การพบว่าสัตว์เลี้ยงของเรามีความพิการอาจเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกท้อแท้และสับสน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขที่สูญเสียขาจากอุบัติเหตุ แมวตาบอด หรือสัตว์เลี้ยงที่เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกาย หลายคนอาจกังวลว่าจะสามารถมอบการดูแลที่เหมาะสมได้หรือไม่ แต่ความจริงแล้ว สัตว์เลี้ยงพิการสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีความสุขได้ หากได้รับการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม
การดูแลสัตว์เลี้ยงพิการต้องการความรัก ความอดทน และความเข้าใจเป็นพิเศษ แต่ผลตอบแทนที่ได้รับมีค่ามหาศาล สัตว์เลี้ยงเหล่านี้มักจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและการปรับตัวที่น่าทึ่ง ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้
บทความนี้จะแนะนำวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงพิการอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การจัดเตรียมบ้านให้เหมาะสม การดูแลสุขภาพประจำวัน ไปจนถึงการสนับสนุนด้านจิตใจและอารมณ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานด้านการเลี้ยงสัตว์มาก่อน
ทำความเข้าใจความพิการในสัตว์เลี้ยง
ก่อนที่จะเรียนรู้วิธีการดูแล เราควรทำความเข้าใจประเภทของความพิการที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง:
ประเภทของความพิการที่พบบ่อย
- ความพิการทางการเคลื่อนไหว: เช่น การสูญเสียขาหรือแขน อัมพาตบางส่วน หรือโรคข้อต่ออักเสบรุนแรง
- ความพิการทางการมองเห็น: ตั้งแต่สายตาเลือนรางไปจนถึงตาบอดสนิท
- ความพิการทางการได้ยิน: หูตึงหรือหูหนวก ซึ่งอาจเกิดตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง
- ความพิการทางระบบประสาท: เช่น โรคลมชัก หรือความผิดปกติของสมองที่ส่งผลต่อการทรงตัวหรือการประสานงาน
- ความพิการทางเมตาบอลิซึมหรือภายใน: เช่น โรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคหัวใจ
สัญญาณบ่งชี้ความพิการในสัตว์เลี้ยง
การสังเกตพฤติกรรมผิดปกติเป็นสิ่งสำคัญในการระบุความพิการที่อาจเกิดขึ้น:
- การเดินเซหรือล้มบ่อย
- การชนสิ่งของหรือมีปัญหาในการนำทาง
- การไม่ตอบสนองต่อเสียงหรือคำสั่ง
- การเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินหรือดื่ม
- อาการชักหรือกระตุกผิดปกติ
- การแสดงความเจ็บปวดเมื่อสัมผัสบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
เมื่อสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้ ควรพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
การเตรียมบ้านให้เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการ
การปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านเป็นขั้นตอนสำคัญในการช่วยให้สัตว์เลี้ยงพิการสามารถเคลื่อนที่และใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
การจัดพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว
- พื้นผิวที่เหมาะสม: ปูพรมหรือเสื่อยางในบริเวณที่สัตว์เลี้ยงใช้งานบ่อย เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานและป้องกันการลื่น
- ทางลาด: ติดตั้งทางลาดแทนบันไดในจุดที่จำเป็น โดยเฉพาะทางเข้าออกบ้านหรือขึ้นเตียง
- เบาะรองนอน: จัดหาเบาะรองนอนที่นุ่มแต่ให้การรองรับที่ดี เพื่อป้องกันแผลกดทับ
- เส้นทางชัดเจน: จัดเฟอร์นิเจอร์ให้มีเส้นทางเดินที่กว้างและไม่มีสิ่งกีดขวาง
- อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนที่: พิจารณาใช้รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยง สายรัดช่วยพยุง หรือขาเทียม ตามความเหมาะสม
การจัดสภาพแวดล้อมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาการมองเห็น
- การจัดวางคงที่: รักษาตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ อาหาร น้ำ และกระบะทรายให้คงที่
- สัญญาณทางเสียงและกลิ่น: ใช้ของเล่นมีเสียงหรือน้ำหอมอ่อนๆ เพื่อช่วยในการนำทาง
- ป้องกันขอบคม: หุ้มขอบเฟอร์นิเจอร์ที่แหลมคมด้วยวัสดุนุ่ม
- การสื่อสารด้วยเสียง: พูดคุยก่อนเข้าใกล้เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงตกใจ
- เสียงสัญญาณ: ใช้กระดิ่งเล็กๆ ติดที่ปลอกคอของสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้านเพื่อให้สัตว์เลี้ยงตาบอดรับรู้ตำแหน่ง
การจัดสภาพแวดล้อมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาการได้ยิน
- การสื่อสารด้วยการมองเห็น: ฝึกใช้ภาษามือหรือสัญญาณมือพื้นฐาน
- แสงไฟเตือน: ใช้ไฟกระพริบแทนการเรียกเมื่อต้องการสื่อสาร
- การสั่นสะเทือน: แตะพื้นเพื่อสร้างการสั่นสะเทือนเมื่อเข้าใกล้
- การสัมผัสที่นุ่มนวล: ใช้การสัมผัสอย่างอ่อนโยนเพื่อปลุกสัตว์เลี้ยงที่กำลังหลับ
ป้ายเตือน: ติดป้ายหรือสติกเกอร์เตือนที่ประตูหรือรั้วให้คนอื่นทราบว่ามีสัตว์เลี้ยงหูหนวก
การดูแลประจำวันสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการ
การดูแลประจำวันสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการอาจต้องการความใส่ใจและเทคนิคพิเศษเพิ่มเติม:
อาหารและโภชนาการ
- โภชนาการที่เหมาะสม: ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อกำหนดแผนโภชนาการที่เหมาะกับความพิการและความต้องการพลังงาน
- การควบคุมน้ำหนัก: รักษาน้ำหนักที่เหมาะสมเนื่องจากน้ำหนักเกินจะเพิ่มความเครียดให้กับร่างกายของสัตว์เลี้ยงพิการ
- ชามอาหารที่เหมาะสม: ใช้ชามที่ยกสูงหรือมีฐานกว้างเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย
- อาหารเสริม: อาจจำเป็นต้องให้วิตามินหรืออาหารเสริมเฉพาะ เช่น น้ำมันปลาสำหรับข้อต่อ
- การให้อาหารด้วยมือ: ในบางกรณี อาจต้องป้อนอาหารด้วยมือหรือใช้อุปกรณ์ช่วย
การออกกำลังกายและการกระตุ้น
- การออกกำลังกายที่ปรับให้เหมาะสม: ออกแบบกิจกรรมที่เหมาะกับความสามารถของสัตว์เลี้ยง
- การบำบัดทางน้ำ: ว่ายน้ำสามารถเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว
- ของเล่นที่เหมาะสม: เลือกของเล่นที่กระตุ้นประสาทสัมผัสที่ยังทำงานได้ดี
- การกระตุ้นทางจิตใจ: เกมแก้ปัญหาและการฝึกเชื่อฟังคำสั่งยังคงสำคัญ
- เวลาที่เหมาะสม: แบ่งการออกกำลังกายเป็นช่วงสั้นๆ หลายครั้งต่อวันแทนการออกกำลังกายนานๆ ครั้งเดียว
การดูแลสุขอนามัย
- การทำความสะอาดประจำวัน: ตรวจสอบและทำความสะอาดตาที่มีน้ำตาไหล ช่องหู หรือบริเวณที่เปียกชื้น
- การอาบน้ำ: ปรับเทคนิคการอาบน้ำให้เหมาะกับความพิการ อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมเช่นแผ่นกันลื่น
- การดูแลขน: แปรงขนให้บ่อยขึ้นสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เคลื่อนไหวน้อย
- การตัดเล็บ: สัตว์เลี้ยงที่เคลื่อนไหวน้อยอาจต้องการการตัดเล็บบ่อยขึ้น
- การดูแลผิวหนัง: ตรวจหาจุดกดทับและแผลเป็นประจำ โดยเฉพาะในบริเวณที่สัมผัสกับพื้นผิวเป็นเวลานาน
การขับถ่ายและสุขอนามัย
- กระบะทรายที่เข้าถึงง่าย: ใช้กระบะทรายที่มีขอบต่ำสำหรับแมวที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว
