Kave Playground (copy)

ดุสิต อจารา หัวหิน เผยคอนเซ็ปต์ดีไซน์ “Multi-generational Living” ตอบโจทย์ทุกเรื่องราว สู่การเป็นมากกว่าที่พักอาศัย

บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน ที่พักอาศัย Low Rise บนพื้นที่ศักยภาพของหัวหินกว่า 20 ไร่ นำเสนอความเป็น “Multi-generational Living” ในรูปแบบ Branded Residences ตอบโจทย์ที่พักอาศัยที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ครอบคลุมทุกเจเนอเรชัน โชว์ความโดดเด่นด้านงานดีไซน์ที่สร้างสรรค์อย่างประณีตในทุกรายละเอียด ฟังก์ชันการใช้งาน พร้อมแนวคิดการผสานพื้นที่สีเขียวเข้ากับตัวโครงการเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และทุกบทบาทในทุกช่วงวัยของชีวิต For All Chapters of Life

คุณณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด เผยเบื้องลึกของการสร้างสรรค์โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน ว่า “ด้วยศักยภาพของพื้นที่หัวหินที่เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ต ทำให้เราได้ริเริ่มโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ขึ้น โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ซึ่งเดิมคือพื้นที่ “ดุสิต รีสอร์ท แอนด์ โปโลคลับ (Dusit Resort & Polo Club)” สนามโปโลที่เคยเปิดต้อนรับผู้มาเยือนจาก
ทั่วทุกมุมโลก มาพัฒนาเป็นที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตแบบร่วมสมัย ผ่านแนวคิด Multi-generational Living รองรับทุกความสุขของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งโครงการได้ถูกออกแบบบนพื้นที่ 20 ไร่ แบ่งเป็นกลุ่มอาคาร 7 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และอาคาร 6 ชั้น จำนวน 3 อาคาร โอบล้อมรอบสวนใจกลางโครงการกว่า 60% เปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งการพักผ่อน ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติในทุกมิติ ซึ่งในแต่ละอาคาร ได้คำนึงถึงเรื่อง Low Rise, Low Density ทำให้ในเเต่ละอาคารมียูนิตน้อย ทั้งโครงการมีทั้งสิ้น 96 ยูนิตเท่านั้น โดยทุกอาคารหันหน้าเข้าหาส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮ้าส์ส่วนตัว สระว่ายน้ำที่โอบล้อมด้วยวิวธรรมชาติ หรือสนามเด็กเล่นที่ออกแบบอย่างเข้าใจในพัฒนาการของแต่ละช่วงวัย พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยแนวคิด Universal Design ที่ช่วยให้ทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก อีกทั้งโถงทางเดินแบบ Single Corridor ถูกวางผังอย่างประณีต โดยเว้นระยะระหว่างอาคารอย่างมีจังหวะ เพื่อเอื้อให้การไหลเวียนของอากาศตามธรรมชาติ (Cross Ventilation) เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดวัน ซึ่งในทุกรายละเอียดทั้งหมดสามารถ Access เข้ากับธรรมชาติขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางได้อย่าง Seamless ผ่านคอนเซ็ปต์การออกแบบ Bridging Oasis เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีทั้งคุณภาพและความเป็นอยู่ของผู้พักอาศัยทุกเจเนอเรชัน”

คุณสมเกียรติ โล่ห์จินดาพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) สตูดิโอสถาปัตยกรรม
ชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า “โจทย์ในการออกแบบครั้งนี้ คือต้องกำหนดเรื่องราวที่สามารถเชื่อมต่อประวัติศาสตร์พื้นที่โครงการและธรรมชาติให้ออกมาในมิติใหม่ เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยได้เริ่มต้นสำรวจพื้นที่ทั้งแนวระนาบ และแนวสูงผ่านการบินโดรน เพื่อให้รู้วิวที่ได้รับในระดับความสูงของแต่ละชั้น โดยจัดวางองค์ประกอบและเลย์เอาท์ของโครงการเป็นกลุ่มอาคาร รูปแบบของสถาปัตยกรรมในแบบ Low Rise ออกแบบให้แต่ละยูนิตมีหน้ากว้าง (Wide Frontage) เพื่อเปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ภายนอกอาคาร ได้เน้นการใช้เส้นสายสร้างความเรียบง่ายแต่มีรายละเอียด เน้นการใช้วัสดุที่ให้สีสันตามธรรมชาติ คือ ครีมอ่อน เทา น้ำตาลไม้ หรือ สี Dark Bronze ของโลหะ ถ่ายทอดความรู้สึกสุขุม ลุ่มลึก และเหนือกาลเวลา โดยชั้น 1 ถูกออกแบบให้ภายในห้อง
มีความสูงพิเศษตั้งแต่ 3 เมตร – 3.5 เมตร พร้อมสวนส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับส่วนกลางของโครงการได้อย่าง Seamless
อีกหนึ่งความพิเศษ คือ ห้องแบบ 2 ห้องนอน (2-Bedroom) ถูกจัดวางไว้บริเวณหัวมุมของอาคาร เพื่อให้มุมมองเปิดกว้างและเป็นส่วนตัว ขณะที่เพนท์เฮ้าส์ (Penthouse) แบบ 3 ห้องนอน อยู่บนชั้น 5 และ 6 ของอาคารสูง 6 ชั้น ซึ่งเป็นระดับความสูงที่มองเห็นวิวทะเลได้แบบพาโนรามา พร้อมด้วยระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่รับประทานอาหารหรือพักผ่อนกลางแจ้งได้ พร้อมเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับเด็กและผู้สูงอายุ เช่น พื้นกันลื่น และการจัดวางห้องครัวแบบ Linear ที่ขยายตามพื้นที่ใช้สอย อีกทั้งยังสามารถดัดแปลง Pantry ให้เป็นครัวแบบ Asian Kitchen ได้อย่างยืดหยุ่น

สำหรับภายในตัวยูนิตได้แบ่งพื้นที่เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน และพื้นที่ที่สามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างเต็มที่ โดยแบ่งโซนอยู่อาศัยออกเป็น 3 ส่วนหลัก ที่ไล่เรียงจากพื้นที่แบบ Semi-private, Multi-GEN Living Space หรือ Sharing Space และ Private Zone ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ภายในยูนิตยังเน้นการเปิดรับแสงและภูมิทัศน์สีเขียวโดยรอบ และเพื่อส่งเสริมให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ได้มีการเลือกใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำ ทั้งชุดห้องครัว ห้องน้ำ และสุขภัณฑ์ ขณะที่เฟอร์นิเจอร์ภายนอกใช้วัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศริมทะเล เช่น SUS 316 และ Quick-dry Foam ด้านการเลือกใช้วัสดุภายนอกได้ดีไซน์ฟินิชของพื้นผิวให้มีความแตกต่างกัน เช่น ไม้ ปูนฉาบเท็กซ์เจอร์ และ GRC ให้ผิวสัมผัสขรุขระแบบ Aggregate Finish ยิ่งไปกว่านั้นรูปทรงอาคารกับหลังคาทรงจั่วที่เห็นเด่นชัดไม่เพียงแต่สื่อถึงบรรยากาศแบบหมู่บ้านริมทะเล ที่เรียบง่ายและเหนือกาลเวลา (Timeless) และยังเป็นการสะท้อนกลิ่นอายที่สอดคล้องกับการอยู่อาศัยในภูมิอากาศแบบเมืองริมชายฝั่ง(Tropical Living) อย่างหัวหิน”

คุณหทัย รจนาศรีไพโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด หนึ่งในบริษัท
ภูมิสถาปัตยกรรมชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ได้กล่าวเกี่ยวกับการออกแบบพื้นที่สีเขียวด้วยคอนเซ็ปต์ Bridging Oasis ว่า “บริษัทฯ ได้ศึกษาพื้นที่ของโครงการพร้อมวางแนวทาง เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ให้สามารถใช้งานและแนบชิดธรรมชาติมากที่สุด โดยออกแบบพื้นที่ว่างและฟังก์ชันภายนอกอาคาร ให้รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบเบา ๆ และการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพในสวน เสริมความพิถีพิถันที่สะท้อนถึงความใส่ใจถึงขีดสุดผ่านการจัดวางพรรณไม้อย่างเหมาะสมในแต่ละมุมของโครงการ เน้นให้ความสำคัญของการเดินเท้า (Pedestrian Friendly) ที่เป็นเส้นทางวิ่งออกกำลังกาย และเป็นทางเดินเท้าในร่ม (Covered Walkway) ซึ่งจะเป็นเส้นทางลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ และมีจุดพักทุก ๆ 200 เมตร ช่วยให้การเดินกลายเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยวางคอนเซ็ปต์ของการจัดวางพรรณไม้อย่างเหมาะสมในแต่ละมุมของโครงการ ตั้งแต่การจัดวางต้นไม้ใหญ่ในที่ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ร่มเงาเท่านั้น แต่ยังสร้าง Microclimate ที่เหมาะสมกับเมืองร้อน ให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้ถึงความสบายของธรรมชาติในทุกก้าวที่เดิน การเลือกปลูกพืช Non-toxic ในบริเวณคลับเฮ้าส์ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยที่มีสัตว์เลี้ยงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย

โดยพื้นที่สีเขียวถูกจัดวางไล่ระดับ ออกเป็นมิติ 3 เลเยอร์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและสมดุล

1) พื้นที่ด้านนอก ซึ่งเป็นพื้นที่โอบล้อมโครงการด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม โดยบริเวณนี้ได้เก็บพันธุ์ไม้ดั้งเดิมขนาดใหญ่ของพื้นที่ที่มีอายุยาวนานเพื่อสร้างร่มเงาธรรมชาติ อย่าง ต้นหางนกยูงฝรั่ง ต้นไทร และต้นข่อย เป็นต้น

2) พื้นที่ชั้นกลาง เป็นสวนใกล้อาคารและสวนภายในวิลล่า ได้รับการออกแบบให้ผู้พักอาศัย สามารถใกล้ชิดและสัมผัส กับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ผ่านการเลือกปลูกไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมและไม้ผล และ 

3) พื้นที่ส่วนในสุด คือ สวนส่วนกลางที่รองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ เป็นทั้ง Courtyard, Water Recreation Park และ Green Lifestyle Park ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับกิจกรรมของทุกวัย ไปจนถึงเส้นทางวิ่งออกกำลังกายบน Covered Walkway ที่ออกแบบให้เป็นลูปไร้รอยต่อ สร้างประสบการณ์การเดินหรือวิ่งที่ผู้ใช้งานสามารถมีความสุขไปกับการออกกำลังท่ามกลางความสดชื่นของธรรมชาติ และไม่ว่าจะเริ่มวิ่งจากจุดใดของโครงการฯ ก็สามารถกลับที่พักอาศัยได้อย่างง่ายดาย เชื่อมต่อกับทุก Facility และเดินต่อไปยังทางวิ่งขนาดใหญ่ของโรงแรมได้อีกด้วย อีกทั้งยังแยกจากเส้นทางรถยนต์อย่างชัดเจนเพื่อความปลอดภัย”

คุณณัฐภาณุ์ กล่าวเสริมว่า “โครงการดุสิต อจารา หัวหิน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการต่อยอดจุดแข็งของแบรนด์ดุสิตธานี ที่โดดเด่นในด้านการบริการแบบ Gracious Hospitality ระดับเวิลด์คลาส สู่การสร้างประสบการณ์อย่างต่อเนื่องจากธุรกิจโรงแรมสู่ที่พักอาศัยรูปแบบ Branded Residences โดยถ่ายทอดความสวยงาม ฟังก์ชัน และธรรมชาติของพื้นที่ไว้อย่างลงตัว ตอกย้ำศักยภาพในการแปลงงานออกแบบให้เป็นคุณภาพชีวิตที่จับต้องได้ พร้อมเสริมจุดยืนของแบรนด์ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีบทบาทในตลาดลักซ์ชัวรีระดับสากลอย่างมีเอกลักษณ์”

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ชวนยิ้มรับศักราชใหม่ ในงาน “สุขกันเถอะเรา” เติมความสุขหลากรูปแบบผ่านเสน่ห์แบบไทย ๆ ตั้งแต่วันนี้ – 7 มกราคม 2569
ข่าวสาร
นิปปอนเพนต์ ประกาศผล 2 ผู้ชนะ “AYDA AWARDS 2025” สุดยอดรางวัลระดับประเทศของนักออกแบบรุ่นใหม่ยอดฝีมือด้านสถาปนิก – อินทีเรีย เตรียมผลักดันสู่เวทีโลก ต่อยอดโอกาสเรียนฟรีที่ Harvard’s Graduate School of Design
ข่าวสาร
“ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ตอกย้ำผู้นำอาคารสีเขียว คว้ามาตรฐาน LEED Platinum ผสานเทคโนโลยี เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero พร้อมพันธมิตรชั้นนำ
ข่าวสาร
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ กรุงเทพฯ
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ TEDxBangkok 2025 สร้าง “พื้นที่แห่งการสนทนา” เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดและต่อยอดการพัฒนา “พื้นที่แห่งอนาคต” ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ กรุงเทพกรีฑา (The Signature Krungthepkreetha) เปิดตัวบ้านรุ่นใหม่ New Kaiteki Series เพดานสูง 3.2 เมตร ทำเลบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ Brighton College และ Wellington College
Review
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
Loading..