บทความโดย คุณนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BINANCE TH by Gulf Binance

ปี 2568 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลก การกลับมาอย่างแข็งกร้าวของนโยบายกีดกันทางการค้าภายใต้การนำของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยของสหรัฐฯ ทะยานสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ยุค 1930s และตอกย้ำความเกี่ยวโยงอันซับซ้อนของเศรษฐกิจโลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผลกระทบระลอกแล้วระลอกเล่ากำลังถาโถมสู่ตลาดทั่วโลก ดังที่รายงานล่าสุดของ Binance หัวข้อ “Tariff Escalation and Crypto Markets: Impact Analysis” ได้วิเคราะห์ถึงนัยสำคัญเหล่านี้
ในบริบทของประเทศไทยและภูมิทัศน์สินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงผลกระทบใหญ่จากสิ่งที่อาจเรียกว่า “คลื่นสึนามิภาษี” เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่จับตามอง แต่ต้องวางกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อหาโอกาสท่ามกลางการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโลกครั้งสำคัญนี้
ประเด็นนี้ลึกซึ้งกว่าแค่ตัวเลขการค้า แต่เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของโลกทั้งระบบ การบังคับใช้อัตราภาษีแบบครอบคลุมควบคู่กับมาตรการที่มุ่งเป้าไปยังประเทศเศรษฐกิจหลัก นับเป็นการหักเหทิศทางครั้งสำคัญ ซึ่งท้าทายแนวทางการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจที่โลกยึดถือมาหลายทศวรรษ ปฏิกิริยาตอบโต้ที่ฉับพลันและรุนแรงจากประเทศคู่ค้า ยิ่งตอกย้ำถึงโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งทางการค้าระดับโลกที่อาจยืดเยื้อ
นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH by Gulf Binance กล่าวว่า “การกลับมาใช้นโยบายกีดกันทางการค้า ได้ก่อให้เกิดความผันผวนต่อตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ในระยะสั้น ภาวะความไม่แน่นอนในระดับมหภาคเช่นนี้ มีแนวโน้มจะกระตุ้นให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น หรือที่เรียกว่า ‘risk-off’ เพื่อประเมินสถานการณ์ ทั้งในด้านแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ การตอบสนองเชิงนโยบายของภาครัฐ และทิศทางการค้าโลกในอนาคต อย่างไรก็ดี ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความซับซ้อนและกว้างขวางกว่าประเด็นด้านภาษี เพราะรากฐานสำคัญของการค้าโลกตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมากำลังถูกท้าทาย เราอาจกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว การหดตัวของการค้าเสรี และราคาสินค้าที่แพงขึ้น”
แม้ว่าล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ จะประกาศเลื่อนการเก็บภาษีออกไปอีก 90 วัน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าความตึงเครียดเบื้องหลังและทิศทางการเปลี่ยนแปลงหลักยังคงอยู่ แม้ว่ามันอาจจะเปิดโอกาสให้มีการเจรจาและปรับเปลี่ยนได้ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอน เพราะยังไม่เห็นแนวทางแก้ไขในระยะยาวที่ชัดเจนและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกก็อาจจะยังคงเผชิญกับความผันผวนได้ หากการเจรจาไม่เป็นผล” คุณนิรันดร์ กล่าวเสริม
ขณะที่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญความวุ่นวายจากสงครามการค้า สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin อาจกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะมีคุณสมบัติพื้นฐานคือ ‘การกระจายศูนย์หรือไม่มีตัวกลาง’ (Decentralization) และ ‘เป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐ’ (Non-sovereign nature) ซึ่งเชื่อมโยงกับบทบาทในอดีตที่ถูกใช้เป็นสินทรัพย์ Safe Haven เมื่อเกิดเงินเฟ้อรุนแรง หรือการ debase เงินเฟียต (Fiat Currency Debasement) ซึ่งในวันที่นโยบายเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังถูกเขย่าด้วยแรงกดดันทางการค้า
สำหรับ BINANCE TH และชุมชนคริปโตไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาแห่งความผันผวนและความกังวลต่อความเสี่ยงสูงนี้ ยิ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ การบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม และการมีวิสัยทัศน์ระยะยาว แต่ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ท้าทายนี้กลับเป็น ‘โอกาสพิเศษ’ ให้ประเทศไทยได้ฉายศักยภาพ ด้วยจุดยืนที่ก้าวหน้าด้านกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กฎระเบียบที่ชัดเจนและส่งเสริมการพัฒนา เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวน เพราะช่วยเปิดทางให้นวัตกรรม ดึงดูดการลงทุน และสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นอย่างมากในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวน ด้วยความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลไทยอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางชั้นนำด้านการใช้คริปโตอย่างมีความรับผิดชอบได้ ซึ่งสำคัญมากขึ้นในโลกที่เศรษฐกิจอาจแบ่งขั้วชัดเจนกว่าเดิม
สำหรับทิศทางตลาด ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ พลวัตระหว่างการค้าโลก เงินเฟ้อ การเติบโตเศรษฐกิจโลก และนโยบายธนาคารกลาง ภารกิจสำคัญของ BINANCE TH คือการเฝ้าติดตามปัจจัยเหล่านี้ เพื่อกลั่นกรองเป็นข้อมูลเชิงลึกให้ผู้ใช้งานใช้ประกอบการตัดสินใจท่ามกลาง “พายุความผันผวน” ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือความมุ่งมั่นที่เราให้ความสำคัญสูงสุดเสมอมา
สรุป ภูมิทัศน์การค้าโลกที่เปลี่ยนไป นำมาซึ่งความท้าทายใหญ่หลวง แต่ก็ส่องสว่างให้เห็นโอกาสที่แตกต่างสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ความผันผวนรุนแรงในระยะสั้นถึงกลางจะเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ แต่คุณสมบัติพื้นฐานของคริปโทเคอร์เรนซี นั่นคือการเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวกลาง (Decentralized) และเป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐ (Non-sovereign) กำลังนำเสนอตัวเองในฐานะ ‘ทางเลือกเชิงกลยุทธ์’ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ในขณะที่ทั่วโลกกำลังพยายามทำความเข้าใจและปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าครั้งใหญ่นี้