เอสบี ดีไซน์สแควร์ ปรับภาพลักษณ์แบรนด์เอสบี เฟอร์นิเจอร์ใหม่ พร้อมเมคโอเวอร์พื้นที่สาขาราชพฤกษ์ส่ง 3 โชว์เคสเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการตกแต่งแก่ผู้บริโภคด้วยนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยที่คัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าและสร้างสมดุลในทุกด้านของการใช้ชีวิตสามารถสะท้อนตัวตนได้อย่างลงตัว
นายพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุด แบรนด์ เอสบีเฟอร์นิเจอร์ ได้มีการปรับลุคใหม่ให้ทันสมัยและสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเพื่อสร้างสรรค์สินค้าที่ตอบโจทย์คนเจนใหม่ให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่ครบครัน และเพื่อเป็นการต่อยอดในการเพิ่มคุณค่าและแนวคิดการทำงานสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์สู่ผลงานศิลปะแห่งการใช้ชีวิตให้สอดรับต่อเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน พร้อมชูแนวคิดสำคัญของแบรนด์ใหม่ Living Essential และงานดีไซน์ที่สวยงามที่ผสานรวมเข้ากับฟังก์ชันที่ลงตัวของเฟอร์นิเจอร์ เพื่อสะท้อนความแตกต่างและสไตล์ของแต่ละบุคคลอย่างเหนือระดับ
“เพราะเอสบี เฟอร์นิเจอร์นั้นอยู่คู่กับคนไทยมานานเป็นแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องการแต่งบ้านมีสินค้าครบครันอีกทั้งยังโดดเด่นเรื่องความคงทนแข็งแรง สำหรับปีนี้ที่มีการการปรับลุคใหม่เพราะเราต้องการอัพเกรดแบรนด์ปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้นหวังจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อว่างานออกแบบตกแต่งที่ดีจะต้องสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน ดังนั้นหากต้องการสร้างเสน่ห์ในการอยู่อาศัยก็ต้องดึงตัวตนของเจ้าออกมาให้ได้ ผ่านมุมมองการออกแบบ การคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ การจัดองค์ประกอบ และครบด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน ให้ลูกค้าสัมผัสและเข้าถึงได้ง่ายสะท้อนความเป็นคนเจนใหม่ นอกจากนี้เราพบว่าปัจจุบันมีลูกค้าบางกลุ่มยังคงมีความชื่นชอบในสินค้าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายเพื่อเปลี่ยน Mood ให้กับบ้านได้ตลอดเวลา ผ่านโชว์เคส 3 กลุ่ม 3 สไตล์ ได้แก่ SB CASA ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเน้นงานดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์คราฟท์, SB BE Mine สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความชอบเลือกออกแบบเองได้ เลือกฟังก์ชันที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ, SB easy ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อได้ง่าย สามารถจับ Mix & Match ได้กับทุกชิ้นในบ้าน เบื่อก็เปลี่ยน ทำให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคน” นายพิเดช อธิบายถึงที่มาและความต่างของแต่ละกลุ่ม
ทั้ง 3 โชว์เคสนี้ ถือเป็นอีกก้าวของการสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์มิติใหม่ที่ผสานนวัตกรรมและดีไซน์ ทำให้ใช้งานได้สะดวก สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้ “เมื่อมุมมองของผู้บริโภคเกี่ยวกับการอยู่อาศัยเปลี่ยนไปโดยให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลในทุกด้านของชีวิต ดังนั้นในมุมของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งไม่ได้เน้นแค่เอาไว้ใช้งานหรือแค่ความสวยงามเท่านั้นแต่ต้องให้คุณค่าด้าน Functional, Beauty และ Unity เพิ่มมากขึ้น ทำให้มิติของการตกแต่งกลายเป็น ‘สุนทรียะ’ ที่มีองค์ประกอบของเรื่องราว ความรู้สึก และฟังก์ชันที่ตอบสนองความต้องการ เน้นความอยู่สบายในราคาที่จับต้องได้ เป็นสุนทรียภาพการใช้ชีวิตที่ลงตัว ปัจจัยเหล่านี้ต่างหากคือนิยามของ “Living Essential” ที่ เอสบี ดีไซน์สแควร์ พัฒนาเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า” นายพิเดชกล่าวถึงการสร้างมิติใหม่แห่งการออกแบบเพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตในการอยู่อาศัยที่ลงตัว
ที่เอสบี ดีไซน์สแควร์สาขาราชพฤกษ์ ได้รวมไฮไลท์เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหลากดีไซน์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการตกแต่ง ประกอบด้วย 3 โชว์เคส ได้แก่
- SB CASA กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ระดับมาสเตอร์พีซ ที่คัดสรรวัสดุสุดเอ็กซ์คลูซีพมารังสรรค์เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใครเพื่อสะท้อนตัวตน เติมเต็มความต้องการที่หลากหลายด้วยความแตกต่างอย่างทรงคุณค่า สินค้าในกลุ่ม SB CASA ถูกนำเสนอภายใต้แนวคิด “Feel the Masterpiece” โดยถ่ายทอดผ่านสไตล์ Courtyard, Japandi, Luxury white, natural wood และ Dark vintage ประกอบไปด้วยสินค้า 6 Collections ได้แก่ Galar Collection, Hagi collection, Eterno Collection, Waolin Collection, Michala Collection และ The Exquisite Bed Collection
- SB BE Mine กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษ เลือกสรรได้ตามไลฟ์สไตล์ ได้แก่ Wardrobe, Bed, Home Entertainment, Sofa โดยสามารถออกแบบได้ทั้งดีไซน์ ขนาด สี วัสดุ และฟังก์ชันการใช้งาน ทำให้ได้เฟอร์นิเจอร์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนและมีดีไซน์ที่สวยไม่ซ้ำใคร ทั้งแบบที่เน้นโทนสีคัลเลอร์ฟูล, เรียบเท่ห์ในแบบโมเดิร์น, อบอุ่นร่วมสมัย, วินเทจ หรือหรูหรา ก็เลือกออกแบบได้ตามต้องการ ที่สำคัญยังจัดส่งไวภายใน 20 วัน
- SB easy กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ มีดีไซน์ที่เป็น Timeless จัดวางได้ลงตัวในทุกพื้นที่ พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย โดยถ่ายทอดผ่านสไตล์ Urban, Simplicity, Vintage และ Nordic
“เราพัฒนาสาขาราชพฤกษ์ให้เป็น Flagship store ของ SB New Experience ซึ่งมั่นใจว่าประสบการณ์ใหม่ที่เรามอบให้ในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายด้วยแนวทางการตกแต่งด้วยสินค้าจริง ประกอบกับบริการที่รวดเร็ว ติดตั้งและส่งฟรีทั่วประเทศ โดยจะใช้ Online Marketing เป็นกลยุทธ์หลักในการกระตุ้นความสนใจของลูกค้าเป้าหมาย การสร้างสรรค์ Idea Content ที่ทำให้ได้สัมผัสความ real ในทุกมิติผ่านสินค้าจริง ปรับทั้งการดีไซน์และคัดเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในแต่ละมุมให้ต่างอารมณ์ ต่างสไตล์ ด้วยการใช้องค์ประกอบของเฟอร์นิเจอร์ วัสดุ และเซนส์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจในความต้องการได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญยังได้เห็นและสัมผัสสินค้า Collection ใหม่ๆ ในราคาที่สามารถจับต้องได้จากเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราจะไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้า รวมถึงบริการใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกคนได้อย่างตรงจุดอยู่เสมอ” นายพิเดชกล่าวสรุป
