อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดตัวแม่ทัพใหม่ช่องทางตัวแทนประกาศความแข็งแกร่ง ลุยสร้างการเติบโต พิชิตเบี้ยรับรวม 2.2 หมื่นล้าน เติบโต 14%

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดตัวแม่ทัพใหม่ช่องทางตัวแทนประกาศความแข็งแกร่ง ลุยสร้างการเติบโต พิชิตเบี้ยรับรวม 2.2 หมื่นล้าน เติบโต 14%

บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดยแม่ทัพช่องทางตัวแทนคนใหม่ อามัน คาพัว ประกาศเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่ง ต่อยอดความสำเร็จช่องทางตัวแทนในปี 2024 พร้อมลุยเติบโตธุรกิจในทุกมิติ ทั้งยอดขาย คุณภาพฝ่ายขาย และขยายตลาดต่างจังหวัด ผ่านกลยุทธ์หลัก ครอบคลุมการพัฒนาคน เสริมแกร่งด้วยเทคโนโลยี และเน้นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้านสุขภาพและการลงทุน ตั้งเป้าช่องทางตัวแทน พิชิตเบี้ยประกันรับรวม 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 14%

มร.อามัน คาพัว รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการบริหารตัวแทน ประกันชีวิตและสุขภาพ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ารับตำแหน่งที่ดูแลบริหารช่องทางตัวแทนของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่มุ่งมั่นในการเสริมศักยภาพตัวแทน รวมถึงมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานของ อลิอันซ์ อยุธยา ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน และยกระดับช่องทางตัวแทนของเราไปอีกขั้น ผมมีความมั่นใจอย่างมากในการร่วมงานกับทีมตัวแทนและพันธมิตรของเรา เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและเดินหน้านวัตกรรมให้กับตลาด

อลิอันซ์ อยุธยา ภูมิใจกับผลงานความสำเร็จของช่องทางตัวแทน ปี 2024 เป็นอย่างมาก โดยในปี 2024 บริษัทสามารถเพิ่มจำนวนการสรรหาตัวแทนใหม่ได้ถึงกว่าหมื่นคน เติบโตขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า และ ขณะเดียวกัน สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรายปี (ANP) ในเดือนธันวาคม 2024 เพียงเดือนเดียว ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปีที่ผ่านมา และส่งผลให้ ANP รวมทั้งหมดในปี 2024 ที่ผ่านมา แตะ 3.8 พันล้านบาท เติบโตถึง 17% นอกจากการเติบโตยอดขายแล้วนั้น บริษัทยังได้ขยายเครือข่ายตัวแทน ผ่านการพัฒนาศักยภาพและความเป็นมืออาชีพของตัวแทนให้แข็งแกร่งขึ้น เพราะเราเชื่ออย่างยิ่งว่าความสำเร็จของธุรกิจประกันชีวิตขึ้นอยู่กับเครือข่ายตัวแทนที่มีคุณภาพ

สำหรับในปี 2025 บริษัทจะเดินหน้าขยายความเป็นผู้นำในตลาด พร้อมมุ่งรองรับความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและขยายศักยภาพช่องทางตัวแทน ผ่านกลยุทธ์ ดังนี้

1. ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) มุ่งเน้นการพัฒนาตัวแทนผ่านโครงการ Blue Star และ Elite ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถของตัวแทนให้มีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษา และการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า โดยจำนวนผู้บริหารฝ่ายขายที่ติดคุณวุฒิ Elite Agency Leader (Elite AL) มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2021 และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2024 โดยล่าสุดแตะระดับสูงสุดที่ 89 คน อีกทั้ง Elite AL ยังมีประสิทธิภาพในการผลิตผลงานสูงกว่าตัวแทนทั่วไปถึง4 เท่า ขณะที่โครงการ Blue Star ก็มีผลลัพธ์ที่โดดเด่น มีอัตราการทำงานของตัวแทน (Active Ratio) สูงถึง 63% และที่ได้เปิดตัวไปล่าสุด คือ The Heroes เป็นแคมเปญที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นศักยภาพตัวแทนเน้นการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ด้วยภารกิจและกิจกรรมแบบ immersive เสริมแรงจูงใจ กระตุ้นความกระตือรือร้น จากผลลัพธ์ของโครงการ พบว่ามีตัวแทนเข้าร่วมมากกว่า 870 คน และสร้างผลงานคิดเป็น 55% ของ ANP (ยอดขายระหว่างวันที่ 1-13 กุมภาพันธ์ 2025) นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการยังมี ประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการถึง 1.5 เท่า นอกจากนี้ ยังมี โครงการพัฒนามาตรฐานระดับโลก ที่ออกแบบสำหรับตัวแทนอลิอันซ์ เท่านั้น อาทิ การส่งผู้บริหารตัวแทนศักยภาพสูงเข้าอบรมในสถาบันระดับโลกอย่าง INSEAD และโครงการ #SHESecures ที่เน้นพัฒนาศักยภาพตัวแทนหญิงโดยเฉพาะ
2. ทางเลือกตามความถนัด (Dual Career Track) เปิดโอกาสให้ตัวแทนสามารถเลือกเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพและเป้าหมายของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น “ถนัดสร้าง” (Team Builder) ที่มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาทีมคุณภาพเพื่อปั้นผู้นำรุ่นใหม่ หรือ “ถนัดขาย” (Professional Producer) สำหรับตัวแทนที่ต้องการเป็นนักขายมืออาชีพที่มีผลงานโดดเด่น โดยโมเดลนี้ช่วยให้ตัวแทนสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะในบทบาทของผู้นำที่บริหารทีมขนาดเล็กแต่มีคุณภาพสูง หรือในฐานะตัวแทนที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งสองเส้นทางล้วนเสริมสร้างศักยภาพของตัวแทนและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจตัวแทนประกันชีวิตในระยะยาว
3. การขยายธุรกิจสู่ภูมิภาค (UPC Expansion) ต่อยอดการเติบโต อลิอันซ์ อยุธยา มุ่งเน้นการขยายเครือข่ายตัวแทนสู่ต่างจังหวัดผ่านโครงการ UPC Expansion เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย โดยในช่วงแรกนี้จะเริ่มต้นที่ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนจะขยายไปยัง ภาคกลางและภาคใต้ ในลำดับถัดไป โครงการนี้ตั้งเป้าการเติบโตของ FYP (First Year Premium) เพิ่มขึ้น 20% ภายในปี 2025
4. ยกระดับการทำงานด้วยดิจิทัล (Digitalization) โดยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสนับสนุนการทำงานของตัวแทน ผ่านเครื่องมือสำคัญ 4 ตัวที่ช่วยให้การบริหารจัดการและการขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น PPB Tracker ช่วยให้ตัวแทนสามารถติดตามโบนัสได้แบบเรียลไทม์ Score Master ใช้ระบบ Leaderboard เพื่อให้ตัวแทนสามารถตรวจสอบอันดับของตนเอง กระตุ้นการแข่งขันและผลักดันประสิทธิภาพการขาย DIY Battlezone เปิดโอกาสให้ตัวแทนสร้างและบริหารการแข่งขันภายในทีมของตนเอง เพื่อเพิ่มแรงจูงใจและพัฒนาทีมให้มีความแข็งแกร่งขึ้น BS Tracker ช่วยให้การบริหารจัดการและวางแผนสำหรับตัวแทน Blue Star เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ Health, Unit Linked และ High Net Worth (HNW) ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยผลิตภัณฑ์ Health มุ่งเน้นการขยายแผนประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ส่วน Unit Linked เน้นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าได้รับทั้งความคุ้มครองชีวิตและโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ขณะที่ High Net Worth พัฒนาโซลูชันทางการเงินและประกันภัยระดับพรีเมียม ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูงและต้องการการบริหารความมั่งคั่งอย่างมีประสิทธิภาพ

“ปี 2025 จะเป็นปีแห่งโอกาสในการขับเคลื่อนช่องทางตัวแทนของ อลิอันซ์ อยุธยา ไปอีกระดับ เรามุ่งมั่นในการเสริมสร้างความเป็นมืออาชีพของตัวแทน พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และยกระดับการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำสมัย ด้วยกลยุทธ์หลักของเรา ไม่เพียงแต่ต้องการเติบโต แต่ยังต้องการสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับเครือข่ายตัวแทนของเรา ผมเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือจากตัวแทนและพันธมิตรของเรา เราจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรมประกันชีวิต และก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดอย่างแท้จริง” มร.อามัน คาพัว กล่าวปิดท้าย