การปลูกผักไม้เลื้อยในบ้านเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับคนรักสวนที่ต้องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผักไม้เลื้อยไม่เพียงแต่ให้ผลผลิตที่สามารถนำมารับประทานได้ แต่ยังช่วยสร้างร่มเงาและความสวยงามให้กับบ้านอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจประโยชน์ของผักไม้เลื้อยและแนะนำชนิดที่เหมาะสำหรับปลูกในบ้านของคุณ

ทำไมควรปลูกผักไม้เลื้อยในบ้าน?
ประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า
การปลูกผักไม้เลื้อยช่วยให้คุณใช้พื้นที่ในแนวตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะปลูกพืชในแนวราบซึ่งต้องใช้พื้นที่มาก คุณสามารถปลูกผักไม้เลื้อยให้เติบโตขึ้นไปตามค้างหรือโครงสร้างที่จัดเตรียมไว้ วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านในเมืองที่มีพื้นที่สวนน้อย
ให้ร่มเงาและลดความร้อน
ผักไม้เลื้อยสามารถช่วยสร้างร่มเงาให้กับบ้านและลดอุณหภูมิโดยรอบได้ เมื่อปลูกให้เลื้อยขึ้นตามซุ้มหรือระแนง ใบของพืชจะช่วยกรองแสงแดดและลดความร้อนที่เข้าสู่บ้าน นี่เป็นประโยชน์อย่างมากในประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างประเทศไทย ช่วยประหยัดพลังงานในการใช้เครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย
ปรับปรุงคุณภาพอากาศ
ผักไม้เลื้อยช่วยดูดซับมลพิษและปล่อยออกซิเจนออกมา ทำให้อากาศรอบบ้านสะอาดขึ้น พืชเหล่านี้สามารถกรองฝุ่นละอองและสารพิษต่างๆ ในอากาศ ช่วยให้สภาพแวดล้อมในบ้านดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้บรรยากาศในบ้านน่าอยู่มากขึ้น
เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
การปลูกผักไม้เลื้อยช่วยดึงดูดแมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น ผึ้ง ผีเสื้อ และแมลงช่วยผสมเกสรอื่นๆ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่บ้านของคุณ และส่งเสริมระบบนิเวศที่สมดุล แมลงเหล่านี้ยังช่วยในการควบคุมศัตรูพืชโดยธรรมชาติอีกด้วย
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
การปลูกผักไม้เลื้อยไว้รับประทานเองที่บ้านช่วยให้คุณได้รับผักที่สดใหม่ ปลอดสารพิษ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง การทำสวนยังช่วยลดความเครียด เพิ่มความสุข และส่งเสริมการออกกำลังกายเบาๆ ได้อีกด้วย การได้สัมผัสกับธรรมชาติผ่านการทำสวนมีผลดีต่อสุขภาพจิตใจอย่างมาก

10 ผักไม้เลื้อยที่ควรปลูกในบ้าน
1. ตำลึง: ผักใบเขียวคุณค่าสูง
ตำลึงเป็นไม้เลื้อยที่ปลูกง่ายและเติบโตเร็ว มีลักษณะลำต้นเป็นเถาเลื้อยมีมือเกาะ ใบคล้ายรูปหัวใจ และมีดอกเป็นช่อสีขาว ตำลึงอุดมไปด้วยวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน และแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคมะเร็งได้
วิธีปลูก: ใช้วิธีปักชำโดยตัดเถายาวประมาณ 30 เซนติเมตร ปักในกระถางดินร่วน รดน้ำทุกวันจนแตกยอดใหม่ และทำค้างให้ต้นเลื้อยขึ้นไปรับแสง
2. บวบ: ผักฤทธิ์เย็นหลากประโยชน์
บวบมีหลายชนิด เช่น บวบเหลี่ยม บวบหอม และบวบงู เป็นพืชเถาที่มีมือเกาะ ใบกว้างเป็นรูปเหลี่ยม และออกดอกสีเหลืองตามง่ามใบ บวบมีคุณสมบัติช่วยดับร้อนในร่างกาย อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ช่วยสร้างเม็ดเลือด และมีกากใยช่วยระบบขับถ่าย
วิธีปลูก: เพาะเมล็ดในดินผสมปุ๋ยหมักและแกลบ รดน้ำสม่ำเสมอ เมื่อออกใบ 2 ใบ ย้ายต้นกล้าไปปลูกในกระถางหรือแปลง ทำค้างให้ต้นยึดเกาะ และบำรุงปุ๋ยทุก 15 วัน
3. ถั่วพู: แหล่งโปรตีนจากพืช
ถั่วพูเป็นไม้เลื้อยที่มีหลายสายพันธุ์ ลำต้นหรือเถายาว 3 เมตรขึ้นไป ออกดอกเป็นช่อสีขาว และผลเป็นฝักเรียวยาวมีขอบหยัก ถั่วพูช่วยบำรุงหัวใจ กระตุ้นการเจริญเติบโต แก้อักเสบ และช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
วิธีปลูก: ใช้เมล็ดจากฝักแห้งปลูกในกระถางดินเหนียวผสมกากมะพร้าวและปุ๋ยหมัก เมื่อต้นเริ่มงอกย้ายไปปลูกในกระถางที่ใหญ่กว่า ปักไม้หลักให้ต้นยึด และรดน้ำให้ชุ่มทุกวัน
4. ถั่วฝักยาว: ปลูกง่าย ผลผลิตสูง
ถั่วฝักยาวเป็นพืชถั่วชนิดไม้เลื้อย มีเถาสีเขียว ใบคล้ายรูปสามเหลี่ยม ออกดอกเป็นช่อสีขาวตามซอกใบ และฝักเป็นทรงกลมเรียวยาว ถั่วฝักยาวช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยระบบเผาผลาญทำงานได้ดี และช่วยรักษาอาการบวม
วิธีปลูก: ใช้เมล็ดถั่ว 5 เม็ด ปลูกในกระถางดินร่วนผสมทรายและปุ๋ยคอก ทำค้างให้ต้นยึดเกาะ รดน้ำทั้งเช้าและเย็น และบำรุงปุ๋ยเมื่อต้นมีอายุได้ 1 เดือน
5. ขจรหรือสลิด: ดอกหอมคุณค่าสูง
ขจรเป็นไม้เลื้อยที่นิยมนำส่วนดอกมารับประทาน เถาเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใบคล้ายรูปหัวใจ และดอกมีกลิ่นหอม ขจรช่วยบำรุงหัวใจ ตับ และไต แก้หน้ามืดวิงเวียน บำรุงสายตา และแก้อาการเมาค้าง
วิธีปลูก: นำกิ่งที่สมบูรณ์มาปักในกระถางดินร่วนผสมปุ๋ยหมัก รดน้ำให้ชุ่มทุกวัน หลังผ่านไป 2 สัปดาห์ปรับมารดวันเว้นวัน และทำค้างให้ต้นเลื้อย
6. พริกไทย: เครื่องเทศและสมุนไพร
พริกไทยเป็นพืชสมุนไพรและพืชเศรษฐกิจ ลำต้นเป็นข้อปล้อง มีเถายึดเกาะ ใบเป็นรูปไข่ และผลทรงกลมสีเขียวเข้ม พริกไทยช่วยบรรเทาอาการปวด ขับลมในกระเพาะ กระตุ้นระบบย่อยอาหาร และป้องกันอัลไซเมอร์
วิธีปลูก: นำกิ่งพันธุ์มาปักชำในกระถางดินดำผสมขี้เถ้าแกลบ ครอบด้วยถุงพลาสติก 30 วัน ย้ายไปปลูกในกระถางใหญ่ ทำค้างให้ต้นเลื้อย และบำรุงปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง
7. ฟักข้าว: ผลสีแดงคุณค่าสูง
ฟักข้าวเป็นพืชล้มลุกมีเถาเลื้อย ใบคล้ายรูปหัวใจ ขอบใบหยัก ผลเป็นทรงกลมมีหนามรอบผล เมื่อสุกจะมีสีแดงหรือส้ม ฟักข้าวช่วยดับพิษ บำรุงปอด แก้ท่อน้ำดีอุดตัน ลดน้ำตาลในเลือด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
วิธีปลูก: นำเมล็ดจากผลสดแช่น้ำ 1 คืน ลอกเปลือกหุ้มเมล็ดออก เพาะในตะกร้าที่มีกากมะพร้าว รดน้ำทั้งเช้าและเย็น เมื่อต้นแข็งแรงย้ายลงดิน และทำค้างให้ต้นเลื้อย
8. ฟักแม้ว: ผักพื้นบ้านคุณค่าสูง
ฟักแม้วเป็นไม้เลื้อยตระกูลแตง ลำต้นเป็นเหลี่ยม ใบมี 5 แฉก ดอกออกตามซอกใบสีเขียว-เหลือง และผลเรียวยาวสีเขียวอมเหลือง ฟักแม้วช่วยขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิต ต้านมะเร็ง และเสริมสร้างกระดูก
วิธีปลูก: ใช้ผลที่สุกเต็มที่หรือมีรากงอกปลูกในกระถางดินผสมปุ๋ยคอกและแกลบดำ รดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นแข็งแรงย้ายไปปลูกในกระถางใหญ่ ทำค้างให้ต้นเลื้อย และบำรุงปุ๋ยทุกเดือน
9. มะระ: ผักขมสรรพคุณเด่น
มะระเป็นไม้เลื้อยที่ขึ้นได้ดีในเขตร้อน มีเถาเลื้อยเกาะ ใบกว้างขอบใบหยัก ดอกสีเหลืองออกตามซอกใบ และผลมีหลายลักษณะตามสายพันธุ์ มะระช่วยแก้ร้อนใน กระตุ้นระบบขับถ่าย แก้อาการอักเสบ แก้หวัด และช่วยรักษาเบาหวาน
วิธีปลูก: ใช้เมล็ดพันธุ์ปลูกในกระถางดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำวันละ 1 ครั้ง และทำค้างให้ต้นเลื้อยยึดเกาะ
10. ชะพลู: ใบหอมรสเด็ด
ชะพลูเป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นได้ทั่วไปโดยเฉพาะที่ชื้น ลำต้นเป็นข้อมีเถาเลื้อย ใบคล้ายรูปหัวใจ ผิวใบขรุขระ ชะพลูช่วยกระตุ้นการขับถ่าย บำรุงสมองและสายตา มีสารต้านอนุมูลอิสระ รักษาเบาหวาน และช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง
วิธีปลูก: เด็ดยอดชะพลูที่มีใบติด 2-3 ใบ ปักชำในกระถางดินร่วน รดน้ำทุกวัน และบำรุงปุ๋ยทุก 3 เดือน

เทคนิคการปลูกผักไม้เลื้อยให้ได้ผลดี
การเลือกพื้นที่ปลูก
เลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ควรเป็นพื้นที่ที่มีการระบายน้ำดี ไม่มีน้ำท่วมขัง และมีแหล่งน้ำใกล้เคียง สำหรับการปลูกในกระถาง ควรเลือกกระถางขนาดใหญ่อย่างน้อย 30 ซม. และมีรูระบายน้ำที่ดี
การทำค้างหรือโครงสร้างรองรับ
ทำค้างหรือโครงสร้างรองรับให้แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักของพืชและผลผลิตได้ ค้างอาจทำจากไม้ไผ่ เหล็ก หรือวัสดุอื่นๆ ที่แข็งแรง รูปแบบของค้างมีหลากหลาย เช่น ค้างตัว A ค้างรูปโดม หรือค้างตาข่าย
การดูแลรักษา
รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้ดิน และช่วยให้พืชเติบโตแข็งแรง หมั่นตรวจสอบและกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้วิธีธรรมชาติเมื่อเป็นไปได้
สรุป
ผักไม้เลื้อยเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำสวนในบ้าน นอกจากจะให้ผลผลิตที่สามารถนำมารับประทานได้แล้ว ยังช่วยสร้างร่มเงา ปรับปรุงคุณภาพอากาศ และเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านอีกด้วย การเลือกปลูกผักไม้เลื้อยที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของคุณ จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำสวนในพื้นที่จำกัด เริ่มปลูกผักไม้เลื้อยวันนี้ และสัมผัสกับความสุขของการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากสวนของคุณเอง
#สาระ #ผักไม้เลื้อย #สวนครัว #ปลูกผักกินเอง #การทำสวน #ตำลึง #บวบ #ถั่วพู #มะระ #ฟักข้าว #ชะพลู