13 ทางผีผ่านในบ้าน รีบเช็ก ก่อนจะเผลอเลี้ยงผีโดยไม่รู้ตัว!

          ความเชื่อ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างช้านาน บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่สอดคล้องกัน บางเรื่องก็เป็นเพียงกุศโลบายที่สร้างขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต บางเรื่องก็เป็นเพียงสิ่งที่ถูกเล่าตกทอดส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นในการเลือกซื้อบ้าน, การสร้างบ้าน, การซื้อคอนโด หรือการเช่าคอนโดสักห้องเพื่ออยู่อาศัย คนไทยส่วนใหญ่ ก็มักที่จะตรวจสอบ จุดผิดปกติ หรือจุดที่ไม่เหมาะสมในบ้านก่อนเป็นลำดับแรก บางคนก็จ้างซินแสมาช่วยตรวจดูเพื่อความสบายใจ เรียกได้ว่า การตรวจเช็กความเรียบร้อยในงานก่อสร้าง และการตรวจเช็กฮวงจุ้ย เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กันเลยก็ว่าได้ วันนี้ Homeday นำ 13 ทางผีผ่านในบ้าน มาให้ได้เช็กกัน พร้อมทางแก้แบบง่าย ๆ ตามความเชื่อ จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลยค่ะ

@homeday.co.th 🏚️ 13 ทางผีผ่านในบ้าน รีบเช็กก่อนจะเผลอเลี้ยงผีโดยไม่รู้ตัว💀 #เรื่องผี #ทางผีผ่าน #บ้านผีสิง #ฮวงจุ้ย #แต่งบ้าน #หลอน #บ้านมีผี #ฮาโลวีน #เรื่องสยอง #ผี #ผีในห้อง #ผีในบ้าน ♬ Horror, suspense, weirdness, ghost, UFO – Zassh

1. บ้านร้างที่พักฟรีของผีเร่ร่อน

           ใครมีบ้านหลายหลัง หรือกำลังขายบ้านอยู่ อย่าปล่อยบ้านของท่านให้ไม้เถาเลื้อยขึ้นเป็นอันขาด เพราะนั่นคือสัญญาณของการไม่ได้รับการดูแลมาเป็นเวลานาน และในที่สุดก็จะกลายเป็นที่สิงสู่ของวิญญาณผีเร่ร่อน ตามความเชื่อ ดังนั้น ควรหมั่นเข้าไปดูแลทำความสะอาด ถางหญ้าที่ขึ้นรก เช็กกลอนประตู หน้าต่าง ให้แน่หนา เพราะบ้านที่ถูกทิ้งร้าง ไม่ได้เป็นที่หมายปองเฉพาะผีเท่านั้น แต่คนเร่ร่อน เด็กติดยา ก็ชอบสถานที่แบบนี้ด้วยเช่นกัน

2. ห้องนอนไม่มีคนนอน ระวัง…มานอนแทน

           เช่นเดียวกันกับบ้านร้างค่ะ บ้านที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน หากมีจำนวนห้องที่มากเกินไป จนไม่สามารถใช้งานได้ครบทุกห้อง หรือแม้แต่ห้องนอนสำหรับแขก ไม่ควรจัดเตรียมที่นอนหมอนมุ้งไว้อย่างดี เสมือนเชื้อเชิญให้ใครสักคนเข้ามาพักโดยเด็ดขาด ห้องที่ปิดไม่ได้ใช้งาน จะเป็นศูนย์รวมของวิญญาณต่าง ๆ เป็นแหล่งรวมของพลังงานเย็น เวลาเดินผ่านจะรู้สึกขนลุกแปลก ๆ ห้องนอนที่ไม่มีคนนอน ต้องไม่มีเตียง ไม่มีหมอน ไม่มีผ้าห่มใด ๆ ทั้งสิ้น หากไม่สะดวกที่จะจัดกับเตียงนอนและฟูกนอน ก็ควรคลุมเตียงและฟูกกันฝุ่นเอาไว้ ส่วนหมอน ผ้าปู ผ้าห่ม ต่าง ๆ เก็บเข้าตู้ไว้ให้มิดชิดเลยค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ผีเท่านั้นนะคะ ที่อยากจะนอน แต่บรรดาฝุ่น ไร และเชื้อโรค ก็อยากมาขอนอนด้วยเช่นกัน ทางที่ดีควรเปิดประตูและหน้าต่างของห้องนั้นเป็นประจำ เพื่อให้พลังงานร้อนเข้ามาแทนที่พลังงานเย็นนั่นเอง

3. นอนใต้ขื่อบ้าน ระวังเจอดี

           ในสมัยก่อน การสร้างบ้านนั้น มักจะนำต้นไม้ใหญ่มาสร้างค่ะ ยิ่งมีขนาดใหญ่มาก ก็แปลว่าต้นไม้ต้นนั้นอยู่มานานมากด้วยเช่นกัน จึงทำให้ต้นไม้เหล่านั้น มักจะเป็นที่สิงสู่ของเหล่าวิญญาณนั่นเอง พอตัดไม่มาสร้าง ทำเป็นบ้าน วิญญาณเหล่านั้นก็จะติดตามมาด้วย ส่วนช่วงเวลาที่ผีจะหลอกคนได้ ก็มักจะต้องเป็นช่วงเวลากลางคืน ดังนั้นเตียง จึงเป็นทำเลเหมาะ สำหรับการหลอกคนนั่นเอง การวางเตียงนอนไว้ใต้ ขื่อ หรือ คาน มักทำให้โดยผีอำ, ฝันร้าย หรือมีอาการเจ็บป่วยไม่สบายอยู่บ่อย ๆ หรือในหลักตามความเป็นจริงนั้น การนอนใต้ขื่อ ก็มีความเสี่ยง เพราะมันอาจหล่นลงมาทับเราได้นั่นเอง 

4. อยากโดนผีอำ ให้นอนขวางประตู

           นอกจากจะวางเตียงใต้ขื่อไม่ได้แล้ว ก็ห้ามวางเตียงให้ทิศทางเท้าหันไปทางประตูห้องนอนอีกด้วย เพราะมันเป็นทางผีผ่าน หรือเป็นลักษณะของการนำศพออกมาด้วยนั่นเอง การนอนโดยยื่นปลายเท้าไปทางประตูห้อง จะส่งผลให้เรานอนฝันร้าย, โดนผีอำ ไปจนถึงเจ็บป่วยไม่สบายได้ แต่หากใครอยากลองดีล่ะก็ ให้ทดลองด้วยการนอนขวางติดชิดประตูดูค่ะ รับรองว่าแรงกว่าหันเท้าตรงกับประตูแน่นอน

5. ประตูตรงกัน 2 บาน ผีผ่านฉลุย

            ไม่ว่าจะเป็นประตูตรงกัน 2 บาน หรือ 3 บาน ทางความเชื่อของคนโบราณก็ถือว่าเป็นทางผีผ่านเหมือนกันค่ะ วิธีการแก้ก็จะมี 3 วิธีหลัก ๆ วิธีแรก คือการติดตั้งฉากกั้นห้อง หรือตู้หนังสือระหว่างประตูแต่ละบาน หากเป็นประตูหน้าบ้าน จะใช้กระถางต้นไม้มาวางก็ได้ วิธีที่ 2 หากไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับการกั้น ให้นำลูกแก้วคริสตัลหรือโคมระย้า มาแขวนเหนือประตูหน้าบ้านแทน วิธีที่ 3 ให้ติดตั้งผ้าม่านกั้นระหว่างทั้ง 3 บาน เลือกวิธีใดวิธีหนึ่งก็เพียงพอแล้ว หากไม่ทำ ก็อาจส่งผลให้มีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นในบ้านของเราได้

6. เซ่นผีที่ทาง 3 แพร่ง

          การเซ่นไหว้ผี มักจะต้องนำขนมของ กินไป ไปไว้ที่ทาง 3 แพร่ง จุดธูป 1 ดอก สวดนะโม 3 จบ ต่อด้วย “อิติเวสสุวัณโณ สัพพะภูโตสุขัง” 7 จบ แล้วอธิษฐานว่า “ใครที่หิวโหย เชิญมากินอาหารเหล่านี้ได้เลย” เพื่อเรียกเหล่าวิญญาณที่หิวโหยให้มากิน จากนั้นให้เดินกลับ โดยอย่าหันหลังไปมองเป็นอันขาด นั่นจึงเป็นเหตุผล ที่บ้านที่ตรงกับทาง 3 แพร่ง ถือเป็นอัปมงคล วิธีแก้มีทั้งหมด 4 วิธี คือการติดกระจกนูนไว้บริเวณหน้าบ้าน, ติดกระจกแปดเหลี่ยมยันต์แปดทิศไว้บริเวณหน้าบ้าน, ทำกำแพงบ้านแบบสูง หรือปลูกต้นไม้ที่มีขนาดสูงกว่ารั้วบริเวณหน้าบ้าน เลือกสักอย่าง หรือจะทำทั้งหมดนี้เลยก็ได้

7. ต้นไม้ผีสิง

         ไม่ใช่ต้นไม้ทุกต้น ที่เราจะสามารถปลูกในบ้านได้ ต้นไม้อย่างตะเคียน, ไทร, กล้วยตานี และโพธิ์ ถือเป็นต้นไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการสิงสู่ของวิญญาณ

8. เงาใครที่ปลายเตียง

           การติดกระจกเงาไว้ที่ปลายเตียง หากบังเอิญตื่นขึ้นมากลางดึกหลังเที่ยงคืน ระวังสิ่งที่สะท้อนออกมาในกระจกจะเป็นคนอื่น ทางแก้ก็คือ เอากระจกบานที่อยู่ปลายเตียงไปไว้มุมอื่น จะดีที่สุด นอกจากความเชื่อเรื่องลี้ลับแล้ว ทางหลักวิทยาศาสตร์ การวางกระจกไว้ที่ปลายเตียง จะส่งผลให้เราสะดุ้งตกใจได้ ไม่ดีต่อสภาพจิตใจอย่างแน่นอน

9. มุมมืด คือที่ชอบที่ชอบของผี

            พลังงานแสง เป็นพลังงานที่ผีและเหล่าวิญญาณ (ส่วนใหญ่) ไม่สามารถสู้ได้ ดังนั้น เราไม่ควรปิดม่านทึบแสงทั้งบ้าน จนทั้งบ้านมืดสนิท และไม่ควรปล่อยให้ห้องใดห้องหนึ่ง หรือมุมใดมุมหนึ่งในบ้าน อับแสงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้พื้นที่บริเวณนั้น เป็นที่สิงสู่ของสิ่งที่มองไม่เห็นได้

10. วิว วัด ป่าช้า สุสาน โรงบาล

            ไม่ใช่เฉพาะวัดเท่านั้น แต่บ้านใครที่อยู่ใกล้กับสุสาน, ป่าช้า, โรงพยาบาล ในลักษณะที่สามารถเปิดหน้าต่างไปเจอได้ ต้องหาทางแก้โดยด่วน ถ้าเผลอจูนกันติดขึ้นมาล่ะก็ ระวังจะโดนตามไม่รู้ตัว เพราะสถานที่เหล่านี้ ล้วนเป็นสถานที่ที่มีคนตายทั้งสิ้น ทางแก้คือการสร้างกำแพงทึบปิดทับไม่ให้มองเห็นไปเลย หากไม่สามารถทำได้จริง ๆ แนะนำให้หาต้นไม้มาปลูกบังช่วงบริเวณที่มองเห็นพื้นที่เหล่านั้นแทน และลดการเปิด-ปิด ประตูหน้าต่างบริเวณนั้นบ่อย ๆ เพียงเท่านี้ก็อยู่ได้อย่างอุ่นใจแล้ว

11. ประตูห้องห้องนอน ตรงกับบันได ผีผ่าน

           ประตูกับบันได หากอยู่ตรงกัน ตามความเชื่อจะถือว่าเป็นทางผีผ่าน เป็นพลังงานเย็นหรือลมที่วิ่งผ่านไปมาบริเวณนั้น ทำให้ได้ยินเสียงหน้าห้องตลอด จึงนอนหลับได้ไม่สบายนั่นเอง ถ้าไม่ใช่บ้านมือสอง หรือคอนโด ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเจอกับปัญหานี้ ยิ่งถ้ามีประตูระเบียงตรงกับประตูห้องอีกต่อหนึ่งด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะอากาศจะโดนดึง ทำให้อึดอัด นอนไม่สบาย ฝันร้าย ดีไม่ดี อาจจะได้เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยก็เป็นได้ วิธีแก้ให้หาซื้อน้ำเต้าปลุกเสกที่เจาะรูแล้วเรียบร้อย มาวางที่หัวนอน หรือแขวงเหนือประตู โดยแขวนให้น้ำเต้าชี้ขึ้น

12. ครัวสกปรก ระวังผีมากินเศษอาหาร

            ครัวสกปรก มีความเชื่อทั้งของคนไทยเอง และของต่างชาติด้วยเช่นกัน คนไทยเชื่อว่าจะทำให้อับโชค ส่วนความเชื่อฝั่งเม็กซิโก กล่าวกันว่า เวลากินข้าวแล้วไม่ล้างจาน จานที่สกปรกจะล่อให้ผีมากัน ผีจะพยายามกินอาหารที่เหลืออยู่ในจาน ทำให้มักได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากในครัวนั่นเอง หรือแม้แต่ศาสนาอิสลาม ก็ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับพวกญิณ ที่มากินเศษอาหารเหลือทิ้งอีกด้วย และก็ไม่ใช่แค่ผีอีกเช่นกัน แมลงสาบ หนู มด ก็ชอบเศษอาหารเหล่านี้ด้วย ทางที่ดีควรล้างจานทุกมื้ออาหาร และเก็บเศษอาหารไปทิ้งในถังขยะนอกบ้านทุกวัน

13. ตั้งศาลในบ้าน ต้องระวัง

            การตั้งศาล ควรตั้งออกมาให้ไกลจากตัวบ้าน เพื่อไม่ให้เงาของตัวบ้านทับศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ และไม่ให้เงาของศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ ไปทับตัวบ้านด้วยเช่นกัน เพราะเชื่อกันว่า จะทำให้บ้านเหมือนถูกวิญญาณเบียดเบียน และส่งผลให้ชีวิตเจอแต่อุปสรรคและปัญหาได้

             และนี่ก็เป็นทั้ง 13 ทางผีผ่านในบ้านที่ต้องระวัง ซึ่งเป็นเพียงความเชื่อที่ส่งต่อกันมาเท่านั้นนะคะ หากเราดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท แม้ว่าบ้าน หรือองค์ประกอบภายในบ้านจะมีจุดผิดพลาดไปบ้าง ไม่ตรงกับสิ่งที่ดีงามตามความเชื่อ ก็ไม่เป็นไรค่ะ หากไม่สบายใจ การแก้ด้วยเครื่องรางตามความเชื่อ ก็สามารถช่วยได้ค่ะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด