ศุภาลัย ถือเป็นบริษัทที่ขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดมากที่สุด ปัจจุบันได้ยึดหัวหาดรวมแล้วมากถึง 28 จังหวัด ขณะที่สัดส่วนยอดขยายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 42% ส่วน กรุงเทพ และปริมณฑล 58% พร้อมวางเป้าภายใน 4-5 ปีขยายให้ 35 จังหวัด ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องยากหนักที่จะก้าวไปถึงจุดนั้น เพราะตอนนี้ ศุภาลัยมีที่ดินในต่างจังหวัดรอพัฒนาโครงการอยู่ร่วม 35 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเมืองท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม พบว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2561 มีการเติบโตต่อเนื่อง จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 200,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 300,000 ล้านบาท ในปี 2565
โดยอสังหาริมทรัพย์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( EEC ) ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา คิดเป็น 1 ใน 3 หรือราว 110,000 ล้านบาท ของมูลค่าตลาดรวมอสังหาภูมิภาคที่มีอยู่ 300,000 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดอสังหาฯ ใน EEC เติบโตมาก มาจากการส่งเสริมจากทางภาครัฐ อาทิ การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคตะวันออก, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล, การแพทย์จีโนมิกส์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว (GPP) ของ 3 จังหวัดในอีอีซี ติด 6 อันดับแรกของประเทศ เป็นต้น
ขณะที่ยอดขายอสังหาฯของศุภาลัย 58% เป็นของกรุงเทพและปริมณฑล ส่วน 42% เป็นของตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ที่มีสัดส่วนมากถึง 15 % สะท้อนดีมานด์ที่มีสูง โดยศุภาลัยเข้ามาพัฒนาอสังหาฯทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ในจ.ชลบุรี มานานถึง 10 ปี รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมาทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท สูงสุดในตลาดภูมิภาค แซงตลาดภูเก็ตที่เคยทำยอดขายสูงสุด
“จ.ชลบุรี มีสัญญาณการขยายตัวมาตั้งแต่กลางปี 2565 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ดีมานด์ตลาดต่างชาติยังคงสูง โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่อยู่พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรจริงและประชากรแฝง และศุภาลัยยังคงรักษาการเติบโตที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องในอันดับ 1 เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยตลาดต่างจังหวัด บริษัทฯ เน้นตลาดกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการมีกำลังซื้อสูง”นายไตรเตชะกล่าว
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเดินหน้าเปิดตัวบ้านแนวราบระดับลักซูรี ครั้งแรกในชลบุรี ภายใต้ แบรนด์เอสเซ้นส์ ในพื้นที่อ่างศิลา จ.ชลบุรี ในชื่อ “ศุภาลัย เอสเซ้นส์ อ่างศิลา” บนพื้นที่กว่า 29 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้าน ในราคาเริ่มต้น 4.5 – 18 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 321 – 380 ตารางเมตร ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 5-7 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน และ 4 ที่จอดถร บ้านแฝด พื้นที่ ใช้สอย 243 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร 3 ห้องนอน พื้นที่อเนกประสงค์ 2 จุด ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจทุก Lifestyle 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จำนวนรวมทั้งสิ้น 147 ยูนิต
พร้อมใส่ใจทุกรายละเอียดกับบ้านอัจฉริยะ Home Automation ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยมาตรฐานการเข้า – ออกด้วยระบบตรวจจับและอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ พร้อมทั้งติดตั้งกล้อง CCTV ภายในโครงการ อีกทั้งมาพร้อม Green Concept ระบบ EV Charger เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า และ Solar Roof System ที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า เนื่องจากสามารถผลิตไฟฟ้าเองได้ ช่วยลดความร้อนของหลังคาบ้านและลดการทํางานของเครื่องปรับอากาศ
ศุภาลัย เอสเซ้นส์ อ่างศิลา” เบื้องต้น มียอดขายก่อนเปิดตัวไปแล้ว 150 ล้านบาท และเตรียมเปิดพรีเซล วันที่ 15 – 16 ก.ค.นี้ ผู้จองภายในงานรับรถไฟฟ้า TESLA Model 3 หรือส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท* โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท*
นายไตรเตชะ กล่าวต่อว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ประเมินว่า จะดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี ที่ตลาดชะงักไปช่วงก่อนการเลือกตั้ง ปัจจัยบวกครึ่งปีหลังมาจากตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัว จากที่ซบเซามาหลายปี ส่วนตลาดบ้านแนวราบ แนวโน้มทรงตัวไม่ได้ดีกว่าปี 2565
“ปีนี้เราคงเปิดตัว 37 โครงการ ครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 10 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 36,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ 36,000 ล้านบาท”