The Palm (copy)

กลุ่มทิสโก้ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2%

กลุ่มทิสโก้ เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2% จากปีก่อน สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง  ขณะที่สถานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยกลุ่มทิสโก้ และ ธนาคารทิสโก้ ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรจาก ทริสเรทติ้ง เป็นระดับ “A” และ “A+” ตามลำดับ 

กลุ่มทิสโก้ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2%

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และเหตุแผ่นดินไหวที่สร้างความตื่นตระหนกและกระทบต่อความเชื่อมั่น กดดันภาคเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วให้อ่อนแอลงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความเสี่ยงใหม่จากมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2568 ทั้งนี้ ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะยังมีความท้าทายสูง คาดการณ์ว่า จะเติบโตเพียง 1.5-2% โดยขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาต่อรองอัตราภาษีกับสหรัฐฯ และผลกระทบข้างเคียงในภูมิภาค

ผลกระทบจากเศรษฐกิจดังกล่าว ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 ของกลุ่มทิสโก้ ปรับตัวลดลง 5.2% จากไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1,643 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง สอดรับกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางเพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยลง ด้านตลาดรถยนต์ในประเทศยังคงซบเซา ยอดขายรถยนต์ใหม่ในไตรมาสแรกลดลงเกือบ 10% ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่เป็นไปอย่างยากลำบาก แม้ว่าทิสโก้จะสามารถเพิ่ม Penetration Rate ได้ จากการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ใหม่ ๆ มากขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมธุรกิจประกันภัยที่ชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ กลุ่มทิสโก้ได้เพิ่มระดับการตั้งสำรองหนี้เผื่อสงสัยจะสูญมาอยู่ที่ 0.7% ของสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง (High Yield Loans) และความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ด้านธุรกิจค่าธรรมเนียม ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภาวะตลาดทุนผันผวน พร้อมครองตำแหน่งผู้นำในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สะท้อนความไว้วางใจที่แข็งแกร่งจากลูกค้า นอกจากนี้ ธุรกิจหลักทรัพย์ยังสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดได้ แม้ในภาวะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง 

“กลุ่มทิสโก้ จะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง โดยยึดมั่นในหลักการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย และการนำเทคโนโลยีมายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมการติดตามดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางอย่างใกล้ชิด โดยให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุดและรวดเร็วผ่านโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (Pre-emptive Debt Restructuring) ของกลุ่มทิสโก้ ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายบริการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างไปกับลูกค้า ทั้งในภาวะปกติและช่วงเวลาวิกฤต” นายศักดิ์ชัยกล่าว

ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A” จากเดิมที่ “A-” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับ “คงที่” (Stable) รวมถึงปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A+” จากเดิม “A” ด้วยแนวโน้ม “คงที่” เช่นกัน สะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มทิสโก้ จากความสามารถในการทำกำไรที่มั่นคง ความยืดหยุ่นในการให้บริการสินเชื่อรายย่อย ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของตลาด การดำเนินกลยุทธ์อย่างระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งรองรับต่อความเสี่ยงรอบด้าน

สรุปผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2568

ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.2% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 สาเหตุมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง 2.0% เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อสอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบกับกลุ่มทิสโก้ให้การช่วยเหลือลูกหนี้ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้และลดภาระดอกเบี้ยบางส่วนให้แก่ลูกหนี้ในกลุ่มเปราะบาง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% ของสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับการเติบโตของสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง (High Yield Loans) ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังคงเปราะบาง ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3.4% จากการเติบโตของธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ 10.3% โดยบลจ.ทิสโก้ มีการออกกองทุนรวมใหม่ 7 กองในระหว่างไตรมาส ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 3.3% จากส่วนแบ่งทางการตลาดของบล.ทิสโก้ ที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้ง กำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังคงซบเซา ส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าประกันภัยอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกัน ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวลดลง 0.9% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 15.0%

เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มีจำนวน 231,190 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่และสินเชื่อ SME ที่ลดลงตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัว ประกอบกับการเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนในสภาวะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 2.4% ของสินเชื่อรวม เป็นไปตามแผนการขยายสินเชื่อที่มีผลตอบแทนในระดับสูง โดยกลุ่มทิสโก้ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง พร้อมด้วยดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ทั้งนี้ ระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 153.8%

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 20.7% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.9% และ 1.8% ตามลำดับ

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
กลุ่มดุสิตธานี ตั้งบริษัทร่วมทุน ‘ดุสิต ฟรานซ์’ รุกขยายธุรกิจในฝรั่งเศสเป็นครั้งแรก ผนึกความร่วมมือ SYDEL อสังหาฯ ชั้นนำ เดินหน้ายกระดับบริการไทยสู่เวทียุโรป
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา เสริมแกร่ง The 1 Exclusive ดันยอดใช้จ่ายลูกค้า Wealth โต ชูกลยุทธ์ Data & Loyalty เจาะลึกอินไซต์ระดับไฮเอนด์
ข่าวสาร
เรนวูด ปาร์ค ปลื้มแชมป์ Robinswood Golf Club ก้าวสู่เวทีโลก ร่วมแข่งขัน Pro-Am ที่ Wentworth Club ประเทศอังกฤษ
ข่าวสาร
จระเข้ คอร์ปอเรชั่น โตแกร่ง 9.5% กางโรดแมปสู้ศึกเศรษฐกิจไทย รักษาเบอร์หนึ่งมาร์เก็ตแชร์ตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนว ลุยตลาดต่างประเทศเต็มสูบ ตั้งเป้ายอดขาย ตปท. เป็น 16%
ข่าวสาร
ORN เปิดตัว “THE NEXT (เจ็ดยอด 3)” คอนโดฯ Private Low Rise ปลอดฝุ่นแห่งแรก ต้นแบบ Green Building เพื่อชีวิตยั่งยืน
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..