ค่าน้ำมัน และค่าไฟฟ้า ในแต่ละเดือนที่พุ่งขึ้นไม่หยุด ทำให้นาทีนี้ความคิดในการเลือกรถยนต์ไว้ใช้สักคันจะมีรถไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) เข้าไปอยู่ในตัวเลือกลำดับแรก ๆ จะชาร์จไฟตามจุดชาร์จ เช่น ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ ต้องรอคิวนานทำให้หลายคนเริ่มปวดหัว การเลือกหาจุดความคุ้มค่าระหว่างติดตั้งชาร์จไฟบ้านในราคาของหน่วยงานรัฐปกติ หรือ ชาร์จไฟที่บ้านแต่ดึงพลังงานจากโซลาร์เซลล์มาใช้ แบบไหนจะดีกว่ากัน ลองศึกษาข้อมูลที่น่าสนใจนี้ แล้วหาความคุ้มค่าให้เจอ จะช่วยให้ทุกคนประหยัดค่าไฟฟ้า และร่วมกันลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย
ความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่มากขึ้นดูได้จากยอดจดทะเบียน BEV หรือ รถยนต์ไฟฟ้าประเภท Battery Electric Vehicle (BEV) ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 มีมากถึง 100,219 คัน เมื่อเทียบกับปี 2565 จำนวน 20,816 คัน เป็นการเติบโตที่สูงถึง 380%
แม้จะมีหลายจุดชาร์จที่เปิดให้บริการ ทั้งห้างสรรพสินค้า และ ปั๊มน้ำมัน แต่ก็ยังไม่มากพอ เพราะ BEV จะเป็นรถขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% ต้องอาศัยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บพลังงานทำให้วิ่งได้ระยะทางไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
โครงการบ้านและคอนโดมิเนียมใช้โอกาสนี้ดึงมาเป็นจุดขาย ซื้อบ้านแถมยังได้จุดติดตั้งชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคนที่ต้องการใช้งานและกำลังมองหาบ้านก็เลือกสองออปชั่นนี้ในการตัดสินใจซื้อ แต่เคยคิดกันหรือไม่ว่า การชาร์จรถยนต์จากไฟบ้าน กับ ชาร์จไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ แบบไหนจะคุ้มค่ามากกว่ากัน
Solar cell on grid เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้ด้านบนของบ้านส่วนใหญ่ใช้ส่วนของหลังคาเป็นจุดติดตั้งเพื่อดึงเอาพลังแสงอาทิตย์มาผลิตไฟใช้ในบ้านโดยตรง ซึ่งหากเลือกจุดวางไม่เหมาะสมเช่นรับแสงได้ไม่เต็มที่พลังงานที่รับมากักเก็บให้ดึงไปใช้ก็ทำได้ไม่เต็มที่
ชาร์จไฟบ้าน ส่วนใหญ่จ่ายไฟได้ประมาณ 7-11 หน่วยต่อชั่วโมงทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถ เมื่อเปรียบเทียบกับการกินไฟของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านขนาด 9000-12000 BTU จะกินไฟประมาณ 1หน่วยต่อชม.
ตัวเลขการคิดต้นทุนจากบริษัทผู้ให้บริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่เคยทำเอาไว้ได้น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ชาร์จไฟบ้านเฉลี่ยอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย รวมค่า FT แต่ถ้าชาร์จไฟรถที่บ้านในอัตรา TOU ของการไฟฟ้านครหลวง หลังจาก 4 ทุ่มไปแล้วจะเหลือเฉลี่ยหน่วยละ 2.6369 บาท รวมค่า FT
แต่ถ้าชาร์จไฟรถไฟฟ้าที่บ้านตามอัตรามิเตอร์ปกติของไฟฟ้านครหลวง ทุกช่วงเวลาจะตกหน่วยละประมาณ 3.964 บาท รวมค่า FT
เมื่อรถไฟฟ้าที่วิ่งเฉลี่ยเดือนละ 500 km เป็นอย่างน้อย ในทุก ๆ 1 กิโลเมตรจะเสียค่าไฟ 0.52738 บาท สำหรับมิเตอร์แบบ TOU และกรณีของมิเตอร์แบบปกติจะเสียค่าไฟอยู่ที่ 0.7928 บาท
ส่วนต้นทุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออนกริด ประมาณ 30,000-100,000 บาทขึ้นไปทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการติดตั้ง และจำนวนวัตต์ที่ต้องการใช้งาน
การติดตั้งโซลาร์เซลล์แม้จะเป็นเรื่องใหม่และต้องลงทุนอุปกรณ์ไปก่อน แต่ในระยะกลางและระยะยาว ความคุ้มค่าที่เกิดขึ้น นอกจากจะประหยัดค่าไฟฟ้าแล้ว ยังลดปัญหาวิ่งรถหาจุดชาร์จ และ ร่วมกันลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย
อ้างอิง
https://erdi.cmu.ac.th
https://comsyssolar.com