–
การซื้อบ้านแบบไม่มีเงินดาวน์ หมายถึง การซื้อบ้าน แบบที่ต้องการขอกู้จากทางธนาคารเต็มมูลค่าของบ้าน 100% คนที่เลือกทางนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีเงินเก็บสำรอง ต้องการซื้อบ้านด่วน หรือแม้แต่คนที่ต้องการซื้อทั้งบ้านและมีงบประมาณสำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งไปพร้อม ๆ กัน ไม่ได้ถือเป็นทางเลือกที่ดีนะคะ เพราะว่ามันตามมาด้วยภาระดอกเบี้ยมากมายที่เราต้องจ่ายนั่นเอง ยิ่งเราวางเงินดาวน์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะเราก็จะเสียดอกเบี้ยน้อยลงตามไปด้วย แต่สำหรับใครที่ต้องการกู้แบบ 100% โดยไม่วางเงินดาวน์ ก็มีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกันค่ะ ซึ่งวันนี้ทาง Homeday ก็นำมาฝากกันถึง 6 วิธีเลย จะมีวิธีไหนบ้างนั้น ติดตามอ่านต่อในบทความนี้กันได้เลยค่ะ
@homeday.co.th ซื้อบ้านแบบไม่มีเงินดาวน์ได้ไหม? 🤔 #ซื้อบ้าน #รู้หรือไม่ #บ้านหลังแรก #ความรู้อสังหา #เงินดาวน์ #กู้100 #ซื้อบ้านเงินผ่อน ♬ I Can Feel It v3 – Nick Sena and Danny Echevarria
1. มาตรการ LTV กู้ซื้อบ้านได้ 100%
การผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปี 2565 นี้ ทำให้บ้านที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ไม่ต้องวางเงินดาวน์ แถมยังกู้ตกแต่งเพิ่มได้อีก 10% อีกด้วย
2. ทำสัญญาที่ 2 ที่มีราคาสูงกว่า
เทคนิคนี้ เป็นวิธีการที่ใช้กันโดยทั่วไปค่ะ ในกรณีที่ผู้ซื้อ อยากกู้ได้ 100% ขึ้นไป โดยจะทำสัญญาที่ 1 ตกลงจะซื้อจะขายเอาไว้ในราคาหนึ่ง และทำสัญญาที่ 2 ในราคาที่จะนำไปขอกู้ธนาคารอีกราคาหนึ่ง เช่น บ้านราคา 2.5 ล้านบาท ทำสัญญาที่ 1 ที่จะจ่ายกับทางโครงการเอาไว้ 2.5 ล้านบาท และทำสัญญาที่ 2 อีกฉบับ เพื่อนำไปขอยื่นกู้กับทางธนาคารโดยเฉพาะในราคา 3 ล้านบาท หากทางธนาคารเข้ามาประเมินหน้างาน และตีราคาเอาไว้เท่ากับ หรือมากกว่ามูลค่าในสัญญาที่ 2 เราก็จะได้วงเงินกู้บ้าน 100% ขึ้นไปเลยค่ะ วิธีนี้เป็นการกู้เกินวงเงินนั่นเอง แต่อย่าลืมนะคะ ว่ายิ่งกู้เกินมาก ก็ยิ่งมีภาระดอกเบี้ยมากตามไปด้วย และการพิจารณาประเมินมูลค่าบ้าน-คอนโด ของทางธนาคาร ก็มีโอกาสที่จะน้อยกว่าสัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 1 ได้ค่ะ เท่ากับว่าก็มีความเสี่ยงที่จะกู้ได้ไม่ถึง 100% อยู่ด้วยค่ะ
3. ส่วนลดโครงการ
กรณีนี้ คล้ายกันกับข้อที่ 2 เลยค่ะ แตกต่างกันที่มาในรูปแบบของส่วนลดจากทางโครงการนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น โครงการทำหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายเอาไว้ที่ 3 ล้านบาท พร้อมแนบเอกสารส่วนลดให้อีก 500,000 บาท ราคาซื้อขายจริงจึงอยู่ที่ 2.5 ล้านบาท แต่ตอนยื่นกู้ เรานำไปเฉพาะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกับโครงการไว้มูลค่า 3 ล้านบาท เมื่อธนาคารเข้ามาประเมินบ้านของเราได้ที่ราคา 3 ล้านบาทเช่นเดียวกัน เราก็จะสามารถขอกู้ได้เกิน 100% ไปเลยนั่นเองค่ะ
4. กู้ร่วม มีโอกาสกู้ได้ 100%
ใครที่มีแพลนจะซื้อบ้านอยู่กับครอบครัว แฟน พี่-น้อง วิธีการกู้ร่วมเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งค่ะ เพราะจะทำให้มีรายได้รวมกันที่มากขึ้น รับกับภาระหนี้สินได้มากขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้ทางสถาบันการเงินมีโอกาสให้กู้ได้สูงสุดถึง 100% กันเลยทีเดียว แต่เรื่องการกู้ร่วมก็มีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ต้องระมัดระวังอยู่เยอะพอสมควร หากสนใจเลือกทางนี้ ก็ควรศึกษาปัญหา ข้อเสีย ข้อจำกัดต่าง ๆ ของการกู้ร่วมเอาไว้ให้ละเอียดถี่ถ้วนด้วยค่ะ
5. ซื้อกับโครงการบริษัทใหญ่
ยิ่งเป็นโครงการจากทางบริษัทใหญ่ที่ทางธนาคารกำหนดไว้ ก็มีโอกาสที่จะกู้ได้ถึง 100% ค่ะ ยกตัวอย่างบริษัทอสังหารายใหญ่ในไทยก็ได้แก่ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน), บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน), บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จํากัด (มหาชน), บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) และอื่น ๆ นอกจากจะมีโอกาสกู้ได้เต็มวงเงินแล้ว ยังได้บ้านที่ดีมีคุณภาพอีกด้วยค่ะ
6. สวัสดิการ ธอส.
ในข้อนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสนี้ค่ะ แล้วแต่บริษัทที่เราสังกัดทำงานอยู่เลย ว่าเขาได้ทำการร่วมมือกับทาง ธอส. เพื่อจัดสวัสดิการส่วนนี้ให้กับพนักงานหรือไม่ หากบริษัทของใครมีสวัสดิการนี้ก็ถือว่าโชคดีที่เดียวค่ะ เพราะทาง ธอส. ปล่อยเงินกู้ให้สูง 90-100% ของราคาประเมิน ทั้งบ้าน-คอนโด มือหนึ่งและมือสอง และยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกมากกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ อีกด้วย วิธีการผ่อนก็หักออกจากเงินเดือนของเราอัตโนมัติเลยนั่นเองค่ะ
และนี่ก็เป็นทั้งหมด 6 วิธีในการซื้อบ้านแบบไม่มีเงินดาวน์ หรือขอกู้ 100% ที่เรานำมาฝากทุกคนกันค่ะ ขอย้ำอีกครั้งว่า การเลือกวิธีนี้ เป็นทางออกสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาสภาพคล่องทางการเงินส่วนบุคคลเอาไว้จริง ๆ เพราะมันตามมาด้วยดอกเบี้ยจำนวนมากเลยล่ะค่ะ ที่เราต้องผ่อนจ่ายกันต่อไป ดังนั้น หากใครที่พอมีเงินเก็บอยู่แล้ว แนะนำให้วางเงินดาวน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปเลย จะได้แบ่งเบาภาระในส่วนของดอกเบี้ยลงไป ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่ากว่าอย่างแน่นอนค่ะ