- ตารางเวลาที่แน่นอน: กำหนดเวลาพาออกไปขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอสำหรับสุนัข
- ผ้าอ้อมสำหรับสัตว์เลี้ยง: อาจจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้
- การทำความสะอาด: เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้พร้อมใช้งานเสมอ
การดูแลผิวหนัง: หลังการทำความสะอาด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผิวหนังแห้งสนิทเพื่อป้องกันการระคายเคือง
การดูแลทางการแพทย์สำหรับสัตว์เลี้ยงพิการ
การดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงพิการ:
การตรวจสุขภาพประจำ
- การเยี่ยมสัตวแพทย์สม่ำเสมอ: ควรพาไปตรวจสุขภาพบ่อยกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป
- การติดตามอาการ: จดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของอาการหรือพฤติกรรมเพื่อรายงานสัตวแพทย์
- การตรวจสอบน้ำหนัก: ติดตามน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักเกินหรือขาดสารอาหาร
- การตรวจเลือด: อาจต้องทำบ่อยขึ้นเพื่อติดตามการทำงานของอวัยวะและการตอบสนองต่อยา
- การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: อาจต้องพบสัตวแพทย์เฉพาะทางเช่น ประสาทวิทยา หรือกระดูกและข้อ
การให้ยาและการบำบัด
- การให้ยาอย่างถูกต้อง: เรียนรู้วิธีการให้ยาที่ถูกต้องและตรงเวลา
- กายภาพบำบัด: การนวด การยืดเหยียด และการบริหารข้อต่อสามารถช่วยรักษาความยืดหยุ่นและป้องกันกล้ามเนื้อลีบ
- อาชีวบำบัด: การฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวันภายใต้ข้อจำกัดของความพิการ
- การบำบัดทางน้ำ: ว่ายน้ำและการบำบัดในน้ำสามารถช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวโดยไม่มีแรงกดทับบนข้อต่อ
- การแพทย์ทางเลือก: เช่น การฝังเข็ม หรือการนวดบำบัด อาจช่วยบรรเทาอาการปวดและเพิ่มคุณภาพชีวิต
การจัดการความเจ็บปวด
- การสังเกตสัญญาณความเจ็บปวด: เรียนรู้ที่จะระบุความเจ็บปวดในสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจรวมถึงการเลียบริเวณที่เจ็บ การนอนมากขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
- การบำบัดด้วยยา: ปฏิบัติตามแผนการรักษาด้วยยาแก้ปวดที่สัตวแพทย์กำหนด
- การประคบร้อนหรือเย็น: สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบ
- สภาพแวดล้อมที่สบาย: จัดเตรียมที่นอนนุ่มและอบอุ่น
การนวด: การนวดเบาๆ สามารถช่วยบรรเทาความตึงของกล้ามเนื้อและส่งเสริมการไหลเวียนเลือด
การดูแลด้านจิตใจและอารมณ์
ความพิการไม่เพียงส่งผลกระทบต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของสัตว์เลี้ยงด้วย:
การสนับสนุนทางอารมณ์
- ความอดทนและความเข้าใจ: ให้เวลาสัตว์เลี้ยงในการปรับตัว
- การสร้างกิจวัตรประจำวัน: ความสม่ำเสมอสร้างความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
- การให้ความสนใจและความรัก: การใช้เวลาร่วมกันมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการ
- การสื่อสารเชิงบวก: ใช้น้ำเสียงที่อบอุ่นและให้กำลังใจ
- การมอบพื้นที่ปลอดภัย: จัดเตรียมพื้นที่ที่สงบและเป็นส่วนตัวเมื่อต้องการพักผ่อน
การจัดการพฤติกรรมที่ท้าทาย
- ความกลัวและวิตกกังวล: สัตว์เลี้ยงพิการอาจรู้สึกเปราะบางมากขึ้น
- พฤติกรรมก้าวร้าว: อาจเกิดจากความเจ็บปวดหรือความกลัว
- ภาวะซึมเศร้า: สังเกตสัญญาณของการถอนตัวหรือเบื่ออาหาร
- การฝึกอย่างสม่ำเสมอ: ช่วยสร้างความมั่นใจและกระตุ้นสมอง
- การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: นักพฤติกรรมสัตว์อาจให้คำแนะนำสำหรับปัญหาที่ซับซ้อน
อุปกรณ์และเทคโนโลยีช่วยเหลือ
เทคโนโลยีและอุปกรณ์พิเศษสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงพิการได้อย่างมาก:
อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนไหว
- รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยง: เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาขาหลัง
- ขาเทียม: สามารถช่วยในกรณีที่สูญเสียขาหรือเท้า
- สายรัดช่วยพยุง: ช่วยในการพยุงและการเคลื่อนที่
- บูทหรือรองเท้า: ปกป้องอุ้งเท้าและให้แรงยึดเกาะที่ดีขึ้น
- ทางลาดพกพา: ช่วยให้เข้าถึงพื้นที่ยกระดับได้
อุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับความพิการเฉพาะทาง
- อุปกรณ์ป้องกันการชน: สำหรับสัตว์เลี้ยงตาบอด เช่น “halo vest”
- เครื่องช่วยฟัง: สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาการได้ยิน
- สายจูงและปลอกคอพิเศษ: ออกแบบเฉพาะสำหรับความต้องการพิเศษ
- ระบบเตือนและติดตาม: ช่วยติดตามสัตว์เลี้ยงที่อาจหลงทาง
- ของเล่นกระตุ้นประสาทสัมผัส: ออกแบบเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงพิการ
สัตว์เลี้ยงพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้หรือไม่?
แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงพิการสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ สัตว์มีความสามารถในการปรับตัวที่น่าทึ่ง พวกเขาไม่ได้คิดถึงความพิการในแง่ลบเหมือนมนุษย์ แต่เพียงปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ด้วยการดูแลที่เหมาะสม ความรัก และการปรับสภาพแวดล้อม สัตว์เลี้ยงพิการสามารถมีชีวิตที่มีความสุขและสมบูรณ์ได้
การรับเลี้ยงสัตว์พิการเป็นความคิดที่ดีหรือไม่?
การรับเลี้ยงสัตว์พิการเป็นการตัดสินใจที่น่ายกย่อง แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ คุณควรประเมินความพร้อมทั้งในด้านเวลา การเงิน และพื้นที่อาศัย สัตว์เลี้ยงพิการอาจต้องการการดูแลและความใส่ใจมากกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความรักอันไม่มีเงื่อนไขและความสัมพันธ์พิเศษที่ลึกซึ้ง
ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ควรพิจารณาการุณยฆาตสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการ?
นี่เป็นคำถามที่ยากที่สุดสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง การตัดสินใจควรขึ้นอยู่กับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ความสะดวกของเจ้าของ พิจารณาว่าสัตว์เลี้ยงยังสามารถทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบได้หรือไม่ ยังมีความสุขกับการกิน การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และมีวันที่ดีมากกว่าวันที่แย่หรือไม่ ปรึกษาสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดและซื่อสัตย์กับตัวเองเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง
อะไรคือข้อดีของการเลี้ยงสัตว์พิการ?
การดูแลสัตว์เลี้ยงพิการมีข้อดีมากมาย:
- สอนเราเกี่ยวกับความอดทน การยอมรับ และความรักไม่มีเงื่อนไข
- พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์
- สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเป็นพิเศษ
- ให้โอกาสช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
- มอบความเข้าใจและมุมมองใหม่เกี่ยวกับความพิการและความท้าทายในชีวิต
การมีสัตว์เลี้ยงอื่นในบ้านจะช่วยสัตว์เลี้ยงพิการได้หรือไม่?
