
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ต่อยอดกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้วิสัยทัศน์ “บ้านที่คิดมาจากชีวิตจริง” ด้วยการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์อยู่อาศัยแบบครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน ผ่านการบูรณาการระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เข้ากับระบบบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) อย่างเป็นเอกภาพ ภายใต้แนวคิด “LALIN Living Ecosystem” ระบบนิเวศการอยู่อาศัยที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า “การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้าง ‘สังคมคุณภาพแห่งการอยู่อาศัย’ ที่ยั่งยืนให้แก่ลูกบ้าน เราให้ความสำคัญในการคัดสรรพันธมิตรบนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญ มาตรฐาน และความสอดคล้องด้านวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าอยู่จนถึงทุกช่วงของการใช้ชีวิตในภายในโครงการโดยบริษัทฯให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบ CRM (Customer Relationship Management) และ CEM (Customer Experience Management) เพราะเชื่อมั่นว่า 2 กลยุทธ์นี้คือ ‘หัวใจ’ ของการเข้าใจลูกค้าเชิงลึกและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน โดยมองว่า CRM เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และบริหารข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ขณะที่ CEM คือกระบวนการสร้างประสบการณ์ที่ดีและต่อเนื่องในทุกจุดสัมผัสของแบรนด์ ทั้งสองกลยุทธ์จึงเป็นฐานข้อมูลและกลไกสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น การเชื่อมโยงกลยุทธ์ CRM และ CEM เข้ากับเครือข่ายพันธมิตร จึงเป็นการสร้างระบบนิเวศธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบใหม่ ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ การขายที่อยู่อาศัย แต่ขยายไปถึงการสร้างความสัมพันธ์และคุณค่าในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ดำเนินการมาตลอด เพื่อส่งมอบการดูแล ความเข้าใจความต้องการ และเติบโตไปพร้อมกันกับลูกค้าในทุกช่วงเวลา
โดยกลยุทธ์ความร่วมมือในครั้งนี้ของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งสร้างระบบนิเวศการอยู่อาศัยแบบครบวงจร (Integrated Living Ecosystem) ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรหลักจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นให้แก่ลูกบ้านอย่างครบครัน อาทิ กลุ่มSmart Living & Technology Partners ที่ร่วมส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมและบริการดิจิทัลภายในบ้าน เช่น แอปพลิเคชัน MonoMax ที่เติมเต็มความบันเทิงและช่วงเวลาผ่อนคลายของครอบครัว ขณะเดียวกันยังมีกลุ่ม Lifestyle & Health Partners ที่มอบสิทธิพิเศษด้านสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลเปาโล และ โรงพยาบาลพญาไท เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Home Care & Maintenance Partners ที่ให้บริการวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านจากแบรนด์ ชั้นนำ ได้แก่ HomePro, MegaHome, Index Living Mall และ NocNoc รวมถึงกลุ่ม Automotive & Mobility Partners อย่าง B-Quik ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์ และกลุ่ม Shopping & Travel Partners ประกอบด้วย Tops Online, King Power, Pet and Me, Sprinkle และ Gother ที่มอบสิทธิพิเศษในโลกแห่งการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวให้แก่ลูกบ้านของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ภายใต้แนวคิด “From Home Ownership to Living Experience” ที่มุ่งขยายคุณค่าจากการเป็นเพียงเจ้าของบ้าน ไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของสังคมคุณภาพที่ได้รับการดูแลอย่างรอบด้าน ทั้งก่อนซื้อ ระหว่างอยู่อาศัย และหลังการขาย
ทั้งนี้ ภายใต้การขับเคลื่อนแนวคิด LALIN Living Ecosystem บริษัทฯ ตั้งเป้าในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งและยืดหยุ่น เพื่อรองรับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยจะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม CRM-CEM ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบ 360 องศา เพื่อเชื่อมต่อบริการและสิทธิประโยชน์ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ต้องไม่หยุดอยู่ที่การส่งมอบบ้าน แต่ต้องส่งมอบ ‘คุณค่าของการใช้ชีวิต’ เราจึงตั้งใจสร้างระบบนิเวศที่ทำให้ลูกบ้านรู้สึกถึงความใส่ใจในทุกวัน การพัฒนากลยุทธ์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับองค์กรสู่ยุค Data-Driven Real Estate อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการต่อยอดระบบข้อมูล CRM ให้เชื่อมโยงกับพันธมิตรทุกกลุ่ม เพื่อสร้างฐานข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Behavioral Analytics) ที่มีความแม่นยำและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อพัฒนาบริการและสิทธิประโยชน์แบบ Personalization ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างตรงตามต้องการ นับเป็นการพลิกบทบาทจาก “การขายบ้าน” สู่ “การสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัย” ที่มีคุณค่ายิ่งขึ้น” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ www.lalinproperty.com
หรือ โทร.1778 ทั้งนี้เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด





