กำลังจะเลี้ยงบูลด็อกต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องแวะมาอ่านบทความนี้ของ Homeday กันก่อนเลยนะคะ เพราะ Homeday จะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับ บูลด็อก น้องหมาหน้าเศร้า รักสงบ ที่ดื้อไม่เบา แต่น้องไม่ได้เลี้ยงยากหรือดูแลยากนะคะ เพียงแค่เพื่อน ๆ ต้องเข้าใจน้องบูลด็อก และเลี้ยงอย่างถูกต้องและเหมาสม รับรองว่าแฮปปี้ทั้งน้องหมาและเจ้าของอย่างแน่นอน
บูลด็อกมาจากไหน
บูลด็อก หรือ อิงลิช บูลล์ด็อก สุนัขที่ถูกใช้เป็นสัตว์ในเกมส์กีฬาต่อสู้กับวัว หรือกระทิง มาอย่างยาวนานสมัยอดีต ในประเทศอังกฤษ จึงสันนิษฐานว่าบูลด็อกนั้นมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ และแพร่หลายไปสู่ประเทศอื่นจนได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสำหรับครอบครัวในปัจจุบัน
ลักษณะภายนอกของบูลด็อก
บูลด็อกมีจุดเด่นที่ใบหน้าย่น ดูเศร้า ง่วงนอนตลอดเวลา และรูปร่างที่อ้วนตัน เป็นสุนัขสายพันธุ์จมูกและหน้าสั้น ขนสั้น เงางา ซึ่งบลูกด็อกมีหลากลายสี และมีลายสลับสี น้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 20-25 กิโลกรัม สูงประมาณ 30 เซนติเมตร ถือว่าเป็นสุนัขพันธุ์เตี้ย และบูลด็อกมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 8 ปี
นิสัยใจคอของบูลด็อก
-
- บูลด็อก อ่อนโยน อารมณ์ดี ขี้เล่น
- ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ
- กล้าหาญ เฝ้าบ้าน และรักษาทรัพย์สินได้ดี
- ฉลาด เรียนรู้ได้ เชื่อฟังคำสั่งและสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้ดี
- เข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นและเด็กได้ ไม่ดุร้าย
การดูแลบูลด็อก
-
- ขนและผิวหนัง : บูลด็อกเป็นสุนัขที่ต้องคอยดูแลความสะอาดของขนและผิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะเสี่ยงเป็นโรคผิวหนังได้ง่าย และควรเช็ดทำความสะอาดบริเวณผิวที่มีรอยย่น รอยพับให้แห้งทุกวัน
- การออกกำลัง : ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน แต่ไม่ออกกำลังกายหนัก ให้สุนัขได้ใช้พลังงานบ้าง แต่ออกนานไม่ได้เนื่องจากบูลด็อกจมูกสั้น อาจเหนื่อยง่ายและหายใจลำบาก
- อาหาร : ให้อาหารสำหรับสุนัข ที่มีคุณภาพ มีสารอาหารครบถ้วน ในปริมาณที่เหมาะสม วันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารคน และกระดูก ถึงแม้จะเป็นกระดูกที่ต้มหรือชิ้นเล็กก็ตาม
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงบูลด็อก
-
- บูลด็อกไม่สามารถอยู่ในที่อากาศร้อนได้นาน ๆ เพราะเป็นสุนัขจมูกสั้นทำให้หายใจลำบาก
- บูลด็อกมีกล้ามเนื้อแน่น และน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก ไม่เหมาะสำหรับเจ้าของที่ตัวเล็ก หรือปล่อยไว้กับเด็กเพียงลำพัง เพราะบูลด็อกอาจเล่นแรง หรือเจ้าของอาจจะรับน้ำหนักสุนัขไม่ไหว
- ต้องมีเวลาฝึกฝนและสอนให้บูลด็อกเรียนรู้ข้อจำกัด การรับคำสั่ง ตั้งแต่ยังเล็ก และฝึกฝนเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- บูลด็อกอ้วนง่าย ต้องมีเวลาพาเดิน หรือทำกิจกรรมทุกวัน อย่างน้อย 30 นาที
- บูลด็อกเข้ากับเด็กได้ดี แต่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้อยู่กับเด็กเพียงลำพัง เพราะบูลด็อกแรงค่อนข้างเยอะ
ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในบูลด็อก
-
- โรคผิวหนัง : ต้องคอยดูแลความสะอาดอยู่เสมอ
- โรคกระดูกและข้อ : เนื่องจากบูลด็อกมีน้ำหนักตัวมากและขาสั้น มักจะพบปัญหาข้อสะโพกเสื่อม และโรคลูกสะบ้าเคลื่อน
- โรคระบบทางเดินหายใจ : สุนัขที่มีโครงหน้าสั้นมักจะเกิดโรคทางระบบเดินหายใจ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอได้ทำความรู้จักบูลด็อกสุนัขหน้าเศร้า แต่นิสัยน่ารักสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมคะ ใครกำลังจะตัดสินใจเลี้ยงบูลด็อกต้องมั่นใจว่ามีเวลาดูแล และมีเวลาเล่นกับน้องด้วยนะคะ ถึงแม้บูลด็อกจะไม่ก้าวร้าว เลี้ยงเฝ้าบ้านได้ แต่บูลด็อกก็เป็นสุนัขที่เหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของน้องนะคะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 25 คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ปี 2566 Pet Friendly แบบไม่ต้องแอบ ตอบโจทย์ คนรักหมา รักแมว
- มาออกกำลังกาย ไปกับเพื่อนซี้สี่ขา ที่ PET ZONE @สวนป่าเบญจกิติ กัน!
- เลือกซื้ออาหารสุนัขอย่างไร? ให้เหมาะสมกับวัย
- 5 เครื่องฟอกอากาศ สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ดูดได้ทั้งกลิ่นและขน!
- เฟรนช์บูลด็อกเลี้ยงง่ายจริงมั้ย? มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนรับมาเลี้ยงบ้าง?
- รู้จักกับ คอร์กี้ น้องหมาขาสั้นสุดแสบ ขวัญใจชาวเน็ต