Kave Playground (copy)

“นิปปอนเพนต์” แบรนด์สีหนึ่งเดียวที่เหนือชั้นกว่า คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติสูงสุด “Climate Action Excellence” โดย ส.อ.ท. พิสูจน์ความตั้งใจ การันตีองค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนในทุกมิติ

“นิปปอนเพนต์” รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านความยั่งยืนระดับประเทศ บนเวที “Climate Action Awards 2025” จัดโดยสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (CCI) ภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยเป็น “แบรนด์สีนวัตกรรมเพียงหนึ่งเดียว” ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตสีในประเทศที่ได้รับรางวัล “Climate Action Excellence” “ระดับสูงสุด” ของเวทีอันทรงเกียรตินี้ที่มอบให้เฉพาะองค์กรระดับ “ดีเลิศ” ที่สร้างผลงานด้านความยั่งยืนครบทุกมิติ มีการปฏิบัติจริงที่เป็นเลิศจนสามารถ ส่งผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมเป็นวงกว้าง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนส่งผลดีต่อสภาพภูมิอากาศด้วยเช่นกัน ซึ่งนิปปอนเพนต์สามารถสะท้อนผลลัพธ์ดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรมผ่านการวางนโยบายและการปฏิบัติตาม “Sustainability Framework” ทั้ง 5 เสาหลักของแบรนด์ที่ครอบคลุมครบรอบด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย, ผู้คนและสังคม, นวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์, ธรรมาภิบาล และการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยยังคงคำนึงถึงผู้ใช้งานและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเป็นหัวใจสำคัญ

สำหรับรางวัล “Climate Action Awards 2025” จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อยกย่องและสนับสนุนองค์กรที่มีการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรมและขยายผลลัพธ์สู่สังคม พร้อมมุ่งมั่นผลักดันนโยบายไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) รางวัลจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับตามเกณฑ์คะแนนที่ได้รับ โดยระดับสูงสุดของรางวัลคือ “Climate Action Excellence” ในปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 22 บริษัทชั้นนำ เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นต้น

คุณวัชระ ศิริฤทธิชัย General Manager บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะตัวแทนความร่วมมือร่วมใจขององค์กร ขึ้นรับรางวัลอันทรงเกียรติบนเวที “Climate Action Awards 2025” ที่มอบให้กับ “นิปปอนเพนต์” ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนวัตกรรมรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชียและอันดับ 4 ของโลก โดย  “นิปปอนเพนต์” ถือเป็น “แบรนด์สีนวัตกรรมรายเดียว” ที่ได้รับรางวัลใน “ระดับสูงสุด” คือ “Climate Action Excellence” ซึ่งมอบให้กับองค์กรที่ทำคะแนนได้มากกว่า 90 คะแนนจาก 100 คะแนนเท่านั้น

“นิปปอนเพนต์ถือเป็นองค์กรหนึ่งในอุตสาหกรรมผลิตสีและการก่อสร้าง ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว อุตสาหกรรมประเภทนี้มักจะปลดปล่อยคาร์บอนฯในปริมาณสูงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารเคมี ดังนั้น เราจึงตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญขององค์กรที่จะต้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชน เพื่อร่วมกันสร้างมาตรฐานการดำเนินงานแบบรูปธรรมใหม่ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสุขภาพของผู้คนบนโลก ในขณะที่องค์กรยังเติบโตได้อย่างยั่งยืน จากวิสัยทัศน์และความตั้งใจนี้ทำให้นิปปอนเพนต์มีการวางกรอบการดำเนินงานที่เรียกว่า ‘Sustainability Framework’ ที่เรามุ่งมั่นทำมาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นแนวทางให้ทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหรือพนักงานทุกระดับ ต้องเล็งเห็นเป้าหมายและทิศทางด้านความยั่งยืนร่วมกัน และร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ให้เห็นผลจริง มีผลเชิงบวกต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมได้จริง” คุณวัชระกล่าว

สำหรับ Sustainability Framework ของนิปปอนเพนต์ถือเป็นนโยบายระดับโลกที่ริเริ่มโดยบริษัทแม่ คือ NIPSEA Group ซึ่งมีการนำไปปฏิบัติจริงในหลากหลายประเทศทั่วโลกที่นิปปอนเพนต์มีฐานการผลิตรวมถึงประเทศไทย โดยแต่ละประเทศจะมีการรับแนวทางไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ การวางนโยบาย Sustainability Framework มีการวางแผนให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) ถึง 10 ข้อ กลั่นกรองออกมาเป็น 5 เสาหลัก ด้านความยั่งยืนของนิปปอนเพนต์ ได้แก่ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย, ผู้คนและสังคม, นวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์, ธรรมาภิบาล และ การจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน

เปลี่ยน 31% ของไฟฟ้าในโรงผลิตให้เป็น “พลังงานสะอาด”

สำหรับ เสาหลักที่ 1 ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (Environment & Safety) นิปปอนเพนต์มีการวางยุทธศาสตร์ในด้านนี้ที่เกี่ยวข้องกับการลดใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การอนุรักษ์น้ำ การจัดการของเสีย และความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยได้มีการปฏิบัติจริงในหลายด้าน เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคาโรงงานผลิตสี ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าสะสมได้มากกว่า 1 ล้าน kWh ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเหล่านี้สามารถทดแทนการใช้ไฟฟ้าในโรงงานเป็นสัดส่วนถึง 31%, การเปลี่ยนรถยกในโรงงาน 67% เป็นรถพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากรถสันดาป, การหมุนเวียนน้ำและบำบัดน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยบำบัดกลับมาใช้ใหม่ไปแล้วกว่า 4.12 ล้านลิตร และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ โรงงานของนิปปอนเพนต์มีการติดตั้ง Dust Collector นวัตกรรมเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับดักจับฝุ่นในขั้นตอนการผลิต เพื่อไม่ให้ฝุ่นหลุดรอดเป็นมลพิษทางอากาศ ลดการสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานและผู้คนในชุมชนรอบข้าง โดยสามารถดักจับฝุ่นไปแล้วถึง 6.51 ตัน

ด้าน เสาหลักที่ 2 ผู้คนและสังคม (People & Community) ยุทธศาสตร์นี้จะเกี่ยวข้องทั้งการฝึกอบรม พัฒนา และสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมกับกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน ไปจนถึงการสร้างประโยชน์ต่อชุมชนรอบข้าง ซึ่งนิปปอนเพนต์ดำเนินงานในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงพื้นที่ช่วยทาสีใหม่ให้ชุมชน เช่น โรงเรียน สถานที่ราชการ ชุมชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ช่วยให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและน่าอยู่ขึ้น รวมพื้นที่สะสมมากกว่า 3.7 แสนตารางเมตร มีผลต่อผู้คนกว่า 3 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าสีกว่า 11.5 ล้านบาท

ไม่หยุดยั้งการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อโลก

ขณะที่ เสาหลักที่ 3 นวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ (Innovation & Product Stewardship) ส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของนิปปอนเพนต์ เนื่องจากแบรนด์มีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปตลอดห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

โดยปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สีของนิปปอนเพนต์มีมากถึง 40 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) ซึ่งจะทำให้เจ้าของโครงการต่างๆ หรือผู้ใช้งาน สามารถคำนวณและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลดปล่อยคาร์บอนฯ และก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำได้ นอกจากนี้ นิปปอนเพนต์ยังพัฒนาสีนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดแบรนด์ได้ออกสีนวัตกรรมสุดล้ำชนิดใหม่ อาทิเช่น “นิปปอนเพนต์ เนเจอร์ แคร์” สีทาภายใน เกรดอัตร้าพรีเมียม ที่มีส่วนผสมจากน้ำยางพาราธรรมชาติคุณภาพสูงสุด ทดแทนการใช้ส่วนประกอบที่ผลิตจากฟอสซิล ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ หรือจะเป็น นิปปอนเพนต์ อัลตร้าการ์ด นวัตกรรมฟิล์มใสปกป้องสีทาภายนอก เกรดอัลตร้าพรีเมียม มอบความทนทานเหนือกว่ามาตรฐานที่ มอก. กำหนดถึง 7 เท่า รับประกันความทนทานยาวนาน 20 ปี พร้อมรับประกันสีซีดจางสูงสุด 7 ปี เป็นรายแรกในตลาดสีเมืองไทย จึงช่วยลดความถี่ในการทาสีใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 13% และช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนฯไม่ต่ำกว่า 34% โดยผลิตภัณฑ์สีนวัตกรรมดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานได้ร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอนฯ สู่ชั้นบรรยากาศ

ถัดไปคือ เสาหลักที่ 4 ธรรมาภิบาล (Governance) หรือการจัดการในองค์กรเพื่อผลักดันให้การดำเนินการตาม Sustainability Framework เกิดขึ้นจริง ต่อเนื่อง และประสานงานกันอย่างราบรื่น ดังนั้น นิปปอนเพนต์จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นภายในองค์กร เพื่อสนับสนุนการจัดการด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงพนักงานทุกระดับให้มีความเข้าใจและร่วมลงมือปฏิบัติจริง

ดึงซัพพลายเชนร่วมเดินทางสู่ความยั่งยืน

สำหรับเสาหลักสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เสาหลักที่ 5 การจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน (Sustainable Procurement) ส่วนนี้เป็นการคัดเลือกและประเมินซัพพลายเออร์เพื่อให้เกิดความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานการผลิต ยกตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ถังสีที่นิปปอนเพนต์ได้ปรับมาใช้ถังสีที่มีส่วนผสมของเม็ดพลาสติกรีไซเคิล คิดเป็นสัดส่วน 26% ของปริมาณบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด เพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลาสติกใหม่ หรือ วัตถุดิบบางชนิดในสายการผลิตได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้ถังบรรจุประเภทรูปแบบที่นำกลับไปใช้ซ้ำได้ใหม่ จึงสามารถลดขยะจากการผลิตไปได้ถึง 800 ตัน มีส่วนร่วมในการลดขยะฝังกลบที่เป็นปัญหาใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อมของโลก

“นิปปอนเพนต์รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ CCI ภายใต้ ส.อ.ท. เล็งเห็นถึงความตั้งใจจริงและการดำเนินงานอย่างเข้มข้นด้านความยั่งยืนในทุกมิติขององค์กร ซึ่งนิปปอนเพนต์มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดูแลสิ่งแวดล้อม พนักงาน พาร์ทเนอร์คู่ค้า และชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนงานและเป้าหมายในอนาคตภายในปี 2030 ที่จะลดการปลดปล่อยหรือลดการใช้งานในประเด็นต่างๆ ลงให้มากยิ่งขึ้นเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการใช้น้ำในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต ลดปริมาณของเสีย รวมไปถึงการวางนโยบาย Zero Accident ต้องไม่มีอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นหยุดงานภายในฐานการผลิต โดยนิปปอนเพนต์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์กรของเราจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนที่ช่วยขยายผลไปสู่สังคมได้อย่างกว้างขวางดังเป้าประสงค์ของการจัดมอบรางวัล Climate Action Awards ในครั้งนี้ต่อไป” คุณวัชระกล่าวปิดท้าย

 

#NipponPaint #นิปปอนเพนต์ #สีนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน #สีรักษ์โลก #ClimateActionAwards2025 #ClimateActionExcellence #ความยั่งยืน #การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ #ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก #SustainabilityFramework #NetZero

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
“พระยาบางแสน” คอนโด Wellness + สหคลินิก ริมทะเล แห่งแรกของประเทศไทย ชูจุดเด่น! ส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน ลงทุนครั้งเดียว ได้ทั้งอสังหาฯ และ สุขภาพ พร้อมเพิ่มรายได้ต่อเนื่อง30 ปี”
ข่าวสาร
Subscription Model: เมื่อ Gen Z เลือกจ่ายเพื่อ “ประสบการณ์” มากกว่าการครอบครอง
ข่าวสาร
ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนรายใหญ่ของประเทศไทย ร่วมกับบริษัทพลังงานชั้นนำของไทย บี.กริม เพาเวอร์ พิจารณาขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของประเทศเกาหลีใต้
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนาขึ้นแท่นสุดยอดทีมการตลาดแห่งปี! ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ กลยุทธ์แข็งแกร่ง คว้า 2 Gold Awards จากเวทียิ่งใหญ่ Marketing Excellence Awards 2025
ข่าวสาร
ครั้งแรกของอีสาน! KICE ขอนแก่น ผนึก TIECA ลงนาม MoU จัด Beyond Education Expo 2025 ยกระดับการศึกษาไทยสู่สากล
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
Loading..