–

แม้ว่าการอยู่คอนโดจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะขาดไปและมีความสำคัญอย่างที่หลายคนนึกไม่ถึงก็คือเครื่องกรองน้ำ เพราะถึงหลายบ้านจะใช้วิธีซื้อน้ำดื่มจากข้างนอก เพราะมองว่าการติดตั้งเครื่องกรองน้ำเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่จะดีกว่าหรือไม่? ถ้ามีเครื่องกรองน้ำที่สามารถใช้งานได้ง่าย ติดตั้งไม่ยุ่งยาก และกินพื้นที่น้อย แถมยังลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เห็นแบบนี้ใครที่ยังลังเลเรื่องซื้อเครื่องกรองน้ำอยู่ล่ะก็ คงต้องรีบหามาติดที่ห้องสักเครื่องแล้ว และวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่า ถ้าอยากจะติดตั้งเครื่องกรองน้ำในคอนโด ต้องดูเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว

1. พิจารณาจากคุณภาพของน้ำ

เพราะว่าน้ำประปาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั้นมีสิ่งปนเปื้อนมากมายและยังไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ดื่มกินได้เลย การจะดูว่าเครื่องกรองน้ำชิ้นนั้นเหมาะที่จะนำมาใช้งานหรือไม่ สิ่งแรกที่ควรนึกถึงเลยคือ คุณสมบัติในการกรองสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สารเคมี ค่า pH โลหะหนัก การกำจัดกลิ่นและรสของน้ำ เป็นต้น เพราะหากเลือกติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่ไม่มีคุณภาพ การกรองก็อาจไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ทำให้น้ำดื่มยังคงมีการปนเปื้อนหรือสารตกค้างอยู่

2. เลือกประเภทของเครื่องกรองน้ำ

เครื่องกรองน้ำในท้องตลาดนั้นมีอยู่หลายประเภท คุณสมบัติและขั้นตอนของการกรองก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งเครื่องกรองน้ำที่เราได้ยินบ่อยและเป็นที่นิยมในท้องตลาดก็จะมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องกรองน้ำระบบ UV เครื่องกรองน้ำระบบ RO และเครื่องกรองน้ำ Alkaline ดังนี้

• เครื่องกรองน้ำระบบ UV (Ultra Violet)

เครื่องกรองน้ำประเภทนี้เหมาะกับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป โดยการใช้ระบบกรองด้วยแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อฆ่าแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆ ที่มีอยู่ในน้ำ ข้อดีของเครื่องประเภทนี้คือ ในน้ำยังจะเหลือแร่ธาตุที่จำเป็นบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่

• เครื่องกรองน้ำระบบ R.O. (Reverse Osmosis)

เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีระบบกรอง 5-6 ขั้นตอน สามารถกรองสารปนเปื้อนต่างๆ ที่ส่งผลเสียต่อร่างกายได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาน้ำกร่อย-น้ำเค็มได้ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้ป่วยโรคไต เด็ก และสัตว์เลี้ยง และคุณภาพของน้ำเมื่อเทียบกับราคา ยังถือว่าคุ้มค่าอีกด้วย

• เครื่องกรองน้ำด่าง (Alkaline Water)

เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีระบบกรอง 6 ขั้นตอน สามารถกรองน้ำด่างที่มีค่า pH 8.0 – 9.5 ได้ และสามารถชำระของเสีย ช่วยฟื้นฟู ปรับสมดุลให้กับร่างกายได้ ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย

3. ฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอย

เนื่องจากคอนโดมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดและมีข้อกำหนดในการติดตั้งที่ยุ่งยาก ดังนั้นฟังก์ชันการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกเครื่องกรองน้ำด้วยเช่นกัน โดยควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่ติดตั้งง่าย สามารถติดตั้งบนพื้นที่จำกัดได้ เช่น พื้นที่เคาน์เตอร์ครัว ใต้อ่างล้างจาน หรือในจุดที่ง่ายต่อการใช้สอย เป็นต้น

4. ตรวจสอบใบรับรองและประสิทธิภาพ

เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและการมีน้ำดื่มที่สะอาด ควรแน่ใจว่าเครื่องกรองน้ำที่คุณเลือกมานั้นมีคุณภาพตามมาตรฐาน สามารถใช้งานได้ครบตามอายุการใช้งานที่กำหนด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องกรองน้ำนั้นได้รับการรับรองจากองค์กรระดับสากล เช่น NSF International และการรับประกันของตัวกรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ รวมถึงระบบการกรองและการไหลของน้ำ ว่ามีคุณภาพและสามารถใช้งานได้เหมือนที่ทางแบรนด์โฆษณาหรือไม่

5. การบำรุงรักษาและการบริการหลังการขาย

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย คือบริการหลังการขายและการบำรุงรักษา เช่น การรับประกันตัวเครื่อง ระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรอง และค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมบำรุง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นบริการที่ทางบริษัทควรแจ้งให้กับผู้ซื้อสินค้าทราบ เพราะเมื่อเกิดปัญหาหลังจากซื้อสินค้าไปแล้ว เราจะได้รับการดูแลและได้รับผลประโยชน์ตามที่บริษัทกำหนดไว้อย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องมานั่งหาวิธีแก้ปัญหาเพราะผู้ขายไม่รับผิดชอบนั่นเอง

ร่างกายคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการทำกิจกรรมต่างๆ ก็ทำให้เราสูญเสียน้ำในร่างกายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ผ่านทางเหงื่อ การหายใจ และการปัสสาวะ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างเช่นคอนโดหรือหอพัก ซึ่งต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบท่ามกลางความเครียดและมลภาวะ ดังนั้น การลงทุนซื้อเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพก็เปรียบเสมือนการลงทุนเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำที่สะอาดไร้สารตกค้างและการปนเปื้อน ปลอดภัยต่อสุขภาพและไม่เกิดผลเสียกับร่างกายในระยะยาว