EV Charger คืออะไร? มาทำความรู้จักสถานีชาร์จรถไฟฟ้ากัน

          ในช่วงนี้ กระแสการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกโดยเฉพาะ “รถยนต์ไฟฟ้า (EV)” ในเมืองไทยกำลังมาแรงทีเดียว ทำให้หลายคนหันมาสนใจพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย หากรถยนต์ไฟฟ้าต้องขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เราก็ต้องทำการชาร์จ เหมือนน้ำมันที่ต้องเติม ซึ่งเราเรียกที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าว่า EV Charger หรือสถานีชาร์จรถไฟฟ้านั่นเอง ทีนี้เราก็มาทำความรู้จักกันว่า EV Charger คืออะไร มีกี่แบบ ไปดูกันเลยค่ะ

EV Charger คืออะไร ?

           EV Charger หรือ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยสามารถแบ่งการชาร์จออกเป็น 2 ประเภท คือ Normal Charge และ Quick Charge

ประเภทของ EV Charger

    • Normal Charge : EV Charger ชาร์จแบบปกติ โดยการชาร์จแบบนี้จะเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ ผ่านอุปกรณ์ตัวแปลง หรือ อุปกรณ์ Inverter เพื่อเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสสลับให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อชาร์จประจุในแบตเตอรี่ โดยทั่วไปการชาร์จแบบนี้เหมาะสำหรับการชาร์จที่ อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน หรือที่จอดรถสาธารณะที่ให้จอดชาร์จได้เป็นเวลานาน ๆ อย่างเช่น อุปกรณ์ Wall Box เป็นการชาร์จด้วยไฟ AC โดยชาร์จผ่าน On Board Charger ที่ยู่ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ในการแปลงไฟ AC ไปเป็นไฟ DC ขนาดของตัว On Board Charger จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถยนต์ ซึ่งขนาดของ On Board Charger จะมีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จไฟของแบตเตอรี่รถยนต์

    • Quick Charge : การชาร์จแบบเร็ว ซึ่งจะเป็นเป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง โดยระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้สูง สามารถชาร์จโดยใช้เวลาสั้นกว่า แต่เนื่องจากเป็นการชาร์จด้วยกำลังไฟที่สูง จึงต้องใช้จุดที่มีกระแสไฟที่สูงเพียงพอ ซึ่งส่วนมากเป็นที่สาธารณะ หรือก็คือ EV Charger หรือ สถานีชาร์จรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า ตามสถานีบริการน้ำมัน หรือตามอาคารที่ติดตั้งตู้ประเภทนี้ ตัวอย่างเช่นที่ สยามสแควร์  จะเป็นการชาร์จโดยใช้ตู้ EV Charger (สถานีชาร์จรถไฟฟ้า) ที่แปลงไฟ AC ไปเป็นไฟ DC แล้วจ่ายไฟ DC เข้าที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จจะน้อยกว่าแบบ Normal Charger หัวชาร์จ (SOCKET) ของตู้ EV Charger จะมีทั้งแบบที่เป็น AC และ แบบ DC ประเภทของหัวชาร์จจะขึ้นอยู่กับมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์

ประเภทของหัวชาร์จ EV Charger

          EV Charger จะมีหัวชาร์จอยู่ 3 แบบ ซึ่งแต่ละหัวชาร์จจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นของรถยนต์ไฟฟ้าว่ารองรับมาตรฐานหัวชาร์จแบบไหน ซึ่งจะมีอยู่ 3 แบบหลัก ๆ คือ AC (Type1/Type2), DC Chademo และ DC CCS ซึ่ง ทั้ง 3 แบบ ก็จะมีลักษณะปลีกย่อยที่แตกต่างกันลงไปอีก อย่าง DC CHAdeMO ที่ญี่ปุ่น กับจีนจะมาในรูปทรงเดียวกันแต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

          1. EV Charger หัวชาร์จแบบ AC : จะแบ่งเป็น Type1 นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจาก สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น จะเป็นหัวแบบ 5 Pin ส่วนอีกแบบจะเป็น Type 2 นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจากทางยุโรป จะมีลักษณะหัวแบบ 7 Pin

          2. EV Charger หัวชาร์จแบบ DC CHAdeMO : โดยคำว่า CHAdeMO เป็นคำที่ย่อมาจาก CHArge de Move ซึ่งเป็นชื่อระบบชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยระบบ CHAdeMO นั้นนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น และจีน

          3. EV Charger หัวชาร์จแบบ CCS : ที่ย่อมาจาก Combined Charging System ซึ่งสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก 2 แบบ นั่นคือ CCS TYPE 1 เป็นหัวชาร์จที่นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกา โดยหัวชาร์จจะมีขนาดเล็กกว่าแบบ CCS Type 2 ซึ่ง CCS TYPE 1 นี้สามารถรองรับรงดันไฟฟ้าที่ 200 V – 500 V และ CCS Type 2 เป็นหัวชาร์จที่นิยมใช้ในหลายประเทศในโซนยุโรป และที่สำคัญคือให้มีกำลังไฟได้มากกว่า หัวชาร์จ CCS Type 1 อีกด้วย

การเลือกติดตั้ง EV Charger ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

            การติดตั้งอุปกรณ์ EV Charger ตามสถานที่ต่าง ๆ จะเลือกตามความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการชาร์จ ยกตัวอย่างเช่น บ้านพัก ควรติดตั้ง EV Charger แบบ AC ก็เพียงพอ ถึงจะใช้เวลาในการชาร์จนาน แต่เวลาที่เราใช้ภายในบ้านก็ค่อนข้างนานเช่นกัน หรือ ถ้าต้องการตั้งเป็นสถานี EV Charger ที่ต้องการความเร็วในการชาร์จ ก็สามารถเลือกเป็นการชาร์จแบบ DC ซึ่งมีระดับการชาร์จถึง 3 ระดับ คือ DC Wallbox , DC terra 54 และ DC Terra 360 ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จจะน้อยลงตามลำดับ

            สำหรับใครที่กำลังเล็งจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV กันอยู่ เราต้องเตรียมระบบไฟในบ้านให้รองรับการชาร์จไฟฟ้าได้ด้วย หรือจะต้องเดินทางไกลก็ต้องหา EV Charger ไว้ด้วยเผื่อรถยนต์ของเราหมดไฟขึ้นมาระหว่างทางจะได้แก้ไขทันกันนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด