–

           ยุค 20th century คือช่วงระยะเวลาระหว่าง 1 มกราคม พ.ศ. 2444 ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2543 ค่ะ เป็นช่วงระยะเวลาฟื้นตัวของวงการงานออกแบบตกแต่งภายในในช่วงยุคกลาง ทำให้มีงานออกแบบเจ๋ง ๆ ที่เป็นตำนานจากช่วงเวลานั้นมากมายเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘เก้าอี้’ มีหลายตัวเลยค่ะ ที่ยังคงได้รับความนิยมแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน วันนี้ Homeday เลยนำ 13 เก้าอี้วินเทจ ที่มีชื่อเสียงตลอดกาล จากยุค 20th century มาฝากกันค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่า นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของยุค 20th century เท่านั้นนะคะ แต่ละแบบจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

@homeday.co.th 13 เก้าอี้วินเทจ ยอดฮิตตลอดกาล จากศตวรรษที่ 20🪑#แต่งบ้าน #แต่งห้อง #ไอเดียแต่งห้อง #ไอเดียแต่งบ้าน #tiktokแต่งบ้าน #ของแต่งบ้านวินเทจ #วินเทจ ♬ 80's Japanese City Pop World Attention(900810) – RIKI ANDO

1. เก้าอี้วินเทจ Tulip Chair

           เก้าอี้วินเทจ Tulip Chair เก้าอี้ขาเดียวในตำนาน ที่ระเบิดความคิดจำเจเกี่ยวกับเก้าอี้ที่ว่า เก้าอี้ต้องยืนบนสี่ขาเท่านั้น โดยฉีกกฎการดีไซน์เป็นก้านรองรับตรงกลาง ลักษณะคล้ายแก้วไวน์ ดูสวยเก๋สุด ๆ พอวางรวมกันในห้องแล้วดูโปร่ง โล่ง ไม่รู้สึกแออัดเลยล่ะค่ะ แถมยังมีสีสันทั้งตัวเก้าอี้และตัวเบาะให้เลือกแมชกันได้อีกด้วย ถือว่าเป็นเก้าอี้หนึ่งตัวที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและสนุกสนานทีเดียวค่ะ มันถูกออกแบบโดย ‘Saarinen’ ในปี 1955 (พ.ศ. 2498) ในปัจจุบันก็ยังวางจำหน่ายอยู่ โดยแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Knoll ได้ผลิตตัวต้นแบบขึ้นมาในปี 1956 และยังขายมาจนถึงทุกวันนี้นั่นเองค่ะ ราคาอยู่ที่ $1,938 หรือประมาณ 71,150 บาทค่ะ

2. เก้าอี้วินเทจ Egg Chair

          เก้าอี้วินเทจ Egg Chair เป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ออกแบบเป็นเส้นโค้งทั้งหมด และเป็นงานทำมือทุกส่วนอีกด้วย ทำให้แต่ละชิ้นมีความไม่สมมาตรกันระหว่างด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งก็ถือเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจของเจ้าเก้าอี้ตัวนี้ค่ะ ทางด้านของเทคนิคการทำก็ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะต้องใช้พลาสเตอร์ในการหล่อขึ้นรูป และใช้หนังวัวถึง 2 ตัวในการหุ้ม ทำให้ได้งานที่ไร้รอยต่อนั่นเองค่ะ เก้าอี้ตัวนี้ออกแบบโดย ‘Arne Jacobsen’ ในปี 1958 (พ.ศ. 2501) ในปัจจุบันก็ยังวางจำหน่ายอยู่ และยังคงใช้วิธีการทำแบบดั้งเดิม ราคาจึงอยู่ที่ $19,872 หรือประมาณ 728,110 บาทค่ะ หากเปลี่ยนจากงานหนังแท้เป็นงานผ้า ราคาก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ $9,638 หรือประมาณ 353,136 บาทค่ะ

3. เก้าอี้วินเทจ Eames Dining Chair

            เก้าอี้วินเทจ Eames Dining Chair หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Shell Chair’ เป็นเก้าอี้ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีค่ะ (จากงานลอกเลียนแบบมากมาย) เจ้าเก้าอี้ตัวนี้ทำมาจากไฟเบอร์กลาสขึ้นรูป และมีขาเก้าอี้หลากหลายดีไซน์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นขาโลหะทรงไอเฟล, ขาเดือยไม้, ขาเก้าอี้โยก และอื่น ๆ มันได้รับการออกแบบโดยตั้งใจนำลงแข่งขันใน ‘International Competition for Low-Cost Furniture Design’ โดย ‘Ray’ และ ‘Charles Eames’ ในปี 1950 (พ.ศ. 2493) ปัจจุบันราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ $280 หรือประมาณ 10,259 บาท ไปจนถึง $775 หรือประมาณ 28,396 บาท ขึ้นอยู่กับการเลือกทรงและขาของเก้าอี้นั่นเองค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมี Seat cushions หรือเบาะรองนั่งวางจำหน่ายอีกด้วย

4. เก้าอี้วินเทจ Barcelona Chair

            เก้าอี้วินเทจ Barcelona Chair เก้าอี้ทรงหล่อ ดีไซน์สะดุดตา ออกแบบโดย Ludwig Mies van der Rohe และ Lilly Reich ในปี 1929 (พ.ศ. 2472) และได้รับการออกแบบใหม่ในปี 1950 โดยใช้สแตนเลสที่สามารถขึ้นรูปอย่างไร้รอยต่อ ดูนุ่มนวลขึ้น และใช้เบาะหนังเกรดพรีเมี่ยมอย่าง  Bovine leather แทนที่หนัง Pigskin สีงาช้างที่ใช้ในเวอร์ชั่นดั้งเดิม แม้ว่า Barcelona Chair จะไม่ใช่เก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดในโลก แต่ก็เป็นเก้าอี้ที่โดดเด่นที่สุดตัวหนึ่งในยุค Bauhaus สไตล์เลยก็ว่าได้ค่ะ ราคาของเก้าอี้สุดเท่ตัวนี้ อยู่ที่ $6300 หรือประมาณ 230,832 บาทค่ะ

5. เก้าอี้วินเทจ Stacking Chair

           เก้าอี้วินเทจ Stacking Chair หรือ ‘Panton S’ เก้าอี้ท้าทายแรงโน้มถ่วง ที่ดูสนุกสนาน ออกแบบในปี 1960 (พ.ศ. 2503) โดย Vernon Panton ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากกองถังพลาสติกที่เรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ และตัดสินใจสร้างเก้าอี้พลาสติกรูปตัว S นี้ขึ้นมา โดยมันเป็นเก้าอี้พลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียวทั้งหมดตัวแรกของโลก และผลลัพธ์ที่ได้ ก็ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของการออกแบบของชาวเดนมาร์กเลยก็ว่าได้ค่ะ ราคาปัจจุบันขายอยู่ที่ $485 หรือประมาณ 17,770 บาทค่ะ

6. เก้าอี้วินเทจ Womb Chair

           เก้าอี้วินเทจ Womb Chair ออกแบบโดย Eero Saarinen ในปี 1947 (พ.ศ. 2490) เก้าอี้ตัวนี้ ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ตามคำร้องขอของ Florence Knoll ซึ่งเธอต้องการเก้าอี้ที่สามารถนั่งได้หลายวิธี อย่างเช่นการพาดขาไปด้านข้างเหนือที่พักแขน เดิมชื่อของเจ้าเก้าอี้ตัวนี้คือ No.70 และในไม่ช้าก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ Womb chair (Womb ที่มีความหมายว่า ครรภ์) ด้วยรูปลักษณ์ที่สบาย โอบอุ้ม และเป็นธรรมชาติ นั่นเองค่ะ ส่วนสถานที่จัดจำหน่ายในปัจจุบัน แน่นอนว่าต้องเป็นของทาง Knoll อย่างแน่นอน โดยราคาของเก้าอี้แสนสบายตัวนี้ เริ่มต้นอยู่ที่ $4,080 หรือประมาณ 149,491 บาทค่ะ

7. เก้าอี้วินเทจ Wishbone Chair

            เก้าอี้วินเทจ Wishbone Chair สร้างขึ้นในปี 1949 (พ.ศ. 2492) โดย Hans Jørgensen Wegner สถาปนิกและนักออกแบบดาวรุ่งในยุคนั้น เขาเลือกใช้เชือกกระดาษที่แข็งแรงมาถักทำเป็นเบาะเก้าอี้ ออกแบบพนักพิงให้เตี้ย และมีกระดูกสันหลังหรือพนักพิงรูปตัว Y โดย Wegner ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดของพ่อค้าชาวเดนมาร์กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ราชวงศ์หมิง จนเกิดกลายมาเป็นเก้าอี้ระดับตำนาน ที่มีน้ำหนักเบา และนั่งสบายที่สุดตัวหนึ่ง ที่นักสะสมอยากครอบครอง ปัจจุบันมีการผลิตคอลเลคชันใหม่ ๆ ที่มีสีสันสดใสเพิ่มมากขึ้น สามารถนำไปแต่งให้เข้ากับบ้านได้หลากหลายขึ้นด้วยค่ะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $481 หรือประมาณ 17,623 บาทค่ะ

8. เก้าอี้วินเทจ Grand Confort Chair

            เก้าอี้วินเทจ Grand Confort Chair ออกแบบร่วมกันโดย Le Corbusier, Charlotte Perriand และ Pierre Jeanneret ในปี 1928 (พ.ศ. 2471) โดย Le Corbusier เรียกมันว่า “Cushion basket” ด้วยลักษณะที่หนานุ่มฟู ดูนั่งสบายของมันที่มีลักษณะทรงลูกบาศก์คล้ายกับตะกร้านั่นเอง โครงสร้างภายนอกทำมาจากโครเมียม ตัวเบาะทำมาจากหนัง ดูหรูหรา ทันสมัย ไม่ตกยุค ราคาเริ่มต้นที่ $4,111 หรือประมาณ 150,627 บาทค่ะ

9. เก้าอี้วินเทจ Parsons Chair

            เก้าอี้วินเทจ Parsons Chair เป็นเก้าอี้รับประทานอาหารหุ้มเบาะชนิดพิเศษ สร้างขึ้นในปารีสช่วงทศวรรษที่ 1930 (พ.ศ. 2473) โดยนักออกแบบที่ Parsons School of Design ที่มีชื่อเสียง คุณลักษณะหลักของเก้าอี้ตัวนี้ก็คือความเป็นธรรมชาติ ความเรียบง่าย และรูปลักษณ์ที่เป็นเส้นตรง ซึ่งเป็นลักษณะคลาสสิก สมัยใหม่ ที่ได้รับการเลียนแบบ คัดลอก กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

10. เก้าอี้วินเทจ Model 3107 Chair

           เก้าอี้วินเทจ Model 3107 Chair สร้างขึ้นโดยใช้ไม้อัดงอและขึ้นรูปในปี 1955 (พ.ศ. 2498) ออกแบบโดย Arne Jacobsen สถาปนิกชาวเดนมาร์ก ได้รับการออกแบบโดยใช้เทคนิคที่คิดค้นโดยพี่น้อง Eames และปัจจุบัน เก้าอี้ตัวนี้ เป็นหนึ่งในเก้าอี้ที่มีการทำซ้ำมากที่สุดในโลกอีกด้วยค่ะ ราคาเริ่มต้นของเจ้าเก้าอี้สุดฮอตตัวนี้ อยู่ที่ $305 หรือประมาณ 11,175 บาทค่ะ

