ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นหนึ่งในไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยดอกสีชมพูสวยงามที่บานสะพรั่งในช่วงต้นปี ไม่เพียงแต่จะให้ความงดงามเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์หลากหลายที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ

ชมพูพันธุ์ทิพย์มีต้นกำเนิดจากไหน
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia rosea (Bertol.) DC. และจัดอยู่ในวงศ์ Bignoniaceae ต้นไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ ตั้งแต่ประเทศเม็กซิโกไปจนถึงประเทศเวเนซุเอลาและเอกวาดอร์ นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ประจำชาติของประเทศเอลซัลวาดอร์อีกด้วย4
การเข้ามาสู่ประเทศไทยของชมพูพันธุ์ทิพย์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยมีหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นผู้นำเข้ามาปลูกเป็นครั้งแรก ชื่อ “ชมพูพันธุ์ทิพย์” จึงได้รับการตั้งขึ้นเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้นำเข้าและเป็นการบ่งบอกถึงสีของดอกที่เป็นสีชมพู

ลักษณะเด่นของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 8-25 เมตร ลำต้นมีขนาดใหญ่ เปลือกลำต้นเรียบสีน้ำตาลหรือสีเทา แต่เมื่อมีอายุมากเปลือกลำต้นจะแตกเป็นร่อง เรือนยอดมีรูปไข่หรือทรงกลม แผ่กว้างเป็นชั้น5
ใบของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบเรียงตรงกันข้าม มีใบย่อย 5 ใบ แผ่นใบหนาขอบเรียบ สีเขียวเข้ม ปลายใบเรียว โคนใบสอบ ความกว้าง 3-7 เซนติเมตร ยาว 7.5-16 เซนติเมตร

ดอกและการออกดอกของชมพูพันธุ์ทิพย์
ดอกของชมพูพันธุ์ทิพย์ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง ช่อละ 5-8 ดอก กลีบดอกมีทั้งสีชมพูอ่อน ชมพูสด และสีขาว ตรงกลางดอกสีเหลือง ดอกบานเต็มที่จะมีความกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตร
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์มีการทิ้งใบในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ลักษณะเด่นของต้นไม้ชนิดนี้คือเมื่อออกดอกจะผลัดใบทั้งหมด ทำให้เหลือแต่กิ่งก้านให้ดอกสีชมพูได้ชูช่อเป็นจำนวนมากบริเวณปลายกิ่งดูงดงามยิ่งนัก
การออกดอกของชมพูพันธุ์ทิพย์จะบานเต็มต้นเพียงประมาณ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น4 แต่ในบางปีอาจมีการออกดอกได้ถึง 3 ช่วงในปีเดียวกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

วิธีการปลูกและขยายพันธุ์
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์สามารถปลูกได้ง่าย เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด1 อย่างไรก็ตาม ต้นไม้ชนิดนี้จะชอบดินที่ระบายน้ำและระบายอากาศได้ดีเป็นพิเศษ ควรปลูกบริเวณที่มีแสงแดดเต็มวัน
การขยายพันธุ์ทำได้หลายวิธี โดยวิธีที่นิยมที่สุดคือการเพาะเมล็ด สามารถนำเมล็ดโรยในกระถางที่ใส่ทรายหรือขุยมะพร้าว โรยน้ำให้ชุ่ม ใช้เวลาไม่นานก็จะมีต้นอ่อนงอกออกมา เมื่อลำต้นสูงได้ประมาณ 1 ฟุต ค่อยย้ายไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งหรือปักชำได้เช่นกัน
การดูแลรักษาต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน ควรปลูกในดินร่วนซุยที่มีความอุดมสมบูรณ์และระบายน้ำได้ดี ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
สำหรับการใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 1-2 ครั้งเพื่อบำรุงต้น ในกรณีของต้นที่มีอายุมากแล้ว ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 2 ครั้ง และปุ๋ย 16-16-16 ปีละครั้ง
ข้อควรระวังในการปลูก
หากต้องการปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ในบริเวณรั้วบ้าน ควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านอย่างน้อย 4 เมตรขึ้นไป เพื่อป้องกันรากชอนไชและกิ่งก้านหักทำให้โครงสร้างบ้านเสียหายหรือคนในบ้านเกิดอันตราย เนื่องจากกิ่งของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เปราะหักง่าย
นอกจากนี้ หากคิดจะปลูกควรหมั่นทำความสะอาดบริเวณบ้านบ่อย ๆ ในช่วงที่ดอกร่วง เพราะดอกที่ร่วงโรยจะกระจายทั่วบริเวณ ทำให้ต้องดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ

ประโยชน์และการใช้งาน
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์มีประโยชน์หลากหลาย นอกจากจะนิยมปลูกให้ร่มเงาและประดับตามอาคารบ้านเรือน สวนสาธารณะ และริมถนนแล้ว ยังมีประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
ประโยชน์ทางการแพทย์
ใบของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์สามารถนำไปต้มทำยาบรรเทาอาการท้องเสียได้ นอกจากนี้ยังสามารถตำให้ละเอียดไว้พอกแผลเพื่อช่วยสมานแผลได้4 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เพิ่งเข้ามาเมืองไทยได้ไม่กี่สิบปี จึงยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ทางสมุนไพรและด้านอาหารอย่างครบถ้วน
ประโยชน์ทางอุตสาหกรรม
ลำต้นและเยื่อไม้ของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงและทำกระดาษได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลำต้นทำฟืนได้อีกด้วย

สถานที่ชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่มีชื่อเสียง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ถือเป็นแหล่งชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย โดยมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ปลูกอยู่มากกว่า 200 ต้น และมีอายุมากกว่า 30 ปี
จุดชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่สวยที่สุดคือบริเวณถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ (ถนนสาย 1) ที่มีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ปลูกอยู่สองข้างทางยาว 3.5 กิโลเมตร สร้างอุโมงค์ดอกไม้สีชมพูสดใส เมื่อดอกบานสะพรั่งจะกลายเป็น “ถนนชมพูพันธุ์ทิพย์” ที่สวยงามมาก
นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่สามารถชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ได้ เช่น สวนจตุจักร กรุงเทพมหานคร ที่มีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ปลูกตามแนวรั้วทอดยาวไปตามถนนพหลโยธิน
สรุป
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่ทั้งให้ร่มเงาและเป็นไม้ประดับ พร้อมด้วยสรรพคุณอีกมากมาย ดอกที่สวยงามสร้างความโรแมนติกและเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความเมตตา และความบริสุทธิ์7 สำหรับใครที่พอมีพื้นที่ในบ้าน ก็สามารถปลูกได้ แต่ต้องคำนึงถึงข้อควรระวังในการปลูกและการดูแลรักษาที่เหมาะสม
#สาระ #ชมพูพันธุ์ทิพย์ #ต้นไม้ประดับ #ไม้ให้ร่มเงา #ดอกไม้สีชมพู #การปลูกต้นไม้ #ไม้ยืนต้น #Tabebuia #การจัดสวน #ไม้ต่างประเทศ #ประโยชน์ของต้นไม้