ในหลายกรณี การมีสัตว์เลี้ยงที่ดีต่อสุขภาพในบ้านสามารถช่วยสัตว์เลี้ยงพิการได้ สัตว์เลี้ยงตัวอื่นสามารถให้ความบันเทิง การกระตุ้นทางสังคม และบางครั้งแม้แต่การช่วยเหลือทางกายภาพ (เช่น การนำทางหรือการให้ความอบอุ่น) อย่างไรก็ตาม ควรแนะนำสัตว์เลี้ยงใหม่อย่างช้าๆ และมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์เป็นไปในทางที่ดีและไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงพิการเครียด
การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
การวางแผนล่วงหน้าสามารถช่วยให้คุณและสัตว์เลี้ยงพิการมีความพร้อมสำหรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต:
การวางแผนทางการเงิน
- งบประมาณสำหรับการดูแลต่อเนื่อง: วางแผนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล อุปกรณ์ และยาที่จำเป็น
- กองทุนฉุกเฉิน: เก็บเงินสำรองสำหรับความต้องการทางการแพทย์ที่ไม่คาดคิด
- การประกันสัตว์เลี้ยง: พิจารณาทางเลือกที่ครอบคลุมภาวะที่มีอยู่เดิม
- การวางแผนการดูแลในอนาคต: คิดถึงใครที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงหากคุณไม่สามารถทำได้ชั่วคราว
- พินัยกรรมและการวางแผนทรัพย์สิน: รวมการจัดการสำหรับสัตว์เลี้ยงพิการในการวางแผนทรัพย์สินของคุณ
การเตรียมพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน
- แผนอพยพ: พัฒนาแผนสำหรับพาสัตว์เลี้ยงพิการออกจากบ้านในกรณีฉุกเฉิน
- ชุดปฐมพยาบาล: เตรียมชุดปฐมพยาบาลที่มีรายการพิเศษที่สัตว์เลี้ยงของคุณอาจต้องการ
- บัตรข้อมูลฉุกเฉิน: สร้างบัตรที่ระบุความพิการและความต้องการพิเศษของสัตว์เลี้ยง
- การติดต่อสำรอง: มีรายชื่อคนที่สามารถช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณในกรณีฉุกเฉิน
เครื่องมือเตือนทางการแพทย์: ป้ายหรือแท็กที่ระบุว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงพิการที่บ้าน
สรุป
การดูแลสัตว์เลี้ยงพิการอาจมีความท้าทาย แต่ก็นำมาซึ่งรางวัลและความสุขที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ด้วยความรัก ความอดทน และการดูแลที่เหมาะสม สัตว์เลี้ยงพิการสามารถมีชีวิตที่มีความสุขและสมบูรณ์ได้ สิ่งสำคัญคือการจดจำว่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้มองว่าตัวเองพิการ พวกเขาเพียงแค่ปรับตัวและดำเนินชีวิตในแบบที่รู้จัก
การจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การดูแลทางการแพทย์ที่ดี และการสนับสนุนทางอารมณ์ จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงพิการของคุณเติบโตและมีความสุข การเปิดใจและเรียนรู้จากประสบการณ์นี้จะทำให้ทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงได้รับประโยชน์มากมาย
อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว มีชุมชนที่พร้อมสนับสนุนและให้คำแนะนำในการเดินทางนี้ ความท้าทายอาจมีอยู่ แต่ความรักและมิตรภาพที่คุณและสัตว์เลี้ยงพิการของคุณแบ่งปันกันทำให้ทุกอย่างคุ้มค่า
#สัตว์เลี้ยง #สาระ #สัตว์เลี้ยงพิการ #วิธีดูแลสุนัขพิการ #อุปกรณ์ช่วยเหลือแมวพิการ #รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยง #กายภาพบำบัดสัตว์ #สุนัขตาบอด #การดูแล #แมวอัมพาต #สัตว์เลี้ยงหูหนวก #การรับเลี้ยงสัตว์พิการ #คุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงพิการ