สถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และมหาวิทยาลัยรังสิต จัดงานเปิดตัวรายงาน “เรื่องสิทธิในการซ่อม” อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Right to Repair) ในบริบทของประเทศไทย” เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญเร่งด่วนในการนำกฎหมายสิทธิในการซ่อม (R2R) มาใช้ในประเทศ สนับสนุนอุตสาหกรรมซ่อม ที่อาจลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยที่มีปริมาณมากถึง 450,000 ตันต่อปี รวมถึงส่งเสริมแนวทางการบริโภคอย่างยั่งยืน โดยมีนายเอ็ดเวิร์ด แรตคลิฟฟ์ [คนแรกจากขวา] กรรมการบริหาร สถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดร.ถนอมลาภ รัชวัตร์ [คนที่ 6 จากซ้าย] นักวิจัยอาวุโส สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรังสิต และดร. กฤษฎา แสงเจริญทรัพย์ [คนที่ 2 จากซ้าย] คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมเป็นวิทยากร ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวทางนโยบายที่สำคัญในขณะที่ร่างกฎหมาย ‘Lemon Law’ ของประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการทบทวน

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายกฤช เอื้อวงศ์ [คนที่ 7 จากซ้าย] ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ สถาบันการศึกษา และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ณ ห้องประชุมมารุต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ ห้อง 211 (ห้องศาลจำลอง มารุต บุนนาค) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ทั้งนี้ รายงานที่เพิ่งเผยแพร่ได้เปิดเผยว่า 54% ของร้านซ่อมอิสระไม่มีการเข้าถึงคู่มือการซ่อม และ 96% ของร้านซ่อมพบความยากลำบากในการหาชิ้นส่วนจากผู้ผลิต ซึ่งสะท้อนถึงอุปสรรคที่ผู้บริโภคและธุรกิจซ่อมแซมต้องเผชิญ ด้วยจำนวนสมาร์ทโฟนที่จัดส่งในปี 2023 ถึง 14 ล้านเครื่อง และคาดการณ์ว่านำเข้าสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นเป็น 97% ภายในปี 2029 จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านการซ่อมแซมและการบริโภคที่ยั่งยืน