KAVE playground

ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว !! REIC คาดมูลค่าการโอนปี 66 ต่ำกว่าล้านล้านบาท

        ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ชี้ภาพรวมอุปทาน ปี 66 คาดการออกใบอนุญาตจัดสรรลดลง12.1 %ก่อนดีดตัวขึ้นรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 67 เหตุหลายปัจจัยลบ เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวต็มที่ ดอกเบี้ยขาขึ้น ฉุดกำลังซื้อลดลง สวนทางราคาที่อยู่อาศัยแพงขึ้น ด้านยอดโอนแนวราบลดลงทุกระดับราคา ยกเว้นบ้านราคา 7.5-10 ล้านบาทที่โตสวนขณะที่ต่างชาติกลับมาโอนเทียบเท่าก่อนโควิด จับตารัสเซียยอดโอนพุ่ง-พม่าซื้อห้องชุดราคาสูงสุด พร้อมคาดการณ์ยอดโอนปี 66 ต่ำล้านล้านเหลือ 9.7 แสนล้าน

         ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC)  เปิดเผยว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.มิ.ย.2566)  อุปสงค์มีการปรับตัวลดลง โดยมีหน่วยเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกปี  จำนวน 64,998 หน่วย มีมูลค่า 273,178 ล้านบาท ซึ่งลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยลดลง11.6 % และ10.9 % ตามลำดับ จากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่เต็มที่  โดยมีการฟื้นตัวในภาคของการท่องเที่ยว แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องภาคการลงทุน การส่งออก และแม้ว่าภาวะเงินเฟ้อจะมีทิศทางชะลอตัวลงจนถึงสิ้นปี แต่อัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีการปรับขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% และมีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.25% หรือ 0.50% ทำให้ในปีนี้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเพิ่ม 1.25-1.50% ซึ่งภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นที่เริ่มจะส่งผลทำให้ประชาชนเริ่มมีความลังเลใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับภาวะอัตราส่วนหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่าร้อยละ 90 ของ GDP ราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้น

         โดยปัจจัยข้างต้นส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนของอุปสงค์ และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย โดยอุปสงค์มีการปรับตัวลดลงของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ และยอดขายใหม่ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่ยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร และยังต้องการมาตรการกระตุ้นที่สำคัญ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความชัดเจน และตรงจุด และยังถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลใหม่ในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ  และภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องชัดเจน และตรงจุด ทั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลใหม่ในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ

ยอดโอนบ้านราคา 7.5-10 ล้านโตสวนกระแส

        ภายใต้ปัจจัยลบต่างๆ คาดว่าทั้งปี จะมีการออกใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศ 80,643 หน่วย ลดลง 12.1% จากปี2565 ที่ 91,692 หน่วย และปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 3% ที่ 83,062 หน่วย หรือมีจำนวนพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้าง 34.09 ล้านตารางเมตร(ตร.ม.) ลดลง 12.6% และปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 1.9% เป็น 34.75 ล้านตร.ม.

        เมื่อพิจารณาตามระดับราคาพบว่า ที่อยู่อาศัยในระดับราคา 7.51-10  ล้านบาท มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นสูงสุด 16 % มูลค่าเพิ่มขึ้น 17.5 % และระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 12.4 % มูลค่าเพิ่มขึ้น 10.3 % โดยในส่วนของที่อยู่อาศัยแนวราบการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงทุกระดับราคายกเว้นระดับราคา 7.51-10  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2 % และระดับราคาเกินกว่า 10ล้านบาท เพิ่มขึ้น  0.2%

 

คาดมูลค่าการโอนปี 66 ต่ำกว่าล้านล้านบาท 

         ด้านสถานการณ์อุปสงค์ จากข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 ปี 2566 พบว่า มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจำนวน 91,085 หน่วย ลดลง 4.4 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 ที่มีจำนวน 95,285 หน่วย ซึ่งส่งสัญญาณว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเริ่มแผ่วลง โดยมีมูลค่าโอนฯจำนวน 258,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 ที่มีจำนวน  256,739 ล้านบาท โดยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยแนวราบลดลง3.8 % แต่อาคารชุดเพิ่มขึ้น13.6 % ซึ่งเป็นผลมาจากการซื้อคอนโดในปี 2565 ซึ่งยังมีการผ่อนปรนมาตรการ LTV และมีการโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปีนี้ แต่ในครึ่งปีหลังคาดว่ามูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์น่าจะมีแนวโน้มลดลง

         ทั้งนี้  คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวนประมาณ 336,062 หน่วย ลดลง 14.5 % เมื่อเทียบกับปี 2565  ซึ่งถือว่าอยู่ระดับต่ำที่สุดนับจากปี 2561 และตลาดชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ประมาณ 977,593 ล้านบาท ลดลง 8.2 % ซึ่งต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท โดยลดลงทั้งในส่วนของอยู่อาศัยแนวราบและห้องชุด ซึ่งที่อยู่อาศัยแนวราบ คาดว่าจะมีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 251,635 หน่วย ลดลง11.9 %  มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 728,092 ล้านบาทลดลง 6.2 % และคาดการณ์ว่าจะเป็นหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดประมาณ 84,427 หน่วย ลดลง 21.2 % เมื่อเทียบกับปี 2565 มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 249,501 ล้านบาทลดลง 13.5%  

         อย่างไรก็ตาม สำหรับในปี 2567 คาดการณ์ว่าจะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวน ประมาณ 349,910 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.1 % คิดเป็นมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวน ประมาณ 1,022,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6 %

 

ต่างชาติกลับมาโอน 7,338 หน่วยเทียบเท่าก่อนโควิด

          สำหรับ ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 7,338 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน  14.7 % ของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด มูลค่าเป็นสัดส่วน 24.5%  หรือมีจำนวน  35,211 ล้านบาท โดยมีหน่วยโอน ฯ เพิ่มขึ้น 65.6 %มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 57.8 % โดยพบว่าสัญชาติจีนยังคงซื้อห้องชุดมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ขณะที่สัญชาติพม่าซื้อห้องชุดมีมูลค่าสูงที่สุด โดยซื้อราคาเฉลี่ย 7.00 ล้านบาท และสัญชาติอินเดียซื้อห้องชุดที่มีขนาดพื้นที่เฉลี่ยสูงที่สุด โดยซื้อพื้นที่เฉลี่ย 89.8 ตร.ม. 

 

5 อันดับแรกต่างชาติโอนห้องชุดสูงสุด

         โดย 5 อันดับแรกที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติสูงสุด อันดับ 1 ยังคงเป็นสัญชาติจีนมีการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 3,448 หน่วย มูลค่า 16,992 ล้านบาท  อันดับ 2 คือรัสเซีย จำนวน 702 หน่วย มูลค่า 2,556 ล้านบาท อันดับ 3 สหรัฐอเมริกา จำนวน 293 หน่วย มูลค่า 1,289   ล้านบาท อันดับ 4 ฝรั่งเศส จำนวน 269 มูลค่า 1,127 ล้านบาท และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร จำนวน 260 หน่วย มูลค่า 1,287 ล้านบาท

         “สำหรับพื้นที่ที่ชาวต่างชาติมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสูงสุด 10 อันดับแรกในไตรมาส 2 ปี 2566 ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองมใหญ่ ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ นนทบุรี ระยอง สุราษฎร์ธานี และเพชรบุรี ซึ่งมาตรการการเพิ่มสัดส่วนการถือครองห้องชุดของคนต่างชาติ อาจจะโฟกัสไปในจังหวัดเหล่านี้เป็นหลัก” ดร.วิชัย กล่าว

         นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีรับ 9 เดือน 9 ตลาดนัดบ้านมือสองเปิดให้ประชาชนขายบ้านฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดย REIC ได้มอบหมายจากคณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ(SFls) ให้พัฒนาฐานข้อมูล “บ้านมือสอง” ภายใต้ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.2561-วันที่ 29 ก.พ.2568 ด้วย Go Live ระบบฐานข้อมูลบนเว็บไซต์  www.taladnudbaan.com ปัจจุบันได้จัดทำสัญญาร่วมกัน(MOU)ร่วมกับ 25 หน่วย ซึ่งมีทรัพย์ประกาศขายผ่านเว็บไซต์กว่า 68,000 รายการทรัพย์ และวันที่ 9 ก.ย.2566 จะเปิดระบบให้ประชาชนฝากขายทรัพย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และปี 2566 วางเป้าหมายมีสมาชิกฝากขายไม่น้อยกว่า 3,000 ราย

อ่านเพิ่ม
Sidebar
TIK TOK
รีวิวโครงการ
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้าน Design ใหม่ พื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทุก Lifestyle เป็นส่วนตัวเพียง 66 แปลง ส่วนกลางครบครัน บนทำเลที่โดดเด่น โซนปิ่นเกล้า-ศาลายา
Sponsor
รีวิว บ้านกรีนเฮ้าส์ รังสิต สเตชั่น-ซ.เวิร์คพอยท์ คอนโดแนวคิดใหม่ สไตล์ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 นอน 2 น้ำ บนทำเลรังสิต-ปทุมฯ ใกล้ทางด่วนฯ, โทลล์เวย์ และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต
Sponsor
รีวิว นิรติ ดอนเมือง (NIRATI DONMUEANG) บ้านและทาวน์โฮม NEW SERIES 2.5 ชั้น พร้อมส่วนกลางกว่า 4 ไร่* ที่สุดของทำเลศักยภาพ เพียง 5 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง
Sponsor
Loading..