อิฐมวลเบาคืออะไร? ความหนาเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน?

          อิฐมวลเบาคืออะไร แล้วใช้งานได้จริงหรือไม่ อาจจะเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย หรือหลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่าวัสดุอิฐมวลเบานั้นใช้ก่อสร้างส่วนไหนของบ้านจึงจะเหมาะสม วันนี้ Homeday จะพามารู้จักคุณสมบัติของอิฐมวลเบา และความหนาเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน เมื่ออ่านบทความนี้จบรับรองว่าทุกคนจะสามารถเลือกใช้วัสดุอิฐมวลเบาได้เหมาะสมกับการใช้งานและใช้ได้อย่างยาวนานแน่นอนค่ะ

อิฐมวลเบาคืออะไร

             อิฐมวลเบา หรือคอนกรีตมวลเบา เป็นวัสดุก่อสร้างที่ถูกพัฒนาขึ้นจนเป็นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ ทรายบดละเอียด ปูนขาว ยิปซั่ม ผงอะลูมิเนียม และน้ำสะอาด ผสมเข้าด้วยกันโดยผ่านกระบวนการผลิต จนได้ออกมาเป็นก้อนอิฐบล็อกตามขนาด 

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.indiamart.com

อิฐมวลเบามีคุณสมบัติอย่างไร

            อิฐมวลเบาที่ผ่านกระบวนการต่าง ๆ จนได้ออกมาเป็นบล็อกนั้นจะมีคุณสมบัติพิเศษคือ มีความแข็งแรงสูง อิฐมีน้ำหนักเบา เป็นฉนวนกันความร้อนได้สูง ป้องกันเสียง ขนาดก้อนอิฐเป็นมาตรฐานเดียวกัน แทบไม่มีเศษอิฐแตกหัก ทำให้สามารถใช้งานได้ 100 % และช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้ดี

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.indiamart.com 

อิฐมวลเบาความหนาแน่นเท่าไหร่จึงจะเหมาสม

          อิฐมวลเบานั้นมีขนาดความกว้าง 20 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร เท่า ๆ กัน แต่ที่แตกต่างกันคือความหนา ซึ่งความหนาของอิฐมวลเบามีให้เลือกหลากหลายความหนา เช่น 7.5 เซนติเมตร, 10 เซนติเมตร, 12.5 เซนติเมตร เป็นต้น ซึ่งหากต้องการคำตอบว่าความหนาเท่าไหร่ดีที่สุด คือไม่มีความหนาไหนดีที่สุด มีแต่ความหนาที่เหมาะสมกับผนังที่จะก่อ เช่น ผนังภายในที่มีความสูง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร ใช้อิฐมวลเบาความหนา 7.5 เซนติเมตร หรือ ผนังภายนอกที่ต้องการป้องกันความร้อนและความชื้น ใช้อิฐมวลเบาความหนา 12.5 เซนติเมตร คือขนาดความหนาที่เหมาะสม เป็นต้น 

            ดังนั้นการเลือกความหนาแน่นของอิฐมวลเบาในการก่อสร้างนั้นเลือกขนาดให้เหมาะสมกับตำแหน่งหรือจุดที่ใช้งานนั่นเอง ซึ่งเราสามารถสอบถามหรือปรึกษาช่าง ผู้เชี่ยวชาญ หรือพนักงานขายวัสดุอิฐมวลเบาที่มีความรู้ ความชำนาญก่อนได้

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.adheseal.com 

อยากก่อผนังด้วยอิฐมวลเบาให้มีคุณภาพต้องรู้สิ่งนี้

    • วางอิฐมวลเบาให้ยึดเหนี่ยวกันอย่างมีประสิทธิภาพ และแข็งแรง ควรวางอิฐแต่ละก้อนเหลื่อมกันไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร
    • ต้องเรียงอิฐมวลเบาในระดับพื้นตามแนวผนังให้รอบเสียก่อนวางชั้นถัดไป
    • มีการแทงเหล็กคั่นในทุก ๆ สองชั้นของการก่อ โดยใช้วิธีเชื่อมเหล็กเส้นขนาด 0.6 เซนติเมตร ไว้กับแนวเสา หรือใช้ Metal Strap ในกรณีที่เป็นเสาปูน
    • การก่อชนท้องพื้น หรือท้องคาน ให้เว้นระยะไว้ 1-2 เซนติเมตร แล้วอุดด้วยปูนทราย

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.jorakay.co.th

ข้อดีของอิฐมวลเบา

    • ป้องกัน หรือทนความร้อน ทนไฟได้ดี มากถึง 4 ชั่วโมง (มากกว่าอิฐมอญ)
    • น้ำหนักเบา
    • ทนต่อสภาพอากาศ
    • ใช้เวลาในการก่อสร้างรวดเร็วกว่า เพราะน้ำหนักเบา ขนย้ายได้ง่าย สะอาด
    • ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดี ใช้เสาเอ็นและคานเอ็นน้อยกว่าอิฐมอญ
    • เป็นวัสดุที่ดูดซับเสียงได้ดี ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างห้องได้
    • ขนาดเป็นมาตรฐานเท่ากันทุกก้อน ช่วยให้งานเป็นระเบียบและสวยงาม
    • อิฐมวลเบาที่มีมาตรฐานจะไม่มีปัญหาเรื่องของการดูดซับความชื้น หรือน้ำซึมผ่านไปได้

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.indiamart.com

ข้อเสียของอิฐมวลเบา

    • แตกหักง่ายกว่าอิฐมอญ หากต้องเจาะผนังหรือติดตั้งอุปกรณ์ติดผนังจำเป็นต้องใช้อุปกรณืเจาะสำหรับอิฐมวลเบาเท่านั้น
    • อาจพบเจอปัญหาปลวกได้ เพราะอิฐมวลเบามีส่วนผสมของยิปซั่ม
    • หากการก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบาไม่ใช้อุปกรณ์ และปูนสสำหรับอิฐมวลเบาโดยเฉพาะจะส่งผลให้บ้านไม่แข็งแรง และผนังมีการแตกหักได้ในอนาคต

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.indiamart.com 

             เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พออ่านมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้วก็ได้ความรู้เกี่ยวกับอิฐมวลเบาเพิ่มเติมไปหลายอย่างเลยใช่ไหมคะ หากใครกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับอิฐมวลเบาหรือกำลังตัดสินใจเลือกวัสดุมาก่อผนังหวังว่าจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ ทุกวัสดุในการก่อสร้างนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป หากเราเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมบ้านก็จะแข็งแรงและอยู่กับเราไปได้อย่างยาวนานแน่นอนค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด