การมีบ้านเป็นของตัวเองถือเป็นความฝันของคนทำงานหลายคน แต่ด้วยราคาบ้านที่สำคัญที่สุดคือต้องศึกษาทำเลและโครงการให้ดีครับ ดูว่ามีแผนพัฒนาอะไรในอนาคต เพราะนอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว บ้านยังเป็นการลงทุนระยะยาวด้วย
และอีกเรื่องที่หลายคนมองข้ามคือการวางแผนรับมือกับดอกเบี้ยที่อาจปรับขึ้นในอนาคตครับ ควรประเมินความสามารถในการผ่อนในกรณีที่ดอกเบี้ยสูงขึ้น และวางแผนการเงินให้รองรับได้
ถ้าเตรียมตัวให้พร้อมตามนี้ การกู้ซื้อบ้านหลังแรกก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดครับ แค่ต้องวางแผนให้ดีและมีวินัยทางการเงินูงขึ้นทุกปี ทำให้การซื้อบ้านด้วยเงินสดเป็นเรื่องยาก การกู้ซื้อบ้านจึงเป็นทางเลือกที่นิยมมากที่สุด แต่หลายคนอาจสงสัยว่าต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันว่าเราควรวางแผนอย่างไรให้ได้บ้านในฝัน

เงินเก็บที่ต้องมีก่อนกู้ซื้อบ้าน
การกู้ซื้อบ้านไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องมีเงินเก็บเลย เพราะยังมีค่าใช้จ่ายอีกหลายส่วนที่ต้องจ่ายด้วยเงินสด ดังนี้
เงินดาวน์
โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้ประมาณ 90-95% ของราคาบ้าน นั่นหมายความว่าเราต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 5-10% ของราคาบ้าน เช่น บ้านราคา 3 ล้านบาท ต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 150,000-300,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคารและประวัติทางการเงินของผู้กู้
ค่าใช้จ่ายในการโอน
ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง และภาษีต่างๆ โดยรวมแล้วประมาณ 2-3% ของราคาบ้าน ในกรณีบ้านราคา 3 ล้านบาท จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนประมาณ 60,000-90,000 บาท
เงินสำรองสำหรับตกแต่งบ้าน
ควรมีเงินสำรองสำหรับค่าตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประมาณ 10-15% ของราคาบ้าน หรือประมาณ 300,000-450,000 บาท สำหรับบ้านราคา 3 ล้านบาท

การเตรียมความพร้อมด้านการเงิน
การจัดการรายได้และหนี้สิน
ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระโดยดูจากรายได้และภาระหนี้ โดยทั่วไปภาระผ่อนรวมทั้งหมดไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน ดังนั้นควรจัดการหนี้สินอื่นๆ ให้เหลือน้อยที่สุดก่อนยื่นกู้
การสร้างประวัติทางการเงินที่ดี
ควรรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ดี ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ และควรมีการใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เพื่อสร้างเครดิตที่ดีกับธนาคาร
การออมเงินอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากเงินก้อนสำหรับดาวน์และค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ควรมีเงินออมสำรองอย่างน้อย 6 เดือนของค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือน เผื่อกรณีฉุกเฉิน

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนยื่นกู้
การเลือกบ้านและโครงการ
ควรศึกษาทำเลที่ตั้ง ราคา และความน่าเชื่อถือของโครงการ รวมถึงแผนการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต เพื่อประเมินมูลค่าการลงทุนในระยะยาว
การเปรียบเทียบสินเชื่อจากหลายธนาคาร
ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการกู้ และค่าธรรมเนียมต่างๆ จากหลายธนาคาร เพื่อเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด
การเตรียมเอกสาร
เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม เช่น
- สลิปเงินเดือน 6 เดือนล่าสุด
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารแสดงความมั่นคงทางการเงินอื่นๆ
- หลักฐานการผ่อนชำระหนี้อื่นๆ (ถ้ามี)

การวางแผนการผ่อนชำระในระยะยาว
การเลือกระยะเวลาผ่อน
ระยะเวลาผ่อนมีผลต่อค่างวดและดอกเบี้ยรวม ควรเลือกให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนและอายุของผู้กู้
การวางแผนรับมือดอกเบี้ยขึ้น
ควรประเมินความสามารถในการผ่อนในกรณีที่ดอกเบี้ยปรับขึ้น และวางแผนการเงินให้รองรับได้
การวางแผนชำระเงินก้อน
หากมีเงินก้อนในอนาคต ควรวางแผนการชำระเงินก้อนเพื่อลดภาระดอกเบี้ย
สรุป
การกู้ซื้อบ้านหลังแรกต้องการการวางแผนที่รอบคอบ ทั้งด้านการเงินและการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ โดยสรุปเงินที่ต้องเตรียมไว้ประมาณ 25-30% ของราคาบ้าน ประกอบด้วยเงินดาวน์ ค่าใช้จ่ายในการโอน และเงินสำรองสำหรับตกแต่งบ้าน นอกจากนี้ยังต้องมีการวางแผนการผ่อนชำระในระยะยาว และเตรียมเงินสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน
#Homeday #Mehome #มีบ้านต้องมีโฮม #FirstHome #PropertyTips #HomeLoans #RealEstate #HomeBuying #PropertyInvestment #HomeOwnership