
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะกำลังเจอปัญหาแมลงกวนใจ ไล่อย่างไรก็ไม่ไปสักที แต่รู้หรือไม่ว่า มีต้นไม้บางสายพันธุ์ที่สามารถจับแมลงเหล่านั้นได้อยู่หมัด วันนี้แอดมินจึงได้รวบรวม 6 ต้นไม้กินแมลง ที่เลี้ยงง่าย ใครๆ ก็ปลูกได้ จะมีต้นอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

กาบหอยแครง
เป็นต้นไม้ที่มีลำต้นเป็นกาบอยู่เหนือดิน ปลายกาบมีซี่ๆ แบบฟันปลา ประมาณ 15-20 ซี่ แต่ละซี่ก็จะผลิตน้ำหวานเอาไว้ เพื่อดักจับแมลง อีกทั้งยังมีสีสันหลากหลาย มีขนด้านใน โดยตัวกาบจะตายเมื่อจับเหยื่อได้ 7-10 ครั้ง ส่วนใบมีลักษณะคล้ายหัวใจ ดอกออกสีขาว แดง และแสด ก้านดอกยาว ส่วนมากบานเพียงดอกเดียว ผลเป็นฝัก มีเมล็ดข้างใน
วิธีดูแล : ควรปลูกให้รากจมน้ำครึ่งหนึ่ง ชอบอากาศอบอุ่น ต้องการแสงแดดปานกลาง ไม่ต้องการน้ำมาก โตได้ดีในดินที่ผสมขุยมะพร้าวสับ หมั่นเปลี่ยนวัสดุปลูกทุกๆ 1-2 ปี

ซาราซีเนีย
เป็นพืชที่ได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งต้นไม้กินแมลง เพราะทั้งสวยงาม และดักแมลงดีมาก เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี เหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นสูงไม่เกิน 1 เมตร ใบตั้งตรง ห่อเป็นรูปกรวยคล้ายฝา ปลายใบบานออก ด้านในมีน้ำหวานล่อแมลง มีขี้ผึ้งเป็นกับดักด้วย ส่วนดอกเป็นดอกเดี่ยว ก้านดอกยาวสูง ผลรีคล้ายแคปซูล มีเมล็ดเล็กๆ ข้างใน มักจะพบต้นซาราซีเนียบริเวณที่ชุ่มชื้น นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือแยกกอ
วิธีดูแล : ดินผสมทราย และสแฟกนัมมอส เหมาะปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัดปานกลาง มีความชุ่มชื้น ควรรดน้ำลงบนดินวันละ 1-2 ครั้ง

หญ้าน้ำค้าง
เป็นไม้ล้มลุก อายุ 1 ปี ลำต้นเลื้อยตามดิน ส่วนยอดชูตั้ง สูงประมาณ 5-25 เซนติเมตร มีขนปกคลุมทั่วลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ทรงเรียวยาว มีขนปกคลุม ปลายม้วนงอ มีตุ่มใส และน้ำเมือกเหนียวไว้ดักแมลง ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ มักออกมากในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ผลเป็นทรงกลม ขนาดเล็ก มีเมล็ดสีดำข้างใน มักพบตามทุ่งหญ้า พื้นที่โล่ง หรือลานหินชื้น
วิธีดูแล : ชอบดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นสูงเป็นพิเศษ ควรรดน้ำลงบนดินวันละ 1-2 ครั้ง

หม้อข้าวหม้อแกงลิง
มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย ใบเลี้ยงคู่ มีหม้อเป็นกระเปาะห้อยอยู่ปลายใบ มีต่อมน้ำหวานล่อเหยื่อที่ปาก ในกระเปาะมีขี้ผึ้ง และต่อมเล็กๆ ผลิตน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ไว้ย่อยเหยื่อก่อนดูดซึมสารอาหาร ดอกออกเป็นช่อแยกแขนง แต่ละต้นแยกเพศกัน ส่วนใหญ่จะออกเมื่อโตเต็มวัย ผลเป็นทรงรี มีเมล็ดคล้ายเส้นด้ายจำนวนมาก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ หรือเพาะเมล็ด
วิธีดูแล : ปลูกด้วยกาบมะพร้าวสับ และสแฟกนัมมอส ควรเปลี่ยนกระถางเมื่อต้นมีขนาดใหญ่ขึ้น ชอบแสงแดด ชอบความชื้นแฉะ ควรรดน้ำลงบนดินวันละ 1-2 ครั้ง

หยาดน้ำค้าง
มีลักษณะเป็นไม้ล้มลุก กินแมลงขนาดเล็ก ลำต้นสั้นติดกับดิน สูงประมาณ 2-3 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว รูปมนรี มีขนสีแดงปกคลุม ปลายขนมีน้ำหวานเหนียวเพื่อดักจับแมลง ก้านใบสั้น ส่วนดอกออกเป็นช่อกลางลำต้น มีสีม่วง สีชมพู หรือสีขาว มีขนรอบกลีบรองดอก ผลเป็นทรงแคปซูล ขนาดเล็ก มีเมล็ดสีดำข้างใน มักพบตามพื้นที่โล่ง ภูเขาหินทราย ทุ่งหญ้า และใกล้ลำธาร
วิธีดูแล : ชอบดิน และอากาศที่ชื้นแฉะ ควรรดน้ำลงบนดินวันละ 1-2 ครั้ง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 6 ต้นไม้กินแมลง เพื่อไม่ให้มากวนใจ นอกจากจะดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก ยังสามารถนำไปจัดสวนสวยๆ หรือนำไปห้อยประดับตกแต่งบ้านก็ได้เช่นกัน มีประโยชน์แบบนี้ รีบไปคว้ามาสักต้นสองต้นนะคะ
ที่มา : kapook