บ้านที่ใช่ กับ บ้านที่ชอบ เลือกอย่างไร ไม่ให้เป็นภาระในภายหลัง

         บ้านที่ใช่ คือบ้านที่ลงตัวกับงบประมาณ แต่อาจไม่ใช่บ้านที่ถูกใจเราไปเสียซะทุกข้อ ในขณะที่บ้านที่ชอบ เป็นบ้านที่ลงตัวกับความต้องการของเราได้เกือบทุกอย่าง แต่ก็แลกมาด้วยราคาค่าตัวที่แพงเกินเอื้อมไปเสียหน่อย แล้วแบบนี้เราจะตัดสินใจเลือกอย่างไรดี เพื่อให้ในระยะยาวนั้น เราสามารถผ่อนและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ของเราได้อย่างมีความสุข วันนี้ Homeday มีคำตอบมาฝากกันค่ะ

บ้านที่ใช่ หรือ บ้านที่ดีที่เรามีกำลังพอในการซื้อ

บ้านที่ใช่ หมายถึง บ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่เรามีโอกาสผ่อนหมดได้ไว เสียดอกเบี้ยน้อย แต่อาจต้องแลกมาด้วยข้อจำกัดบางอย่าง ที่ทำให้บ้านหลังนี้อาจไม่ใช่บ้านที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในครอบครัว เช่น 

  1. บ้านราคาดี ทำเลจึงมีความห่างไกลจากตัวเมือง เข้าถึงขนส่งสาธารณะได้ยาก ต้องมีรถส่วนตัวเท่านั้น จึงจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
  2. ขนาดพอดีลงตัวกับจำนวนสมาชิก จนอาจทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวน้อยลง 
  3. ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ แต่บ้านไม่ได้รองรับห้องนอนสำหรับชั้น 1 เอาไว้ให้ ก็ต้องมาปรับ ขยาย ต่อเติม สำหรับผู้สูงอายุกันเองในภายหลัง 

จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ บางปัญหานั้นก็สามารถแก้ไขได้ อย่างเรื่องของห้องนอนผู้สูงอายุ เราสามารถนำห้องอื่น ๆ ภายในบริเวณชั้นล่าง หรือพื้นที่ว่าง มาปรับทำเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับผู้สูงอายุได้ หรือหากมีงบประมาณอีกเล็กน้อย ก็สามารถขยับขยายต่อเติมได้เช่นเดียวกัน ในขณะที่บางปัญหานั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ และในระยะยาวอาจไม่ส่งผลดีนัก อย่างเรื่องของขนาดบ้าน หากมีความพอดีกับจำนวนสมาชิกมากจนเกินไป อาจทำให้ไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวได้ 

  • หากผู้ซื้อจำเป็นต้องผ่อนเพียงคนเดียว หรือมีภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ยังต้องรับผิดชอบ การซื้อบ้านที่ใช่ ก็เป็นคำตอบที่ลงตัวค่ะ แต่หากสามารถกู้ร่วมได้ และไม่ได้มีภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ การเลือกตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้น ก็จะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่านั่นเองค่ะ

บ้านที่ชอบ หรือ บ้านที่ตอบโจทย์ ในราคาที่เกินเอื้อม

ราคาที่เกินเอื้อมนั้น หมายถึง มีโอกาสน้อย ที่ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้บ้านให้ เนื่องจากเรามีรายได้และรายจ่ายที่ไม่เพียงพอสำหรับการชำระหนี้บ้านได้อย่างคล่องตัว แต่การจะมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองนั้น บ้านที่ตอบโจทย์ได้ครบในหลาย ๆ ด้านเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตระยะยาวก็คุ้มที่จะลงทุน เช่น

  1. บ้านราคาสูง ทำเลขยับใกล้เมือง เดินทางสะดวก มีขนส่งสาธารณะรายล้อม เข้าถึงได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว
  2. ขนาดบ้านกว้างขวาง เพียงพอสำหรับทุกความต้องการและกิจกรรมส่วนตัวของทุกคนในครอบครัวโดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
  3. มีพื้นที่ห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ชั้น 1 ตอบโจทย์ชีวิตในระยะยาวหรือสมาชิกครอบครัวที่มีอายุ

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า บ้านที่มีปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ครบถ้วนนั้น อาจหาได้ยาก และส่วนใหญ่ก็มักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นหากเลือกตัดความสะดวกสบายในบางส่วนออก อย่างเรื่องของการเดินทาง หากเรามีรถส่วนตัวอยู่แล้ว ก็สามารถขยับไปเลือกบ้านที่ชอบในโซนที่ห่างไกลออกไปในราคาที่ถูกลงได้ โดยยังคงฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในระยะยาว

  • หากผู้ซื้อต้องแบกรับหน้าที่ในการผ่อนเพียงคนเดียว อาจต้องใช้เวลาในการเก็บออม หารายได้เสริมเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอสำหรับการยื่นกู้ธนาคาร และใช้ในการวางดาวน์ เพราะไม่เช่นนั้น การซื้อบ้านโดยที่ไม่มีเงินดาวน์ หรือวางเงินดาวน์น้อย แล้วผ่อนไปเรื่อย ๆ จะส่งผลให้เราต้องเสียดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจมีมูลค่าใกล้เคียงกับตัวบ้านเลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากเราสามารถหาผู้กู้ร่วมได้ ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้เพิ่ม บ้านในฝันที่ชอบ ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

         ระหว่างบ้านที่ใช่กับบ้านที่ชอบ จะเลือกแบบไหนกันดี เชื่อว่าคำตอบนั้นคงไม่สามารถตอบได้ในทันที เพราะแต่ละบุคคลก็มีความต้องการ รายได้ รายจ่าย และเงื่อนไขการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ดีการเลือกซื้อบ้าน ควรเลือกซื้อโดยพิจารณาจากมุมมองในระยะยาวค่ะ หากอยู่คนเดียวก็จะไม่มีข้อพิจารณามากนัก แต่หากอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ต้องมองถึงในหลายปัจจัย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัวได้นั่นเองค่ะ อย่างไรก็ดี ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน อย่าลืมปรึกษาครอบครัวและวางแผนให้ดีเสียก่อนนะคะ รับรองว่าไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ใช่หรือบ้านที่ถูกใจ ถ้ามีการวางแผนที่ดีแล้วล่ะก็ อย่างไรก็มีความสุขกับสิ่งที่เลือกโดยไม่เป็นภาระในภายหลังได้อย่างแน่นอนค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด