–
![](https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/content/2021/7/37915420-8f71-4474-ac42-e450cf08ff1b.png)
ถึงแม้จะมีหลายกระแสออกมาบอกว่าการลงทุนอสังหากำลังเข้าสู่ขาลง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ที่อยู่อาศัยกำลังมีภาวะฟองสบู่ หรือกระทั่งรายได้เฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ลดน้อยลงก็ตามที แต่ถ้าสังเกตให้ดี เราจะเห็นว่าการขยายตัวของธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ค่อนข้างสวนทางกับกระแสดังกล่าวมากพอสมควร มีคอนโดและโครงการบ้านใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แถมราคาก็ยังพุ่งสูงกว่าเมื่อก่อนค่อนข้างมาก ทำให้ช่องทางการทำเงินของนักธุรกิจอสังหามีเพิ่มขึ้นตามไปด้วยค่ะ
หากมีความสนใจ และอยากริเริ่มลงทุนในช่วงนี้ ก็ไม่ใช่ช่วงที่เลวร้ายอะไรนะคะ แต่จะต้องปรับตัวให้เก่ง และหาข้อมูลให้ไวเท่านั้นเองค่ะ ต่อไปนี้คือ 5 ช่องทางการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ พร้อมทั้งมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ลองไปดูกันค่ะ ว่ามีช่องทางอะไรบ้าง
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยวิธีรีโนเวทขาย
ปกติแล้วการรีโนเวทที่อยู่อาศัยเพื่อขายต่อจะนิยมทำกับบ้านมือสองเท่านั้น เพราะเราสามารถหาบ้านในเรทราคาที่ต้องการได้ง่ายกว่า และอันที่จริงบ้านมือหนึ่งที่พึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จมันก็ไม่มีอะไรจำเป็นต้องรีโนเวทอยู่แล้ว ต่อให้ฝืนทำก็จะได้ราคาส่วนต่างไม่คุ้มค่าเหนื่อยอยู่ดี คนที่อยากลงทุนในลักษณะนี้จะต้องมีทักษะในการเลือกซื้อบ้านเป็นสำคัญ ต้องสามารถดูในเบื้องต้นได้ว่าบ้านหลังที่กำลังสนใจนั้นสภาพโดยรวมเป็นอย่างไร สอดคล้องกับราคาที่ผู้ขายเสนอมาหรือไม่ แล้วก็ยังต้องคิดเผื่อไปถึงขั้นตอนการรีโนเวทด้วยว่า เมื่อทำออกมาแล้วมูลค่าของบ้านจะเพิ่มขึ้นประมาณเท่าไร
***จุดแข็งของการลงทุนอสังหาในลักษณะนี้ก็คือมีวัตถุดิบกับกลุ่มลูกค้าค่อนข้างเยอะ ขอแค่มีมุมมองในการรีโนเวทบ้านที่โดดเด่นดูมีสไตล์ก็พอแล้ว
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเป็นนายหน้า
สิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ อาชีพนายหน้าในทุกวงการนั้นสามารถสร้างเงินได้มหาศาล แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำตัวเป็นนายหน้าแล้วจะรุ่งเรืองบนเส้นทางนี้ เนื่องจากการเป็นนายหน้าที่ดีไม่ใช่แค่มองเห็นเฉพาะส่วนต่างที่ตัวเองจะได้เท่านั้น ไม่งั้นมันก็เป็นเพียงการซื้อมาขายไปไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆ ที่เขาก็ทำธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน
คุณสมบัติหลักของนายหน้าลงทุนอสังหาจะต้องเริ่มจากประสานงานเก่ง รู้จักที่จะมองหาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดีแต่ราคาถูก พร้อมกับรู้จังหวะและช่องทางที่เหมาะสมในการขายของออกไป หากลูกค้าเกิดปัญหาอะไรก็ไม่ทอดทิ้ง คอยตามเก็บรายละเอียดในส่วนที่ตัวเองทำให้ได้อย่างเต็มที่ เมื่อทำได้แบบนี้ นอกจากจะได้กำไร เราอาจจะความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อเป็นการสร้างเครดิตให้กับตนเอง
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการปล่อยเช่า
การปล่อยเช่า คืออีกหนึ่งธุรกิจอสังหาแบบเสือนอนกินที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ มาถึงวันนี้ก็ยังเป็นแนวทางที่น่าสนใจอยู่ แต่ถ้าปล่อยเช่าให้ใครก็ได้ ทั้งแบบรายวัน และรายเดือนเหมือนอย่างที่เคยทำกันมา มันก็เริ่มจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเสียแล้ว ด้วยค่าแรงที่สูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รายได้ที่เข้ามาอาจจะต้องหมดไปกับการจ่ายให้ระบบทำงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด ค่าบำรุงรักษาอาคาร เป็นต้น
ดังนั้นแนวทางที่จะต่อยอดไปได้อีกในอนาคตก็คือ การปล่อยเช่าแบบเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีกำลังทรัพย์มากพอ อาจจะเป็นกลุ่มคนทำงานหรือกลุ่มนักศึกษา ขึ้นอยู่กับว่าอสังหาริมทรัพย์ของเราตั้งอยู่ในทำเลแบบไหน แล้วก็จำกัดรูปแบบให้เป็นการเช่าในระยะยาวเท่านั้น เงื่อนไขแบบนี้จะทำให้เราตั้งค่าเช่าได้สูงกว่าแล้วก็ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพมากกว่าด้วย
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเก็งกำไร
ขึ้นชื่อว่าเก็งกำไรก็ต้องอาศัยความไวเป็นหลัก นักเก็งกำไรมีอยู่ในทุกที่ และจับสินค้าได้ทุกประเภท ตั้งแต่สินค้ากระแสชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เป็นการทำธุรกิจอสังหาในลักษณะเล่นรอบ คือทำอย่างไรก็ได้ให้สามารถซื้อสินค้าซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการได้ก่อนคนอื่นในราคาพิเศษ จากนั้นจึงขายต่อในราคาปกติเพื่อเอาส่วนต่าง
สำหรับวงการลงทุนอสังหาเราจะเห็นคนเก็งกำไรได้บ่อยในรูปแบบของการจับจองที่อยู่อาศัย เพราะในแต่ละช่วงเวลาของการก่อสร้าง ราคาจะแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คนที่จะทำกำไรได้มากที่สุดก็คือลงทุนซื้อตั้งแต่ยังไม่ได้มีการก่อสร้างจริง แต่นั่นก็มาพร้อมกับระดับความเสี่ยงที่สูงที่สุดด้วย รองลงมาก็คือคนที่จองในช่วง Pre sale คนที่คิดจะเป็นนักเก็งกำไรจะต้องมีเงินทุนสำรองพอสมควร และต้องอ่านขาดว่าอสังหาริมทรัพย์ที่เล็งเอาไว้จะทำกำไรได้จริงหรือไม่
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กับกองทุน
ก่อนหน้านี้ทั้งหมดจะเป็นแนวทางการลงทุนที่นักลงทุนต้องลงสนามด้วยตัวเอง แต่ประเด็นนี้จะเป็นการฝากให้คนอื่นทำงานแทน นั่นก็คือการลงทุนกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนประเภทนี้จะทำหน้าที่ระดมเงินในลักษณะของการขายหน่วยลงทุนอสังหา โดยราคาต่อหน่วยลงทุนจะเป็นเท่าไร ก็แล้วแต่การกำหนดของกองทุนนั้นๆ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว และเมื่อทางกองทุนสามารถระดมทุนได้มากพอ ก็จะนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่อด้วยวิธีการแบบใดแบบหนึ่ง อาจจะเป็นการซื้อแล้วรีโนเวทเพื่อขายต่อก็ได้ จะเป็นการซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็ได้ อยู่ที่ว่ากระแสช่วงนั้นอะไรน่าสนใจที่สุด สิ่งที่จะได้จากการลงทุนแบบนี้ก็คือเงินปันผล คล้ายคลึงกับการซื้อหุ้นปันผลระยะยาวนั่นเอง เพียงแต่มีคนที่เก่งด้านการลงทุนบริหารให้ ข้อดีคือใช้ต้นทุนค่อนข้างน้อย ไม่ต้องเหนื่อยดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง อาจจะแค่ติดตามความคืนหน้ากับผู้เชี่ยวชาญของกองทุนบ้างเป็นครั้งคราว
***ข้อเสียตรงของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กับกองทุน มันมีผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุนแบบอื่นๆ
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบไหน ก็ต้องมีการปรับตัว และติดตามข่าวสาวอย่างสม่ำเสมอค่ะ ในวงการนี้คนที่รู้ข่าวก่อนจะได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย และจะช่วยให้เกิดการตัดสินใจได้ทันกับช่วงเวลาที่ถูกต้องอีกด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่ากว่าจะรู้ข่าว กว่าจะประมวลผลเสร็จเรียบร้อย ตลาดก็วายไปหมดแล้ว แบบนี้คงไม่ดีแน่ใช่ไหมคะ นอกจากนี้ก็ควรจะศึกษาหาความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เอาไว้ด้วยค่ะ เพราะจะช่วยให้เราสามารถเลือกลงทุนในหลายๆ ช่องทางพร้อมกันได้ แถมยังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