4 กรกฎาคม 2568 – วงการอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังจะสั่นสะเทือน! บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR ไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่เดินตามกระแส แต่กำลังจะพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรม ด้วยการประกาศกลยุทธ์ครั้งสำคัญ
ในปี 2568 ภายใต้แนวคิด Creating What’s Different (สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง) ด้วยการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท ปักหมุดใน 2 ทำเลทองคำอย่าง กรุงเทพฯ (กาญจนาภิเษก-พุทธมณฑลสาย 1) และ ระยอง (บ้านฉาง) พร้อมกับการวางรากฐานธุรกิจเพื่อสร้าง รายได้ประจำ เป็นการเป็นเลือก “สร้างเกมใหม่” ที่แตกต่าง
อย่างยั่งยืน และเต็มไปด้วยคุณค่า
Creating What’s Different (สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง) : ปรากฏการณ์ใหม่ของ ESTAR ที่ “ไม่เล่นตามเกมเดิม”
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยถึงวิสัยทัศน์ ว่า ปี 2568 คือ จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ ESTAR ไม่ใช่แค่การดำเนินธุรกิจตามทิศทางตลาดทั่วไป แต่เป็นการ “สร้างเกมใหม่” ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งกว่าเดิม ด้วยแนวคิดที่ว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เพียงเพื่อการขายที่อยู่อาศัย
แต่คือการ “ส่งมอบคุณภาพชีวิตและประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์อนาคตของผู้คนอย่างแท้จริง”
“ESTAR เชื่อมั่นว่าการเติบโตที่แท้จริงไม่ควรจำกัดอยู่แค่ตัวเลขรายได้ แต่ต้องสร้าง คุณค่าร่วม ให้กับลูกค้า สังคม และองค์กรอย่างยั่งยืน โดยกลยุทธ์ Creating What’s Different (สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง) นี้ถูกวางหมากอย่างละเอียดผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่
- Segment (โฟกัสกลุ่มเป้าหมายศักยภาพสูง): เจาะกลุ่ม High Net Worth และ Mid-High Segment ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ
- Speed (ดำเนินงานตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม): วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง ไตรมาส 3 – 4 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความคึกคักและพร้อมรับการลงทุน
- Quality (ยกระดับคุณภาพงานออกแบบ): นำเสนอดีไซน์ระดับ พรีเมียม ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนอง
ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง พร้อมความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด - Connection (เชื่อมต่อทำเลศักยภาพ): สร้างเครือข่ายที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับสูงในทำเลทองทั้งในกรุงเทพฯ
และระยอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและสร้างโอกาสในการเข้าถึงทำเลสำคัญ

ระเบิดฟอร์ม! เปิดตัว 4 โครงการลักซ์ชัวรี่มูลค่า 3,500 ล้าน ปักหมุดทำเลทอง
ESTAR ตอกย้ำความแข็งแกร่งในการพัฒนาโครงการแนวราบระดับลักซ์ชัวรี่โดยเฉพาะในระยอง ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากโครงการ เวลาน่า ไฮด์ อู่ตะเภา–บ้านฉาง ซึ่งมียอดขายและโอนฯ เฟสแรกสูงถึง 95% รวมถึง แกรนด์ เวลาน่า พูลวิลล่า ที่สร้างปรากฏการณ์ขายหมด 100% ภายในเวลาเพียง 3 เดือน! ความสำเร็จเหล่านี้คือบทพิสูจน์ถึงความเข้าใจในความต้องการของตลาด และความสามารถในการพัฒนาโครงการที่โดนใจ
ล่าสุด ESTAR พร้อมแล้วที่จะ จุดพลุโครงการใหม่ อย่างต่อเนื่องใน 2 ทำเลทอง ได้แก่ ภาคตะวันออก: ระยอง – ดินแดนแห่งโอกาสและศักยภาพทำเลแห่งอนาคต นายไพโรจน์ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของจังหวัดระยอง ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองอุตสาหกรรม แต่เป็น “ทำเลแห่งอนาคต” ที่เพียบพร้อมด้วยคุณภาพชีวิต
ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตอกย้ำถึงความโดดเด่นของระยองในฐานะ จังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงสุดของประเทศ โดยในปี 2567 รายได้เฉลี่ยต่อคนสูงถึงกว่า 1.03 ล้านบาท และ GPP รวมสูงถึง 1.08 ล้านบาท สิ่งนี้สะท้อนถึงกำลังซื้อที่แข็งแกร่งและเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ คาดการณ์ตลาดบ้านแนวราบในพื้นที่ EEC (เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) น่าจะยังขยายตัวไปได้ถึง 34% ของตลาดทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงดีมานด์ที่แข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อระดับกลางถึงบน ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวเศรษฐกิจโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาโครงการ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก บนพื้นที่กว่า 6,500 ไร่ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2572 และรองรับผู้โดยสารได้ถึง 60 ล้านคนต่อปี พร้อมสร้างการจ้างงานมากกว่า 50,000 ตำแหน่ง ถือเป็น แรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะผลักดันความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
จากศักยภาพอันล้นเหลือนี้ ESTAR ได้เปิดตัว 3 โครงการใหม่ในระยอง ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ระดับลักซ์ชัวรี่ :
- แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ อู่ตะเภา–บ้านฉาง:
o มูลค่าโครงการ: 1,100 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม
o ราคา: 11 – 20 ล้านบาท
o สถานะ: เปิดขายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และสามารถทำยอดขายเฟสแรกไปแล้วกว่า 70%
นี่คือบทพิสูจน์ความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อ ESTAR
- แกรนด์ เธร่า พรีม่า บูรพาพัฒน์–สุขุมวิท:
o มูลค่าโครงการ: 200 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน บนที่ดิน 72 ตารางวา ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
o ราคา: 5 – 8 ล้านบาท
o สถานะ: เตรียมเปิดขายในไตรมาส 3 ปี 2568
- โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ เวลาน่า (บูรพาพัฒน์ – สุขุมวิท):
o มูลค่าโครงการ: 700 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยวดีไซน์ French Villa ที่มอบความหรูหราและสง่างามเหนือกาลเวลา
o ราคา: 6 – 9 ล้านบาท
o สถานะ: เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2568
ทั้ง 3 โครงการนี้ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับความสงบ ร่มรื่น และความใกล้ชิดกับธรรมชาติ พร้อมทั้งไม่ห่างไกลจากศูนย์กลางอุตสาหกรรม สนามบิน และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

เมืองหลวง: กรุงเทพฯ – อัญมณีแห่งความสำเร็จ
นอกเหนือจากระยอง ESTAR ยังเตรียม เปิดตัวโครงการเรือธง ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ:
- แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาภิเษกฯ – พุทธมณฑล สาย 1:
- มูลค่าโครงการ: 1,500 ล้านบาท
- ประเภท: บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่
- ราคา: 20 – 30 ล้านบาท
- จุดเด่น: โดดเด่นด้วยดีไซน์ Modern European Classic
ภายใต้แนวคิด “THE AESTHETICS OF SUCCESS” ซึ่งสะท้อนความเป็นมรดกแห่งความสำเร็จ ตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อกำลังซื้อสูงที่มองหาความพิเศษและแตกต่าง
- สถานะ: จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3 ปี 2568
สร้าง “รากฐานที่แข็งแกร่ง”: ธุรกิจรายได้ประจำ มิติใหม่ของการเติบโต
ESTAR ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย แต่ยังก้าวไปอีกขั้นด้วยการ สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมีแผนพัฒนาโครงการบ้านฉาง ได้แก่
- SEASTAR Serviced Apartment & Hotel: โครงการนี้ให้บริการบ้านเช่า 23 หลัง และห้องพัก 114 ยูนิต
โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 70% ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง และยังมีแผนขยายเพิ่มอีก 27 หลังในเฟสถัดไป เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
- The Sphere Sport Club: มี 2 สาขา ที่เปิดให้บริการ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครัน และคลาสออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Tabata, Pilates, Kickboxing, Aqua Fit และ K-pop Dance ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ ปัจจุบันรองรับสมาชิกองค์กรกว่า 50 บริษัท และสมาชิกใช้งานประจำกว่า 500 ราย โดย ESTAR ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทในปีนี้ และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ตลอด 5 ปีข้างหน้า
- “One Stop Living Service”: บริการครบวงจรที่ครอบคลุมการดูแลบ้าน รีโนเวต ซ่อมแซม ทำสวน และแม้กระทั่งบริการแม่บ้าน เพื่อสร้าง ระบบนิเวศการอยู่อาศัยแบบครบวงจรอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกบ้าน
นายไพโรจน์ กล่าวปิดท้ายอย่างมั่นใจว่า “บ้านฉางไม่ใช่แค่ทำเลแห่งอนาคตในเชิงเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันก็มีศักยภาพด้านคุณภาพชีวิตอย่างชัดเจน ทั้งสนามกอล์ฟ สิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ และธรรมชาติที่ร่มรื่น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ห่างไกลจากศูนย์กลางอุตสาหกรรมและสนามบิน” พร้อมยืนยันว่า ESTAR พร้อมสร้าง ยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าหมาย 2,000 ล้านบาทภายในปีนี้อย่างแน่นอน จากแรงส่งของยอดโอนในครึ่งปีแรก และ Backlog ที่พร้อมส่งมอบกว่า 1,000 ล้านบาทในขณะนี้
ESTAR กำลังสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ “ปรับทิศทางองค์กร” สู่มาตรฐานใหม่ลักซ์ชัวรี่อสังหาฯ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล
กลยุทธ์ที่เฉียบคม และความมุ่งมั่นในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ทำให้ ESTAR ไม่ใช่แค่ “ผู้เล่น”
แต่คือ “ผู้กำหนดเกม” ที่จะนำพาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ยุคใหม่ที่ยั่งยืนและมีคุณค่าอย่างแท้จริง
