7 มาตรการช่วยคนซื้อบ้าน ปี 2565

           ใครอยากซื้อบ้าน ฟังทางนี้! หลังช่วงวิกฤตโควิด ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงัก หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบความเสียหายจากเหตุโรคระบาดนี้ รวมไปถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก็เริ่มมีบ้านมือสองปล่อยเข้ามาสู่ในตลาดมากขึ้น รายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ Q1 ปี 65 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการขายที่อยู่อาศัยมือสองภายในประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 64 สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยนั้น ต้องนำทรัพย์ออกมาขายทอดตลาด แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีกำลังซื้อน้อยในช่วงนี้ ก็มีโอกาสมากขึ้นตามไปด้วย ส่วนใครที่ลังเล ยังไม่กล้าที่จะรับภาระหนี้ ต้องลองดูทั้ง 7 มาตรการช่วยคนซื้อบ้าน ปี 2565 ที่เรานำมาฝากกันดูก่อนค่ะ บางมาตรการก็ใกล้จะหมดเขตแล้วด้วย และอาจจะไม่ได้ต่อระยะเวลาให้ ก็จะพลาดไปอย่างน่าเสียดายค่ะ

1. ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว

           หลังจากภาคอสังหาริมทรัพย์ทรุดหนัก จากเหตุการระบาดของโควิด-19 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและพยุงการจ้างงาน จึงควรเร่งเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็งหรือรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้ ด้วยการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปีนี้

2. มาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง

           เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประเภท ง ตอนพิเศษ เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และนิติกรรมจาก 2% เหลือ 0.01% ค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ครอบคลุมที่อยู่อาศัยประเภทบ้านมือสอง/ปรับปรุงโครงสร้างหนี้นอกจากบ้านใหม่เพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกไปอีก 1 ปี

3. อัตราค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังเป็นของปี 2563-2564

           อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2565-2566 จะคงอัตราภาษีในอัตราเดิมเท่ากับปี 2563-2564 แต่จะไม่มีการลดอัตราภาษีเหลือ 10% จึงทำให้จำนวนภาระภาษีที่ต้องเสียจะสูงกว่าในปี 2563-2564 และจะทำการปรับอัตราภาษีอีกครั้งในปี 2567

4. โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 2

           จากความสำเร็จของโครงการเฟสแรก และเพื่อให้ผู้ที่มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ราคาไม่แพง ดอกเบี้ยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ทำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ ธอส. สานต่อโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือ โครงการบ้านล้านหลัง เฟสที่ 2 โดยปรับกรอบวงเงินโครงการเพิ่มอีกจำนวน 20,000 ล้านบาทค่ะ

5. มาตรการสนับสนุนการรีไฟแนนซ์ และการรวมหนี้

          หลังจากที่แบงก์ชาติได้ออกมาตรการแก้หนี้ระยะยาวในเดือนกันยายน 2564 ยังพบว่าลูกหนี้ยังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ​จึงได้ออกมาตรการสนับสนุนการรีไฟแนนซ์ (refinance)* และการรวมหนี้เพิ่มเติม เพื่อช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีหรือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19

6. ขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ ขอคืนภาษีได้

           สำหรับคนที่ขายบ้านเก่า แล้วซื้อบ้านใหม่ภายใน 1 ปี หรือซื้อบ้านใหม่ก่อน แล้วค่อยขายบ้านเก่าภายใน 1 ปีก็ตาม โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเก่าไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเก่าและหลังใหม่รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี สามารถขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายบ้านหลังเก่าได้ ซึ่งเรื่องนี้หลายคนไม่รู้ว่าสามารถขอคืนภาษีได้และไม่มีกำหนดวันหมดอายุอีกด้วย

7. ราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังเป็นของรอบปี 2559-2562

          กรมธนารักษ์เลื่อนใช้ราคาประเมินรอบใหม่ไปเป็นวันที่ 1 มกราคม 2566 แทน โดยจะประกาศราคาประเมินรอบใหม่ภายในเดือน ธันวาคม 2565 สามารถเช็กราคาประเมินที่ดินปัจจุบันได้ที่ ระบบเผยแพร่ราคาประเมินทรัพย์สิน

           เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทั้ง 7 มาตรการช่วยคนซื้อบ้าน ปี 2565 ที่เรานำมาฝากกัน มีเงื่อนไขใดที่พอจะช่วยแบ่งเบาภาระของทุกคนไปได้บ้างมั้ยคะ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 รมว.การคลัง เตรียมหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) เพื่อขยายมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดอายุในสิ้นปี 2565 นี้ โดยเบื้องต้นอยากจะขยายเพิ่มไปอีก 1 ปีค่ะ อย่างไรก็ต้องติดตามมาตรการต่าง ๆ กันต่ออย่างใกล้ชิดนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด