–
“Real-Estate Disruption”
ปี 2563 คงเป็นปีประวัติศาสตร์อีกครั้งสำคัญกับ Developer Thailand ที่บอกเลยว่า เก่งอย่างเดียวไม่พอ รอบนี้ต้องขอเฮงด้วย กับวิกฤตการณ์ที่มารุมขยี้ซ้ำกันอีกระลอกกับ COVID-19 ไวรัสตัวดีที่ทำลายระบบเศรษฐกิจโลกอย่างยิ่งใหญ่
วันนี้.. มาลองเปรียบเทียบระหว่าง “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ว่าตัวไหนมันจะพีคกว่ากันครับ?
ซึ่งบอกเลยว่ารอบนี้!! หนักกว่ามากจ้า ตอนแรกคิดว่า COVID-19 เป็นเพียงพายุที่ผ่านมาแล้วจากไปครับ แต่เอาเข้าจริงตั้งแต่ Feb-63 จนถึงปัจจุบันยังเก็บสเก็ตระเบิดไม่ครบเลยครับ และส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม ที่ต้องมาเน้นเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น ความปลอดภัย และการเว้นระยะห่าง (ถึงแม้ในใจจะมา Social Distancing กันทำไมก็ตาม555) ในรูปแบบของวิธีชีวิต
“NEW NORMAL – สิ่งใหม่ในชีวิตปกติ”
อสังหา.. ก็โดนน่ะเอ่อ.. เดี๋ยวขอเม้าส์จบเรื่องวิกฤตต้มยำกุ้งแปบน้าา.. ปี 40 ผู้อยู่รอดคือคนที่ถือเงินสดไว้จำนวนมาก แต่ไปกระทบต่อผู้รับเหมาและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมครับ
แต่ COVID-19 มันกระทบเศรษฐกิจภาพรวมแน่ๆล่ะ.. แต่มันกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราด้วยนั้นเองจ้า สิ่งอำนวยความสะดวกที่เคยคิดว่าดี ก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนไป การลงทุนที่สามารถลงทุนได้ ต้องหยุด! ทั้งหมดโดยไม่มีข้อแม้ กิจกรรมทุกอย่างถูกยกเลิก เพราะเราคือมนุษย์สังคมที่ทำงานร่วมกับคนอื่น พอถูกสั่งเบรคการพบประในสังคม ขาดการสื่อสารติดต่อ เงินก็หายตามไปด้วยนั้นเองครับ
“อสังหาฯก็ถูกปรับเปลี่ยนเช่นกันครับ”
สิ่งอำนวยความสะดวกยอดฮิตยุคที่ผ่านมาปี 61-62 คือ CO-Working Space ใช่ไหม? แต่พอพี่ COVID-19 แกมา! เหมือนบอกว่า? อะไรกัน! ใครบอกให้ทำงานร่วมกัน! พวกแกต้อง Social-Distancing!! จะมาชุมนุมตั้งม๊อบไม่ได้แล้วว!! อ้าวเอ้ย!! งานมาสิครัสส!
รู้หรือยังว่า Co-Working Space กำลังถูก Disrupt!! ในเวลาแค่ไม่ถึง 1-2 ปี เท่านั้นจ้า.. แต่ในปี 2563 นี้จะมีศัพท์ใหม่ที่มาถูกแทนที่ตัวเดิมคือ
ISOLATE-Working Space
(การทำงานร่วมกันโดยแบ่งพื้นที่ใช้งาน)
งั้นวันนี้.. เรามาเรียนรู้กันครับว่า.. ไอ้เจ้า ISOLATE กับอสังหายุค Covid จะมีให้เราต้องปรับตัวในยุค Disrupting รายวันอย่างไรบ้างครับ ลองมานั่งเทียนคอนโดและวิเคราะห์ไปพร้อมๆกับแอดได้เลยจ้า
SPACE
คงหนีไม่พ้นกับคำว่า Social Distancing ในยุค New-Normal นี้ ถือแม้หลายคนที่มั่นใจว่าประเทศไทยเข้าสู่สภาวะเฟสที่ 4 ที่ควบคุมได้แล้วก็จริงครับ แต่ความเชื่อของคนไทยที่มักถูกสอนมาตั้งแต่วัยเยาว์คือการป้องกันไว้ก่อน ก็ถือว่าจะนำมาประยุกต์ใช้ได้อยู่เสมอเช่นกัน
“การเว้นระยะห่าง” แม้แต่การทำงานร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดหรือบ้านก็ดี จึงถูกนำมาใช้จริงเพื่อให้เกิดความเชื่อและความปลอดภัยในอนาคต ถึงแม้อีกหน่อย COVID-19 อาจจะเป็นเพียงเรื่องเล่าและวิกฤตภัยร้ายก็ดี
แล้วถามว่าจะเว้นระยะห่างยังไง? ในเมื่อเราก็ยังจำเป็นต้องมานัดเจอกันเพื่อเสวนาคุยงานครับ..
ก็คือการสร้างพื้นที่ “แบบกั้นโซน” ขึ้นมานั้นเอง เพื่อให้เกิดช่องระหว่างการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันในทุกองค์ประกอบเช่น พื้นที่อเนกประสงค์ ฟิตเนต จุดรับแขก เป็นต้น ซึ่งร่วมถึงการ Design ที่ทุก Dev. กำลังผลิตจุดขายใหม่เรื่อง S-P-A-C-E เป็นจุดขายใหม่ในอนาคตนั้นเองครับ
WORK FROM HOME
ตั้งแต่มาตรการณ์การควบคุม COVID-19 ถูกนำมาใช้จริง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลายคนคงได้ลองนั่งทำงานที่บ้านสไตล์ทำงานไปดูซีรีย์เกาหลีกันมาแล้วใช่ไหม555 โดยใช้ระบบออนไลน์ผ่าน Conference เข้ามาเชื่อมการประสานงานผ่านหน้าจอทั้งการเรียนหรือคุยงานก็ดีครับ ซึ่งชีวิตอสังหาไทยหลังจากนี้! จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไปจ้า
เพราะหลาย Dev. มีความเชื่อว่า.. อยากให้เกิดการทำงานอยู่บ้านแบบจริงๆจังๆกันไปเลยครับผม! ซึ่งจริงๆต่างประเทศเค้าทำกันมานานแล้วน่ะ แต่คนไทยยังเน้นชอบการคุยแบบตัวต่อตัวอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่ามันได้งานมากกว่าการคุยผ่านจอคอมก็เป็นได้ครับ
แต่จริงๆแล้วบอกเลยว่า “คนล่ะเรื่องกัน555” ไม่มีสิ่งไหนที่มนุษย์ทำไม่ได้ แค่ขอโอกาสให้ได้ลองใช้แล้วปรับตัวเท่านั้นเองจ้า..
ดังนั้น “ห้องทำงานแบบ WFH” จะถูกมาเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ส่วนกลางหรือพื้นที่ห้องอยู่อาศัยจริงในอนาคต พร้อมกับการ Design ที่รองรับการใช้ระบบ Conference ที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอนครับผม เตรียมตัวรับสิ่งแปลกใหม่กันไปจ้าา
CLEAN
“จุดคัดกรอง” คนเข้าออกโครงการที่บอกเลยว่าไม่ต้องลุ้น มีแน่นอน!!! แต่มันจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่จุดตรวจลงบันทึกเวลาผู้บริโภคอย่างเราๆเดินไปช้อปปิ้งดูบ้านหรือคอนโดน่ะครับ แต่มันคือ “สถานีหรือ Station” ที่ต้องมีในทุกส่วนกลางทั้งหมดที่จะใช้งานร่วมกัน ระบบฟอกอากาศ, UV-ZONE ในระบบสระว่ายน้ำ เป็นต้น
“การสัมผัสกันจะน้อยลงไป” ในทุกฟังก์ชั่นจะถูกแทนที่ด้วยระบบเทคโนโลยี “Sensor” ในการตรวจสอบความร้อนของร่างกายเพื่อใช้เข้า-ออกประตู ความสะอาด เจลแอลกอฮอล์ การฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
ซึ่งจริงๆแอดชอบน่ะ มันทำให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัยแบบจริงจังได้เสียทีครับ555 เชื่อไหมว่าคุณหมอเก่งๆรณรงค์ให้คนไทยทุกคนหันมาดูแลเรื่องความสะอาดกันไม่รู้กี่ 10 ปี ก็มีทำบ้างไม่ทำบ้างครับ พอเจอพี่ Covid เข้าไปเท่านั้น ดื้นกันมันส์เลยจ้าาา.. ตอนแรกๆก็ไม่ชินน่ะ หลังๆ เอ่อ.. เฮ้ย! คิดไปมันก็ดีน่ะแก๊! พื้นกับกระจกที่คอนโดฉันนี้สะอาดขึ้นเย๊อะเลยย555
APPLICATION
แอดเคยคิดน่ะ.. ว่าแอปมือถือนี้มันโครตเจ๋งเลยน่ะ เป็นไปได้สมัยหนุ่มๆ อยากไปเรียนสาขาผลิตพวกนี้เลยด้วยซ้ำจ้าา555 สุดท้ายมันก็มาถึงยุคที่ “Mobile” ต้องเป็นอุปกรณ์หลักติดตัวกันไปเรียบร้อยแล้วครับโทรศัพท์เป็นเครื่องมือที่ใช้ประสานงานทุกอย่างและสะดวกสบายที่สุดในปัจจุบันและการใช้งานแอปในการสั่งของเข้าคอนโดหรือบ้านจะเป็นฟังก์ชั่นหลักที่จะเสริมความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้นครับ ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่เรื่องใหม่น่ะ แต่มันมีมานานแล้ว แต่แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเองครับเพราะมีนักพัฒนาเก่งๆเริ่มใช้จริงกับอสังหาไม่กี่แห่งครับ และส่วนใหญ่จะอยู่กับ Segment ราคาสูง เพราะมันต้องหารเฉลี่ยกับต้นทุนการสร้างสรรค์ผลงานนั้นล่ะ
แต่พอมันจำเป็นต้องคิดต่อน่ะ.. จะมีนักพัฒนาที่หันมาเล่นด้านนี้กันมากขึ้น ทำให้เกิดการเฉลี่ยต้นทุนลงมา และสามารถกระจายฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ “Application” ลงสู่การใช้งานในห้องพักหรือเรียกง่ายๆคือ Smart Home ผ่านแอปบนมือถือจะถูกนำมาต่อยอดในทุกอสังหาที่จะเกิดขึ้นต่อไปนั้นเองครับ
ส่วน App สำหรับการสั่งของแบบ Delivery นั้นก็จะเห็นได้ชัดว่า ปัจจุบันทุกคนชอบสั่งของมากินที่บ้านมากกว่าการออกไปข้างนอก เพราะบางทีก็น่าเบื่อน่ะที่จะต้องมาสแกนการเข้า-ออกร้านค้าก็เป็นได้จ้า (เอาเรื่องตัวเองมาเล่า555)
PRIVATE
เรื่องสุดท้ายที่อยากมาแชร์กันเกี่ยวกับ NEW Normal คือ “ความเป็นส่วนตัว” ซึ่งเด็กยุคใหม่ GEN Y และ GEN Z เป็นกลุ่มที่มีความคิดของตัวเองสูง ชอบลงมือทำด้วยตนเอง และต้องการพื้นที่สำหรับการคิดสร้างสรรค์ ที่เมื่อก่อนมันตอบโจทย์ด้วย Co-Working Space แต่มันกำลังถูก Disrupt กันไป ดังนั้นถ้าความมั่นคงในการใช้ส่วนกลางมันวุ่นวายขนาดนั้น ก็ให้ใช้ชีวิตแบบส่วนตัวกันไปเลยล่ะกันครับ
ดังนั้น การ Design ที่สำเร็จรูปและให้ความเป็นส่วนตัวจะมีความสำคัญอยากมากครับ ร้านสะดวกซื้อยิ่งสำคัญกับทุกโครงการที่มี เพราะ “การเดินทาง” จะเป็นอุปสรรคมากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ครับ
ทุกการเปลี่ยนแปลง คือ สัญญาณเตือนให้ต้องปรับตัว และเรียนรู้สิ่งใหม่
