลมเป็นติ่งขอบใบเป็นคลื่น ดอกเดี่ยว อยู่รวมกันเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งหรือที่ซอกใบ กลีบเลี้ยง 8 กลีบ เรียงซ้อนกัน 2 ชั้น กลีบดอกประมาณ 24 กลีบ เรียงซ้อนกันโคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเล็กน้อย ดอกสีขาว เมื่อใกล้โรยสีเหลืองอมน้ำตาล ดอกบานวันเดียวแล้วร่วง แต่มีกลิ่นหอม
พิกุลเป็นต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญ เป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดลพบุรี และเป็นต้นไม้ประจำเขตมีนบุรี ในกรุงเทพมหานคร ส่วนดอกพิกุลเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดยะลา และจังหวัดลพบุรี การปลูกเลี้ยงพิกุลทำได้โดยขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการตอน ปลูกในดินได้ทุกชนิด ต้องการน้ำปานกลาง ทนแสงแดดจัดๆ ได้เต็มวัน ไม่ค่อยมีใบร่วง และไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน

ขอบคุณภาพจาก : Postjung
มะลิวัลย์ไม้เลื้อยหอมอ่อน
ดอกมะลิวัลย์ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum adenophyllum Wall. ex C.B. Clarke เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กในสกุลมะลิ ลักษณะเป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกลถึง 6 เมตร มีรากออกตามข้อ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามรูปไข่หรือรูปหอก1 มะลิวัลย์มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย และกระจายพันธุ์จนถึงไทย พม่า มาเลเซีย และเวียดนาม ในไทยพบได้ทุกภาค
ดอกของมะลิวัลย์มีสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดวัน ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบหรือปลายยอด กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก1 จุดเด่นของมะลิวัลย์คือแฉกกลีบเลี้ยงที่ยาวกว่าสายพันธุ์มะลิชนิดอื่น มะลิวัลย์มีการนำมาใช้ประโยชน์หลากหลาย ใช้เป็นไม้ประดับ และในภาคเหนือนิยมนำยอดอ่อนไปใส่แกง
มะลิวัลย์ยังมีบทบาทในวรรณกรรมไทย โดยมีปรากฏในวรรณกรรมเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 การปลูกเลี้ยงมะลิวัลย์ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำ หรือตอนกิ่ง แต่ที่นิยมคือการปักชำ ชอบแสงแดดเต็มวันหรือแสงแดดจัด ต้องการน้ำปานกลาง ควรปลูกในดินร่วนซุย

รำเพยไม้ดอกหลากสีหอมอ่อน
รำเพยที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Thevetia peruviana (Pers.) Schum. มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาเขตร้อน ลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร ยอดพุ่มกลมและโล่งโปร่งไม่ผลัดใบ มีน้ำยางสีขาวทั้งต้น1 ใบสีเขียวเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ โคนใบสอบ ปลายใบแหลม1
ดอกรำเพยมีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น สีเหลือง ส้ม ขาว ออกเป็นช่อรูปกรวยที่ปลายกิ่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ และออกดอกตลอดปี ดอกมีลักษณะเป็นกรวย มีกลีบ 5 กลีบเรียงซ้อนทับกัน โคนดอกเป็นหลอดมีสีอมเขียว มีกลีบเลี้ยงยาวแหลม 5 กลีบเช่นกัน เมื่อดอกโรยจะติดผลที่มีลักษณะกลม ปลายผลแบนมีรอยหยักเป็น 2 แฉก เมื่อสุกมีสีดำ มีเมล็ดข้างใน 1-2 เมล็ด
รำเพยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นดอกไม้ประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์ ชื่อรำเพยนี้ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้ทรงตั้งตามพระนามของพระราชนัดดาองค์หนึ่งซึ่งคือ หม่อมเจ้ารำเพย ศิริวงศ์ การปลูกเลี้ยงรำเพยขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง ปลูกได้ในดินทุกประเภท ชอบแสงแดดจัด ทนแล้ง ต้องการน้ำปานกลางถึงน้อย1 อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากรำเพยเป็นพืชมีพิษ

