กรุงเทพฯ — SCOPE Langsuan (สโคป หลังสวน) คอนโดหรูระดับ Ultra Luxury ที่สุดของความร่วมมือในการออกแบบจากดีไซน์เนอร์และสถาปนิกระดับโลก คอนโดมิเนียม Freehold บริเวณหลังสวน ที่หาได้ยาก บนทำเลที่มีมูลค่าสูงใจกลางกรุงเทพฯ ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าระดับบน ล่าสุด ปิดยอดขายไปแล้วกว่า 87% เหลือเพียง 13% หรือ 18 ยูนิตสุดท้าย ก่อนปิดโครงการ โดยนับตั้งแต่เปิดขาย โครงการมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 25% สะท้อนศักยภาพและความเชื่อมั่นของตลาดอสังหาฯที่มีต่อคุณภาพและบริหารจัดการอย่างมืออาชีพของโครงการ
สโคป หลังสวน ตอกย้ำสถานะ “สินทรัพย์คุณภาพ” ด้วย Capital Gain เฉลี่ย 4.5% ต่อปี มูลค่าโครงการเติบโตจาก 7,800 ล้านบาทในปี 2019 สู่ 9,700 ล้านบาทในปี 2024 และคาดว่าจะทะยานแตะ 11,000 ล้านบาทภายในปี 2027 สะท้อนศักยภาพของโครงการที่เติบโตต่อเนื่องตาม CAGR ที่แข็งแกร่ง อัตราการเติบโตดังกล่าวยัง เป็นการพิสูจน์ว่า สโคป หลังสวน เป็นสินทรัพย์ (Asset) ที่มีคุณภาพ ทั้งในด้านทำเล การออกแบบ สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการที่ครบครันเทียบเท่าโรงแรมระดับ 5 ดาว เช่น พนักงานต้อนรับ บริการจอดรถ (Valet Parking) บริการจัดส่งพัสดุถึงห้องพัก บริการทำความสะอาดประจำสัปดาห์ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 2,500 ตร.ม. และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพองค์รวม อาทิ สปา ออนเซ็น ฟิตเนส และสระว่ายน้ำควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังเป็นปัจจัยบวกต่อโครงการในด้านการลงทุนอีกด้วย โดยยูนิตแบบ 2 ห้องนอนถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการลงทุนปล่อยเช่า ด้วยอัตราค่าเช่าสูงสุดถึง 380,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันยูนิต 2 ห้องนอนสำหรับปล่อยเช่าภายใต้การดูแลของโครงการมีผู้เช่าเต็มทั้งหมด สะท้อนอัตราครองเช่าที่แข็งแกร่ง และยืนยันดีมานด์แท้จริงของตลาดระดับบน
เพื่อตอบแทนลูกค้าคนสำคัญ สโคป หลังสวน จัดโปรโมชั่น Simply Best Offer สำหรับห้องราคาเริ่มต้น 53 ล้านบาท ด้วยการมอบสิทธิพเศษรวมมูลค่าสูงสุด 9 ล้านบาท รวมถึง Amenity Credit (เครดิตการใช้บริการในโครงการ) สูงสุด 240,000 บาท สำหรับการใช้บริการต่าง ๆ ภายในโครงการ อาทิ การสำรองบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บริการนวดสปา บริการทำผมทำเล็บ การชมภาพยนตร์แบบไพรเวท, ระดับพรีเมียม ตลอดจน บริการซักรีดที่สะอาด ปลอดภัย ฯลฯ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าระดับบนที่ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่าแค่ “พื้นที่” เพียงโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 29 สิงหาคมนี้
“สโคป หลังสวน” ยังคงเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับ Super Prime Area การโฟกัสกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางอย่างจริงจัง สามารถสร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาฯ ได้อย่างแท้จริง และเป็นต้นแบบของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ Ultra Luxury ในไทย และกำลังเดินหน้าสู่การปิดการขายอย่างสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้