11. เก้าอี้วินเทจ Marais A Chair

           เก้าอี้วินเทจ Marais A Chair ได้รับการออกแบบในปี 1934 (พ.ศ. 2477) โดย Xavier Pauchard ด้วยความตั้งใจแรกที่อยากจะออกแบบให้มันเป็นเก้าอี้สำหรับใช้งานกลางแจ้ง มันจึงถูกทำด้วยเหล็กชุบสังกะสี ที่สามารถทนต่อฝนและแสงได้ นอกจากนี้ก็ยังมีความทนทาน สามารถวางซ้อนกันได้ง่ายดาย จึงไม่แปลกใจเลยค่ะ ที่ร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วโลก ต่างนิยมเลือกใช้เก้าอี้รุ่นนี้กัน ราคาอยู่ที่ $395 หรือประมาณ 14,472 บาทค่ะ

12. เก้าอี้วินเทจ Eames Lounge Chair

           เก้าอี้วินเทจ Eames Lounge Chair เป็นอีกหนึ่งฝีมือของคู่สามีภรรยา Charles และ Ray Eames ในปี 1956 (พ.ศ. 2499) ที่เรียกได้ว่าเป็นดีไซน์ที่โดดเด่นที่สุดของ Mid Century เลยก็ว่าได้ค่ะ มันเป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ทั้งสองออกแบบมาสำหรับตลาดระดับไฮเอนด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Club Chair สไตล์อังกฤษแบบดั้งเดิม Eames Lounge Chair ได้รับการพัฒนามาหลายปี และเพิ่มสตูลสำหรับรองเท้าที่เรียกว่า “Ottoman” เข้ามา จนในที่สุดก็ได้เก้าอี้ที่มีรูปลักษณ์อบอุ่นนั่งสบาย กลายมาเป็นผลงานอมตะชิ้นโบว์แดงที่ใคร ๆ ก็ต่างอยากจับจอง โดยราคาเริ่มต้นของ Eames Lounge Chair ก็อยู่ที่ราว 249,000 บาทค่ะ

13. เก้าอี้วินเทจ Wassily Chair

           เก้าอี้วินเทจ Wassily Chair ได้รับการออกแบบในปี 1925-1926 (พ.ศ. 2468 – พ.ศ. 2469) โดย Marcel Breuer สถาปนิกและนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชาวฮังกาเรียน มันเป็นหนึ่งในเก้าอี้ที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยนักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบของจักรยาน Breuer เขาเริ่มเริ่มทดลองนำเหล็กท่อที่ใช้ทำจักรยานมาโค้งงอ จนเกิดเป็นโครงของเก้าอี้ และขึงเบาะด้วยผ้าแคนวาสที่เรียบง่าย จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเก้าอี้ที่โฉบเฉี่ยวที่สุดตัวหนึ่งของโลก ราคาของมันอยู่ที่ $2814 หรือประมาณ 102,992 บาทค่ะ

           เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทั้ง 13 เก้าอี้วินเทจจากยุค 20th century ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ สวย เท่ มีสไตล์ เรียกได้ว่าทุกชิ้นเลยค่ะ เชื่อว่ามีหลาย ๆ ตัวที่เราคงเคยเห็นกันมาอยู่บ้าง บางชิ้นที่เป็นงานผลิตจากยุคนั้นโดยตรง แม้จะเก่า แต่ก็มีมูลค่าในการขายต่อมือสองที่สูงมาก ๆ หลักแสนหลักล้านกันเลยก็มีค่ะ หลาย ๆ ชิ้นในปัจจุบันก็ยังผลิตโมเดลใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง และก็มีหลาย ๆ แบรนด์ที่ถูกนำดีไซน์ไปลอกเลียนแบบ และขายในราคาที่ถูกกว่า ใครที่กำลังอยากได้มาครอบครองสักชิ้น ก็อาจจะต้องพรีออร์เดอร์เข้ามาค่ะ หรือถ้าโชคดีก็อาจจะเจอสภาพเอี่ยม ๆ สักชิ้นจากร้านมือสอง บอกเลยว่าเก้าอี้ในตำนานเหล่านี้ มีมูลค่าในอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ เรียกว่า ซื้อเอาไว้สะสมได้เลยล่ะค่ะ