ขอบคุณภาพจาก : อุทยานหลวงราชพฤกษ์
เข้าพรรษาหงส์เหินแห่งฤดูฝน
ดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหินที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Globba winitii C.H. Wright เป็นพืชวงศ์เดียวกับขิง ข่า มีเหง้าใต้ดิน ลักษณะลำต้นเป็นกาบใบรวมกัน ใบเป็นใบเดี่ยวรูปรี ปลายใบแหลมเรียว ดอกออกเป็นช่อ มีกลีบประดับขนาดใหญ่หลากสี เช่น สีเหลือง สีขาว สีม่วง สีแดง และสีชมพู
ดอกจริงของเข้าพรรษาจะมีขนาดเล็ก มีทั้งสีเหลือง สีส้ม หรือสีขาว ลักษณะคล้ายนกหรือหงส์ที่กำลังเต้นรำ จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อหงส์เหิน ดอกจะออกช่วงหน้าฝนหรือช่วงเข้าพรรษา จึงเป็นที่มาของชื่อดอกเข้าพรรษา ดอกเข้าพรรษามีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูง มีการพัฒนาลูกผสมใหม่หลายสายพันธุ์ มีทั้งแบบก้านช่อยาวเหมาะทำเป็นไม้ตัดดอก และแบบก้านช่อสั้นกะทัดรัดสำหรับผลิตเป็นไม้กระถาง
การปลูกเลี้ยงเข้าพรรษาขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ ต้องการแดดรำไร ไม่มีน้ำขัง ต้องการน้ำปานกลางถึงน้อย ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ตรงกับเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปี จะเห็นดอกเข้าพรรษาพร้อมใจกันชูช่ออวดสีสันสวยงาม แต่พอหมดช่วงฤดูฝน ต้นไม้ชนิดนี้ก็จะยุบตัวหายไป สามารถเก็บรักษาเหง้าไว้ปลูกใหม่ในปีถัดไปได้

ขอบคุณภาพจาก : Disthai
ลำดวนหอมนวลแห่งอีสาน
ต้นลำดวนที่มีชื่วิทยาศาสตร์ว่า Sphaerocoryne lefevrei มีชื่อตามภาษาท้องถิ่นว่า หอมนวล (ภาคเหนือ) และลำดวน (ภาคอีสาน) เป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดศรีสะเกษ นอกจากนี้ ดอกหอมนวลยังเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยต่างๆ
ลำดวนเป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 3-8 เมตร ผิวเปลือกลำต้นสีน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ใบสีเขียวเป็นรูปหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย1 ดอกสีเหลืองมีกลิ่นหอม เป็นดอกเดี่ยวออกตามส่วนยอดและตามง่ามใบ มีกลีบดอก 6 กลีบซ้อนกันเป็นชั้น ปลายกลีบแหลม โคนกลีบดอกกว้าง
ลำดวนจะออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม การปลูกเลี้ยงลำดวนขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง ต้องการแสงแดดจัด ชอบดินร่วนซุย ชอบความชุ่มชื้นแต่ไม่ชอบน้ำท่วมขัง1 ลำดวนเป็นไม้ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและเป็นสัญลักษณ์ของท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคอีสาน
สรุป
การเลือกปลูกไม้ดอกหอมอ่อนๆ ที่ปลูกง่าย ทนแดดทนแล้ง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการตแต่งสวนบ้าน ทั้ง 8 ชนิดที่กล่าวมานี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเติมสีสันและกลิ่นหอมให้กับสวน แต่ยังมีความหมายเชิงมงคลและวัฒนธรรม บางชนิดออกดอกตลอดปี เช่น พิกุล รำเพย บางชนิดออกดอกเฉพาะช่วงเวลา เช่น เอื้องผึ้ง เข้าพรรษา ลำดวน ซึ่งจะช่วยให้สวนมีดอกไม้หอมตลอดทั้งปี การดูแลส่วนใหญ่ไม่ยุ่งยาก ทนทานต่อสภาพอากาศ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การปลูกต้นไม้น้อย
#สาระ #เอื้องผึ้ง #นมแมว #สร้อยทอง #พิกุล #มะลิวัลย์ #รำเพย #เข้าพรรษา #ลำดวน #ไม้ดอกหอม #ไม้ทนแล้ง #ไม้ปลูกง่าย